สื่อฯ กรำฝนฟังแถลงข่าว เปิดตัว ‘ไทยนิวเยียร์เดย์’
แอลเอ : สื่อไทยเทศร่วมงานแถลงข่าว “ ไทยนิวเยียร์เดย์ 2004 ” ท่ามกลางสายฝนกระหนำหนัก กงสุลใหญ่ฯ เผยการเตรียมงานคืบหน้าไปมาก มั่นใจทุกอย่างจะต้องสมบูรณ์แบบทันวันที่ 4 เมษายนอย่างแน่นอน
หลังจากที่มีการเตรียมงานมาเป็นเวลาเกือบสองเดือน ในที่สุด คณะกรรมการจัดงาน “ ไทยนิวเยียร์เดย์ 2004 สงกรานต์เฟสติวัล ” ก็พร้อมสำหรับการแถลงข่าวอย่างเป็นทางการเป็นครั้งแรกต่อสื่อมวลชนทั้งไทยและต่างประเทศ โดยการแถลงข่าวดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 18.00 น. ของวันอาทิตย์ที่ 22 กุมภาพันธ์ ในบริเวณนิวฮอลลีวูด พลาซ่า (พลาซ่าบ้านขนมไทย) โดยมีนายอิสินธร สอนไว กงสุลใหญ่ ณ นครลอส แอนเจลิส เป็นประธานในการแถลงข่าวครั้งนี้ และถึงแม้ว่าในวันนั้น เมืองลอส แอนเจลิส จะเจิ่งนองไปด้วยน้ำฝน ซึ่งตกหนักต่อเนื่องมาตั้งแต่วันศุกร์ แต่การแถลงข่าวกิจกรรมซึ่งถือว่าเป็นการรวมพลังครั้งใหญ่ที่สุดของชุมชนไทยในแคลิฟอร์เนียภาคใต้ครั้งนี้ ได้รับความสนใจจากสื่อมวลชน ทั้งไทยและต่างชาติ พากันกรำฝนไปร่วมฟังการแถลงข่าวเป็นจำนวนมาก
งานเริ่มต้นขึ้นโดยการแสดงรำกลองยาวโดยสมาคมอีสานแห่งแคลิฟอร์เนียภาคใต้ และรำอวยพรจากศูนย์ศิลปะวัฒนธรรมไทยเพื่อชุมชน จากนั้นเป็นการเปิดตัวคณะกรรมการฝ่ายต่างๆ อันประกอบด้วย 1 กงสุลใหญ่ อิสินธร สอนไว เป็นประธานคณะกรรมการจัดงาน 2 คุณรอสลิน ปัทมคันธิน นายกสมาคมไทยแห่งแคลิฟอร์เนียภาคใต้ เป็นรองประธานฯ 3 คุณชัญชนิฐ มาร์เทอเรล ผ.อ.ศูนย์ส่งเสริมชาวไทย ประธานคณะอนุกรรมการฝ่ายบริการด้านสุขภาพ 4 คุณปกรณ์ พงศ์ธราธิก ผ.อ.สภาศิลปกรรมไทยแห่งแคลิฟอร์เนียภาคใต้ ประธานคณะอนุกรรมการฝ่ายบันเทิง 5 คุณนงเยาว์ วรานนท์ ผ.อ.ศูนย์พัฒนาสุขภาพชุมชน ประธานคณะอนุกรรมการฝ่ายมรดกไทย 6 อาจารย์วิบูลย์ วันประสาท ผ.อ.ศูนย์ศิลปะไทยเพื่อชุมชน ประธานคณะอนุกรรมการฝ่ายวัฒนธรรม
7 คุณศิริวรรณ นิมิตรศิลป์ ประธานคณะอนุกรรมการฝ่ายจัดหาทุน 8 คุณนภดล วงศ์ชัยวัฒน์ ประธานบริษัทในเครือบีเคที ประธานคณะอนุกรรมการฝ่ายประชาสัมพันธ์ 9. คุณเจ็ต ติลา และคุณประกาศ เย็นบำรุง ประธานคณะอนุกรรมการประชาสัมพันธ์ฝ่ายต่างประเทศ 10 คุณนิพันธ์ โรจนโสภณดิษฐ์ ประธานสภาหอการค้าไทยแห่งแคลิฟอร์เนียภาคใต้ ประธานคณะอนุกรรมการฝ่ายอาหารและร้านค้า 11 คุณเรวัต หลายเจริญทรัพย์ นายกสมาคมไทยแห่งซานดิเอโก้ ประธานคณะอนุกรรมการฝ่ายการเงินและเหรัญญิก 12 คุณอนัครัตน์ ทับทิม บาร์ธ และกลุ่มนิวเวฟ ประธานคณะกรรมการฝ่ายสวัสดิการ 13. คุณพลเทพ อินทุรัตน์ ประธานจัดการแข่งขันกอล์ฟคิงส์คัพ ครั้งที่ 14 ฝ่ายสถานที่ และ 14. คุณภาณุพล รักแต่งาม บรรณาธิการ น.ส.พ.ไทยทาวน์ เป็นเลขานุการ ทั้งนี้ ได้มีการเชิญ คุณทอมมี่ แทง เชฟชื่อดังซึ่งจะมาสาธิตการปรุงผัดไทยกระทะใหญ่ที่สุดในอเมริกา ขึ้นบนเวทีเพื่อกล่าวถึงกิจกรรมในส่วนที่เขารับผิดชอบด้วย
กงสุลใหญ่ ในฐานะประธานคณะกรรมการจัดงานฯ ได้กล่าวขอบคุณทุกคนที่ฝ่าสายฝนมาร่วมงานกันอย่างหนาตา โดยกล่าวว่าเป็นฝนที่ตกอย่างหนักในช่วงแถลงข่าวนั้น ถือนิมิตที่ดีเพราะเทศกาลสงกรานต์ ถือเป็นเทศกาลแห่งน้ำ และกล่าวถึงการเตรียมงาน “ ไทยนิวเยียร์เดย์ 2004 สงกรานต์เฟสติวัล ” ว่ามีความคืบหน้าไปมากแล้ว และเชื่อว่าทุกอย่างจะเสร็จสมบูรณ์ก่อนวันที่ 4 เมษายน ซึ่งเป็นวันจัดงานอย่างแน่นอน
คุณรอสลิน ปัทมคันธิน ในฐานะรองประธานฯ ได้กล่าวถึงกิจกรรมต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นในงาน “ ไทยนิวเยียร์เดย์ 2004 ” ว่า จะเริ่มขึ้นโดยการมีพาเหรดวัฒนธรรม จากสวนศิลปะบาร์นเดลล์ บนถนนฮอลลีวูดตัดกับเวอร์มอนท์ มายังบริเวณไทยทาวน์ โดยขบวนพาเหรดดังกล่าวจะเกิดขึ้นจากความร่วมมือขององค์กรของไทยทุกแห่ง นอกจากนั้นจะมีเวทีการแสดงสองเวที เวทีที่หนึ่งเป็นเวลาสำหรับกาแสดงศิลปะร่วมสมัยของไทย เช่นเพลงลูกทุ่ง และการแสดงของศิลปินท้องถิ่น ส่วนเวทีที่สองจะเป็นการแสดงศิลปะวัฒนธรรมไทย เช่นนาฎศิลป์ ดนตรีไทย ฯลฯ จะมีการสาธิตมวยไทย สาธิตผัดไทยกระทะใหญ่ที่สุดในอเมริกา และมีการออกบูธจำหน่ายสินค้า และให้บริการต่างๆ ประมาณ 156 บูธตลอดแนวถนนฮอลลีวูด ทั้งบูธอาหาร ตรวจสุขภาพ และสินค้าไทยต่างๆ รวมถึงการออกร้านแสดงผลิตภัณฑ์โอท็อปด้วย ขณะที่บนสวนศิลปะบาร์นเดล จะมีการแสดงหนังตะลุง ลิเก และมีการฉายภาพยนตร์ไทย โดยจะมีรสบัสคอยรับส่งระหว่างสถานที่จัดงานทั้งสองแห่งด้วย
คุณทอมมี แทง ได้กล่าวถึงการสาธิตผัดไทยกระทะใหญ่ที่สุดในอเมริกา ซึ่งจะเกิดขึ้นในงาน “ ไทยนิวเยียร์เดย์ 2004 ” ว่า อาจจะเป็นการปรุงผัดไทยขนาด 150-200 ปอนด์ ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน จึงขอเชิญชวนให้ทุกท่านมาร่วมชมกันโดยพร้อมเพรียง
นอกจากนั้น ยังมีการแจ้งถึงรายละเอียดต่างๆ ของงาน “ ไทยนิวเยียร์เดย์ 2004 ” เช่นการจำหน่ายฉลากรัฟเฟิลใบละ 5 ดอลลาร์ เพื่อหารายได้สมทบทุนการจัดงาน โดยมีรางวัลต่างๆ มากมายเช่น ตั๋วเครื่องบินไป – กลับ แอลเอ – กรุงเทพฯ และรางวัลอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งผู้สนใจสามารถติดต่อขอซื้อฉลากรัฟเฟิลได้จากคุณศิริวรรณ นิมิตรศิลป หมายเลขโทรศัพท์ 1-800-921-2596
ทั้งนี้ ในงาน ไทยนิวเยียร์เดย์ 2004 ได้มีการเปิดประมูลเพื่อหาผู้จำหน่ายน้ำดื่มในงาน และสกรีนเสื้อยืดที่ระลึกในงาน โดยกำหนดรายละเอียดการประมูลเอาไว้ดังนี้
ผู้สนใจร่วมประมูลการจำหน่ายน้ำดื่มในงาน จะต้องเจ้าของร้านอาหาร หรือมีใบอนุญาตจากกระทรวงสาธารณสุขแคลิฟอร์เนีย และมีใบทะเบียนการค้า ( Business License) โดยราคาประมูลเริ่มต้นที่ 2 , 000 ดอลลาร์ ทั้งนี้ คณะกรรมการฯ ได้กำหนดราคาจำหน่ายเอาไว้ คือ น้ำเปล่าขนาดขวดละ 16 ออนซ์ ราคาขาย 2 ดอลลรร์ เครื่องดื่มอื่นๆ ขนาดแก้วละ 16 ออนซ์ จำหน่ายราคาแก้วละ 2 ดอลลาร์ กำหนดจุดจำหน่าย 3 จุด
ส่วนคุณสมบัติของผู้ร่วมประมูลสกรีนเสื้อยืดที่ระลึกเพื่อจำหน่ายในงานนั้น กำหนดไว้ว่า จะต้องมีประสบการณ์ 3 ปีขึ้นไป, จำหน่ายตามราคากำหนด คือราคาตัวละ 10 ดอลลาร์ ฯลฯ โดยราคาประมูลเริ่มต้นที่ 2,000 ดอลลาร์ โดยผู้สนใจสามารถติดต่อได้ที่ฝ่ายประชาสัมพันธ์ของงานฯ หมายเลขโทรศัพท์ 1-800-921-2597
ภายหลังเสร็จสิ้นการแถลงข่าว กงสุลใหญ่ ณ นครลอส แอนเจลิส ได้กล่าวกับไทยทาวน์ยูเอสเอนิวส์ว่า ตนรู้สึกยินดีที่งานแถลงข่าวครั้งนี้ได้รับความสนใจจากสื่อมวลชน ทั้งไทยและต่างชาติ แม้ว่าฝนจะตกลงมาอย่างหนักก็ตาม และว่าขณะนี้ ขั้นตอนที่ยากที่สุดของการจัดงานใหญ่แบบนี้คือการขออนุญาตปิดถนนฮอลลีวูด เป็นระยะทางประมาณครึ่งไมล์ของส่วนที่เป็นไทยทาวน์ ได้ผ่านพ้นไปแล้วโดยอาศัยความรู้และประสบการณ์ของศูนย์ศิลปะวัฒนธรรมไทยเพื่อชุมชน ของอาจารย์วิบูลย์ วันประสาท งานส่วนที่เหลือคือการประชาสัมพันธ์ให้กว้างขวางที่สุดเท่านั้น
ขณะที่ วาเลอรี อัลเลน แห่งวาเลอรี อัลเลน พับลิกรีเลชั่น ซึ่งเป็นรับหน้าที่ประชาสัมพันธ์งานไทยนิวเยียร์เดย์ 2004 ต่อสื่อต่างชาติ ได้กล่าวว่า แม้ตนจะเริ่มงานเพียงไม่กี่วัน แต่ก็ได้รับการตอบรับในแง่ดี
“ ในวันนี้ เรามีสื่อมวลชนที่มีความสำคัญสองคนมาร่วมกับเรา เขาเขียนข่าวและบทความให้หนังสือหลายเล่มทางฝั่งตะวันตะวันตกของประเทศ และความตั้งใจของเราส่วนหนึ่งคือการเผยแพร่ข่าวออกไป ไม่ใช่แค่ในชุมชนไทย แต่ทั่วทั้งลอส แอนเจลิส ซึ่งเรากำลังเริ่มทำ ฉันคิดว่า กิจกรรมของชุมชนไทยครั้งนี้ มีองค์ประกอบหลายอย่างที่น่าสนใจและยอดเยี่ยม ฉันคิดว่าเราจะได้รับความสนใจอย่างมากทั่วลอส แอนเจลิส ” ประชาสัมพันธ์ของงาน “ ไทยนิวเยียร์เดย์ 2004 ” กล่าว และว่าตนได้รับการติดต่อจาก เจดี คาร์จิลล์ โปรดิวเซอร์ข่าวบันเทิงของสถานีโทรทัศน์เคทีแอลเอ ระบุว่าสนใจจะทำข่าวเกี่ยวกับกิจกรรมของคนไทยครั้งนี้ด้วย โดยขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการประสานงานกันอยู่
ทั้งนี้ ในการแถลงข่าวดังกล่าว กงสุลใหญ่ฯ ได้รับมอบเงินบริจาคเพื่อสมทบการจัดงานดังกล่าวจากนักธุรกิจสองราย คือคุณอรสา ตันติเจริญเกียรติ ผู้บริหารของบริษัทอีโคโน่ ทราเวิล จำนวน 5,000 ดอลลาร์ และคุณรอน เพชชา ผู้บริหารกิจการในเครือบีเคที จำนวน 5,000 ดอลลาร์
ทั้งนี้ คุณอรสา ตันติเจริญเกียรติ ได้กล่าวด้วยว่า ตนขอขอบคุณกงสุลใหญ่ ณ นครลอส แอนเจลิส และคณะกรรมการทุกท่านที่จัดงาน “ ไทยนิวเยียร์เดย์ ” ขึ้น และเปิดโอกาสให้ตนได้มีส่วนร่วมในการทำหน้าที่ของคนไทย ในการสร้างสังคมไทยในอเมริกาให้ก้าวหน้ายิ่งขึ้น ขณะที่คุณรอน เพชชา กล่าวว่า ตนหวังว่าบรรดานักธุรกิจในไทยทาวน์ทุกคน ควรจะช่วยกันบริจาคสมทบการจัดงานครั้งนี้ให้มากกว่านี้ เพราะงานดังกล่าวจะมีผลทางด้านบวกกับธุรกิจในไทยทาวน์โดยตรง
อนึ่ง งาน “ ไทยนิวเยียร์เดย์ 2004 สงกรานต์เฟสติวัล ” ซึ่งจะมีขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 4 เมษายนนั้น จะมีการถ่าย ทอดสดไปยัง 157 ประเทศผ่านไทยทีวีโกลเบิลเน็ตเวิร์คด้วย โดยจะเป็นการถ่ายทอดสดสองช่วงเวลา คือระหว่าง เวลา 09.00 น ถึง 09.30 น. และ 11.00-13.00 น. โดยบริษัท ไทยทีวี 5 ยูเอสเอ (รายการคนไทยไกลบ้าน) และ ดีทีวี (ดิจิตอล ไทยทีวี) จะรับผิดชอบในส่วนของการถ่ายทำและส่งสัญญาณไปยังสถานีโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5 ในประเทศไทย.
ไทยนิวเยียร์เดย์ บทพิสูจน์พลังสามัคคีคนไทย
เชื่อว่าป่านนี้ ผู้ที่สนใจติดตามข่าวสารที่เกิดขึ้น ในแวดวงคนไทยในลอส แอนเจลิส จากหนังสือพิมพ์ไทยที่มีอยู่มากมายหลายฉบับนั้น คงจะพอทราบกันแล้วว่า ในวันที่ 4 เมษายน หรืออีกเพียงไม่ถึงสองเดือนนับจากวันนี้ ชุมชนไทยจะมีงานใหญ่ “ ไทยนิวเยียร์ เฟสติวัล ” หรือ “ เทศกาลปีใหม่ไทย ” บนถนนฮอลลีวูด เต็มพื้นที่ไทยทาวน์
เป็นการผนึกกำลังขององค์กรคนไทยในลอส แอนเจลิสหลายแห่ง และบางองค์กรก็มาไกลถึงจากซานดิเอโก้ ต่างพาความรู้ ความสามารถ และประสบการณ์เข้ามาร่วมทำงานกัน โดยมีสถานกงสุลใหญ่ ณ นครลอส แอนเจลิส เป็นตัวประสานสำคัญ เพื่อให้ “ ไทยนิวเยียร์เฟสติวัล ” สำเร็จสมบูรณ์ออกมาเป็นงานเผยแพร่ศิลปะวัฒนธรรมไทยของคนไทยที่ยิ่งใหญ่ และเกิดขึ้นเป็นประจำทุกปี ในวันอาทิตย์แรกของเดือนเมษายน
ข่าวบอกว่า ตลอดระยะทาง 0.46 ไมล์บนถนนฮอลลีวูด ช่วงระหว่างถนนเวสเทิร์นและถนนนอร์มังดี จะถูกแบ่งเป็นโซนต่างๆ อย่างลงตัว เช่นโซนแสดงวัฒนธรรมไทย, โซนอาหาร, โซนตรวจสุขภาพ, โซนกีฬา และโซนเล่นสงกรานต์ แต่ละโซนก็จะมีกิจกรรมต่างๆ มากมาย ขณะที่ “ พาเหรดวัฒนธรรม ” ที่จะเดินจากสวนศิลปะบาร์นเดลล์มายังบริเวณงาน ก็เตรียมการเอาไว้อย่างยิ่งใหญ่
ในส่วนขอเวทีสำหรับใช้ประกอบพิธีเปิดหรือกิจกรรมอื่นๆ นั้น ข่าวว่าจะเตรียมเอาไว้ถึงสองเวทีด้วยกัน เวทีแรกเป็นการแสดงศิลปะไทยร่วมสมัย เช่นการแสดงของนักร้องนักแสดงที่จะเชิญมาจากเมืองไทย ส่วนเวทีที่สองจะเน้นหนักไปในทางการแสดงศิลปะวัฒนธรรมไทย ประเภทดนตรีไทย นาฎศิลป์ไทย ฯลฯ
ภาพของ “ ไทยนิวเยียร์ เฟสติวัล ” ที่ตระเตรียมกันเอาไว้นี้ คืองานเชิงเผยแพร่วัฒนธรรมไทยที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่ชุมชนไทยในลอส แอนเจลิส เคยจัดขึ้น และเห็นได้ชัดเจนว่า จะเป็นงานที่ต้องใช้เงินทุนเป็นจำนวนมหาศาล… แว่วมาว่าอาจจะถึงหลักแสน
และแว่วมาเช่นกันว่าปัญหาเฉพาะหน้ายังขวางอยู่อีกหลายประการ ที่สำคัญที่สุดคือการขออนุญาตปิดถนนฮอลลีวูด แม้ว่าจะเคยมีการปิดถนนเพื่อจัดกิจกรรมต่างๆ มาแล้วหลายครั้ง แต่ก็เป็นการปิดเพียงช่วงสั้นๆ เท่านั้น ไม่ได้เต็มตลอดพื้นที่ไทยทาวน์อย่างที่วางแผนกันเอาไว้ ยิ่งกว่านั้นยังมีข้อจำกัดเรื่องเวลาเข้ามาเกี่ยวข้อง เพราะเหลือเวลาอีกเพียงไม่นานนักในการวิ่งยื่นเรื่องขอใบอนุญาตจากหน่วยงานต่างๆ ของรัฐบาล ตั้งแต่เทศบาล, ตำรวจ, ดับเพลิง, สาธารณสุข ฯลฯ
แต่เท่าที่ทราบ คณะกรรมการฝ่ายต่างๆ ได้วิ่งเต้นพยายามดำเนินการกันอยู่อย่างสุดความสามารถ จึงเชื่อได้ว่าประเด็นนี้จะผ่านพ้นไปได้ด้วยดี
แต่ความยิ่งใหญ่ของ “ ไทยนิวเยียร์เดย์ ” จะเกิดขึ้นเต็มตามแผนที่เตรียมกันกันเอาไว้ไม่ได้ หากไม่ได้รับความร่วมมือจากคนไทยทุกคนที่อาศัยอยู่ในเมืองนี้ เพราะพวกเราจะต้องเข้าใจตรงกันว่า งาน “ ไทยนิวเยียร์เดย์ ” นี้เป็นงานเพื่อชาติ เพื่อสังคมส่วนรวม และเพื่อผลประโยชน์ของคนไทยในลอส แอนเจลิส โดยภาพรวม หาใช่เป็นงานของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่
จึงควรที่พวกเราคนไทยทุกคน จะต้องรวมพลังกันเพื่อผลักดันให้ “ ไทยนิวเยียร์ ” เดย์เกิดขึ้นอย่างเต็มรูปแบบ สมดังเจตนารมณ์ให้ได้
โดยเฉพาะเหล่าผู้ประกอบการค้าในบริเวณไทยทาวน์ ซึ่งจากการสำรวจคร่าวๆ ทำให้ทราบว่ามีอยู่ประมาณ 35 รายนั้น เจ้าของธุรกิจเหล่านี้คือผู้ที่จะได้รับผลประโยชน์ ทั้งทางตรงและทางอ้อมจากงาน “ ไทยนิวเยียร์ ” ที่กำลังจะเกิดขึ้น จึงควรอย่างยิ่งที่จะให้ความสนใจช่วยเหลือกิจกรรมครั้งนี้ให้เต็มกำลังความสามารถ
ใครพอมีทุนทรัพย์ก็ช่วยเหลือด้านทุนทรัพย์ ใครมีแรงก็ช่วยลงแรง ใครมีความรู้ประสบการณ์ ก็ขนเอามาช่วยกัน มีเพื่อนมีฝูงโดยเฉพาะชาวต่างชาติก็ชักชวนประชาสัมพันธ์ให้ทราบทั่วกัน และที่สำคัญก็คือ ในวันงาน 4 เมษายน คนไทยทุกคน จะต้องสละเวลามาร่วมงานกันให้พร้อมหน้า
หากเป็นเช่นนั้น เชื่อว่า “ ไทยนิวเยียร์เดย์ ” ที่วางเป้าเอาไว้อย่างยิงใหญ่นั้น จะสำเร็จลุล่วงลงได้ตามประสงค์ทุกประการ.
“ไทยนิวเยียร์เดย์” มีลุ้นได้
“ไทเกอร์วูด” ร่วมงาน
แอลเอ (ไทยทาวน์ยูเอสเอนิวส์) : ผนึกกำลังทุกฝ่ายเตรียมงาน “ เทศกาลปีใหม่ไทย ” ประชุมถี่สัปดาห์ละ1-2ครั้งเพื่อให้ทันเวลาที่กระชั้น ดึงมืออาชีพเข้าร่วมเตรียมงาน ขณะธุรกิจนาฬิกายักษ์ใหญ่ “ เท็กฮอยเออร์ ” เสนอช่วยห้าพัน และติดต่อโปรกอล์ฟ “ ไทเกอร์ วูด ” โชว์ตัวในงาน โดยยินดีออกค่าตัวให้หนึ่งหมื่นดอลลาร์
ความคืบหน้าในการเตรียมงาน “ “ ไทยนิวเยียร์เดย์ ” ” หรือ “ เทศกาลปีใหม่ไทยครั้งที่หนึ่ง ” ซึ่งจะเป็นงานใหญ่ที่รวบรวมองค์กรคนไทยทุกแห่งในลอส แอนเจลิส มาร่วมกันจัดงานเผยแพร่วัฒนธรรมไทยและให้บริการด้านสุขภาพร่วมกันบนถนนฮอลลีวูด โดยจะมีการปิดถนนในช่วงไทยทาวน์ คือระหว่างถนนนอร์มังดีและถนนเวสเทิร์น ในวันอาทิตย์ที่ 4 เมษายน ที่จะถึงนี้นั้น
เมื่อวันที่ 15 มกราคม 2547 ที่ผ่านมา คณะกรรมการจัดงาน “ ไทยนิวเยียร์เดย์ ” และผู้เกี่ยวข้อง ได้จัดให้มีการประชุมเตรียมงานครั้งที่สองขึ้นที่ห้องประชุมชั้น 4 ของสถานกงสุลใหญ่ โดยมีกงสุลใหญ่ อิสินธร สอนไว เป็นประธานในที่ประชุม และได้แจ้งที่ประชุมถึงคณะกรรมการฝ่ายต่างๆ ที่ได้แบ่งงานกันอย่างลงตัวเมื่อคราวประชุมเตรียมงานครั้งแรก (13 มกราคม) ว่าตนเองถูกเสนอให้รับหน้าที่ประธานฯ และได้เลือก น.ส.รอสลิน ปัทมคันธิน เป็นรองประธานฯ
ส่วนคณะอนุกรรมการฝ่ายต่างๆ ประกอบไปด้วย ฝ่ายสถานที่และบริการด้านสุขภาพ โดยคุณชัญชนิฐ มาร์เทอเรลล์, ฝ่ายมรดกไทย โดยคุณนงเยาว์ วรานนท์, ฝ่ายบันเทิง โดยคุณปกรณ์ พงศ์ธราธิก, ฝ่ายวัฒนธรรม โดย อ.วิบูลย์ วันประสาท, ฝ่ายจัดหาทุน โดยคุณศิริวรรณ นิมิตรศิลป์, ฝ่ายประชาสัมพันธ์ โดยคุณนพดล วงศ์ชัยวัฒน์, ฝ่ายอาหารและร้านค้า โดยคุณนิพันธ์ โรจนโสภณดิษฐ์, ฝ่ายการเงินและเหรัญญิก โดยคุณเรวัต หลายเจริญทรัพย์ (นายกสมาคมไทยแห่งซานดิเอโก้) และเลขานุการคือนายภาณุพล รักแต่งาม
รูปแบบของงานไทยนิวเยียร์นั้น จะเป็นการรวมกิจกรรมต่างๆ ที่องค์กรต่างๆ เคยจัดเอาไว้เข้าด้วยกัน กล่าวคืองานวันสุขภาพชุมชนอีสต์ฮอลลีวูดและไทยทาวน์เฟสติวัล ของศูนย์ส่งเสริมชาวไทยและสมาคมผู้ประกอบการค้าไทยทาวน์, งานเทศกาลมรดกไทยและอาหารไทย ของศูนย์พัฒนาสุขภาพชุมชน, วันวัฒนธรรมไทย ของศูนย์ศิลปะไทยเพื่อชุมชน โดยจะมีการเล่นสงกรานต์ และเทศกาลอาหารไทยเสริมเข้าไปด้วย
ในส่วนของขบวนพาเหรดวัฒนธรรมนั้น ที่ประชุมเห็นว่าควรจะเตรียมการให้ยิ่งใหญ่โดยการเชิญสมาคม ชมรมต่างๆ เข้าร่วม มีการแสดงวัฒนธรรมต่างๆ ให้มากขึ้น เช่นแห่นางสงกรานต์ การแสดงของภาคต่างๆ หรือกิจกรรมที่น่าสนใจ เช่นตะกร้อ, ลิเก, รถบุปผชาติ ฯลฯ และควรจะจัดเตรียมที่นั่งสำหรับชมพาเหรดไว้รองรับชาวต่างชาติอย่างน้อยสามจุด ส่วนเส้นทางของพาเหรดวัฒนธรรมนั้น ที่ประชุมเสนอให้เดินจากบริเวณโรงภาพยนตร์ไชนีสเธียร์เตอร์มายังไทยทาวน์ เพราะจะเป็นเส้นทางที่มีผู้ชมเยอะกว่า
นายอิสินธร สอนไว กงสุลใหญ่ ณ นครลอส แอนเจลิส ในฐานะประธานจัดงานฯ กล่าวถึงงบประมาณของรัฐบาลสำหรับเผยแพร่วัฒนธรรมไทยในต่างประเทศว่า ได้รับมาประมาณ 50,000 ดอลลาร์
“ แต่ 50,000 นี่เป็นงบประมาณด้านวัฒนธรรม คือไม่ได้หมายถึงเฉพาะแอลเอ แต่เราก็จะเจียดไปให้เมืองอื่นๆ ด้วย แต่แอลเอเป็นงานใหญ่ ก็คงใช้งบประมาณจำนวนมากพอสมควร เรายังจะมีงานที่ซีแอตเติล ที่ฟีนิกซ์ เราก็ต้องร่วมมือกับเขาอยู่ เพราะเขาเพิ่งเริ่มต้น อาจจะมีที่เวกัสด้วย ” กงสุลใหญ่กล่าว
ในประเด็นงบประมาณการจัดงานนั้น ที่ประชุมเสนอให้มีการขอความสนับสนุนจากองค์กรธุรกิจขนาดใหญ่ของต่างชาติฯ มาประกอบด้วย ทั้งนี้ นายนภดล วงศ์ชัยวัฒน์ ได้ชี้แจงต่อที่ประชุมว่าได้รับการติดต่อจากนักธุรกิจนาฬิกา เท็กฮอยเออร์ ( TAG heuer) ว่ายินดีสนับสนุนการจัดงาน “ ไทยนิวเยียร์เดย์ ” เป็นเงิน 5,000 ดอลลาร์ โดยบริษัทนาฬิกาชื่อดังได้เสนอด้วยว่า สามารถเป็นตัวกลางติดต่อ ไทเกอร์ วูด นักกอล์ฟอาชีพชื่อก้องโลกให้มาร่วมงานได้ โดยเท็กฮอยเออร์จะรับผิดชอบค่าตัวของโปรกอล์ฟลูกครึ่งไทยอเมริกันจำนวน 10,000 ดอลลาร์ ส่วนที่นอกเหนือจากนั้น เป็นภาระของคณะกรรมการจัดงาน ซึ่งที่ประชุมรับไว้พิจารณา
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้มีการเสนอให้ใช้บริการของ “ มืออาชีพ ” ในด้านประชาสัมพันธ์ และการเตรียมงานต่างๆ ซึ่งมีความซับซ้อนยุ่งยากและต้องใช้เวลา เช่นการขออนุญาตปิดถนน ขออนุญาตจากดับเพลิง ขอใบอนุญาตจำหน่ายอาหาร และอื่นๆ โดยในการประชุมครั้งนี้ ได้มีตัวแทนของบริษัทรับจัดงานเทศกาล ( Events Production) ชื่อ อินโนเวชั่น โปรดักชั่น เข้ารวมประชุมด้วย โดยยืนยันว่า การขอใบอนุญาตต่างๆ จากส่วนราชการในระยะเวลาที่เหลือเพียงสองเดือนเศษนั้น ไม่มีปัญหาแน่นอน
อย่างไรก็ดี กงสุลใหญ่อินสินธร สอนไว กล่าวถึงการใช้บริการของบริษัทอินโนเวชั่น โปรดักชั่นว่า เป็นไอเดียที่ดี แต่ต้องอยู่ในดุลพินิจของคณะกรรมการ
“ แน่นอน มืออาชีพทำงานได้ดี แต่ค่าใช้จ่ายก็ต้องเพิ่มขึ้น ต้องดูก่อน คณะกรรมการต้องพิจารณากันว่าจะจ้างเขาให้เต็มสเกลไปเลย หรือว่าแค่บางส่วนบางเรื่อง แล้วแต่งบประมาณด้วย เหตุนี้ กรรมการฝ่ายงบประมาณ เขาถึงบอกว่าให้แต่ละฝ่ายคำนวณงบฯ คร่าวๆ แล้วก็แจ้งไปทางเขา ” นายอิสินธร สอนไว กล่าว
อ.วิบูลย์ วันประสาท ผู้อำนวยการศูนย์ศิลปะไทยเพื่อชุมชน ซึ่งจัดงานวันวัฒนธรรมไทยต่อเนื่องกันมานานถึง 11 ปี กล่าวถึงการร่วมมือจัดงาน “ ไทยนิวเยียร์เดย์ ” ว่า ตนถือว่าเป็นนิมิตหมายที่ดี แสดงถึงความสามัคคี ร่วมแรงร่วมใจกันของคนไทยในลอส แอนเจลิส
“ แต่ตอนนี้ ผมก็ยังหาทางออกอยู่ เพราะทางศูนย์มีคอนเท็กซ์อยู่กับซิตี้เรื่องการจัดงานวันวัฒนธรรมไทย ซิตี้ได้กำหนดไว้แล้วและได้ลงในปฏิทินของซิตี้ ว่าในเดือนกันยา ปีนี้ก็ 19 กันยา จะต้องมีวันวัฒนธรรม เขาก็ถามมาว่าปีนี้จะมีหรือเปล่า ” อ.วิบูลย์กล่าว และว่า “ แต่ผมเชื่อว่าทุกฝ่ายมีสติปัญญา มีทางออก งานไทยนิวเยียร์ผมช่วยทำเต็มที่ไปก่อน ”
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเวลาที่กระชั้นชิด ทำให้ที่ประชุมเห็นพ้องกันว่า คณะกรรมการฯ ควรจัดประชุมกันทุกสัปดาห์ หรืออาจจะสัปดาห์ละสองครั้ง โดยการประชุมเตรียมงานครั้งต่อไป (ครั้งที่ 3) จะมีขึ้นในวันศุกร์ที่ 23 มกราคม เวลา 18.00 น. ที่ห้องประชุมชั้น 4 อาคารสถานกงสุลใหญ่ ณ นครลอส แอนเจลิส.
ปิดถนนฮอลลีวูด จัดวันสงกรานต์
4 เมษายน ขอคนไทยร่วมพาเหรด
งาน Thaitown New Year’s Day 2004 ได้ฤกษ์จัด 4 เมษายน ปิดถนนฮอลลีวูดในเขตไทยทาวน์ ฝ่ายพาเหรดขอคนไทยทุกสมาคมชมรมส่งเข้าร่วมเดิน เผยตั้งงบไว้ 9 หมื่นดอลลาร์ยังขาดอีก 5-6 หมื่น ดึงโจนัส-คริสตี้มาโชว์อีก
ที่ห้องประชุมชั้น 4 สถานกงสุลใหญ่แอล.เอ. เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ เวลา 19.00 น. ได้มีการประชุมคณะกรรมการจัดงานวันสงกรานต์ไทยหรือ New Year’s Day 2004 โดยมีนายอิสินธร สอนไว กงสุลใหญ่ เป็นประธานและมีนายกสมาคม ประธานชมรมตลอดจนคณะกรรมการฝ่ายต่างๆ เข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง การจัดงานครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ฝ่ายต่างๆได้ร่วมมือกัน ไม่ได้แยกจัดเหมือนที่ผ่านมา
งานวันสงกรานต์ครั้งแรกที่ชุมชนไทยแอล.เอ.จัดขึ้นแยกให้เห็นเป็นมิติต่างๆได้ 3 มิติ ด้านศิลปะวัฒนธรรม และ เอกลักษณ์ของชาติ ประกอบด้วยการแสดงนาฏศิลป์ ดนตรีไทย มวยไทย การแสดงกิจกรรมบันเทิง โดยศิลปินนักร้อง นักแสดงจากประเทศไทย มิติทางเศรษฐกิจ จัดแสดงสินค้า OTOP การจำหน่ายสินค้าและอาหารไทย และมิติทางชุมชนสัมพันธ์ให้บริการด้านสุขภาพต่างๆ
นายอิสินธรแจ้งแก่ที่ประชุมว่างานครั้งนี้ พันตำรวจโท ดร.ยงยุทธ์ สาระสมบัติ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีและคณะจะนำสินค้าหนึ่งผลิตภัณฑ์หนึ่งตำบล (OTOP) จากประเทศไทยมาร่วมแสดงด้วย
ทั้งนี้สรุปได้ว่าจะจัดงานขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 4 เมษายนศกนี้ ระหว่างเวลา 10.00-17.00 น. โดยปิดถนนฮอลลีวูดช่วงระหว่างถนนเวสเทิร์นถึงถนนโฮบาร์ต บริเวณกลางไทยทาวน์ โดยจะเปิดแถลงข่าวอย่างเป็นทางการวันอาทิตย์ที่ 22 กุมภาพันธ์ เวลา 17.00-19.00 น. ณ Hollywood Plaza เปิดโอกาสให้สื่อมวลชนไทยและต่างประเทศ ฟังการแถลงข่าวตลอดจนตอบคำถามต่างๆถึงการจัดงาน
จากการสังเกตการณ์ในการประชุมวันนั้นทราบว่า รูปแบบของงานจะจัดออกเป็น 3 ลักษณะ คือ เริ่มจากพิธีสงฆ์ด้วยการนิมนต์พระมารับบิณฑบาตแสดงให้เห็นประเพณีวัฒนธรรมทางพุทธศาสนาเป็นเบื้องแรก จากนั้นตามด้วยขบวนพาเหรด ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของ นายวิบูลย์ วันประสาท ผอ.ศูนย์ศิลปะและวัฒนธรรมไทยแห่งลอส แองเจลิส ที่ยังต้องการอาสาสมัครเข้ามาร่วมเดินพาเหรด หากสมาคมชมรมหรือองค์กรใดต้องการเข้าร่วมติดต่อไปยัง นายบุญเรือง เกตุพงษ์สุดา ที่ 714-228-5728 และ 818-259-7415 พร้อมกันนั้นยังจะขอยืมรถสะสมรุ่นเก่าๆ หากผู้ใดมีเพื่อนำมาเข้าร่วมขบวนอีกด้วย
ในส่วนที่สองของงาน จัดบริเวณถนนฮอลลีวูดจะมี 2 เวทีการแสดง โดยเวทีแรกจะแสดงด้านวัฒนธรรมไทย เช่นการรดน้ำดำหัว การละเล่นแบบไทยในวันสงกรานต์ ซึ่งจะเป็นหัวใจสำคัญของการเผยแพร่งาน ส่วนเวทีที่สอง เป็นการแสดงคอนเสิร์ต โดยผู้จัดได้นำนักร้องดัง โจนัส-คริสตี้ เดินทางจากประเทศไทยมาร่วมงานด้วยเพื่อดึงดูดผู้เข้าร่วมงาน ส่วนนี้ยังจะมีเวทีมวย และการแสดงอื่นๆอีกด้วย
นอกจากนี้ ยังจะสาธิตการทำผัดไทยกระทะใหญ่ ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 6 ฟุต โดยนายเจ็ท ติลกมนกุล ผู้จัดการตลาดบางกอก จะเป็นผู้สาธิตให้ต่างชาติได้รับชม มีการเปิดบูธด้านสุขภาพ บูธจำหน่ายสินค้าที่ระลึก บูธขายอาหาร การประชาสัมพันธ์องค์กร และบริษัทห้างร้านต่างๆ การจองบูธจะกระทำได้ นับตั้งแต่หลังการแถลงข่าววันที่ 22 กุมภาพันธ์เป็นต้นไป
ในส่วนที่สามจัดที่ Barnsdall Art Park ถนนฮอลลีวูด กับเวอร์มอนต์ บริเวณนี้จะเป็นส่วนประกอบของงาน ซึ่งจะใช้เป็นที่ฉายหนัง การแสดงลิเก และหนังตลุง เป็นต้น
ที่ประชุมยังพิจารณาถึงเรื่องงบประมาณ โดยตั้งรายจ่ายไว้ 90,000 ดอลลาร์ และหากขายบูธหมด รวมทั้งรายรับด้านอื่นๆ อาธิ จากสถานกงสุลใหญ่แอล.เอ. 2.5 หมื่นดอลลาร์ การขาย Raffles และอื่นๆในขณะนี้จะมีรายรับประมาณ 4.3 หมื่นดอลลาร์ ซึ่งนางศิริวรรณ นิมิตรศิลป์ ประธานอนุกรรมการฝ่ายหาทุนแจ้งว่า ได้ส่งจดหมายไปขอเรี่ยไรบริจาคอีก 40 ราย ซึ่งรายแรกที่ให้มาแล้ว 1,000 ดอลลาร์คือนางวนิดา ศรีวรมณ์ เจ้าของห้องอาหารไทยนคร
อย่างไรก็ตามที่ประชุมยังไม่ได้พิจรณา ถึงสวัสดิการด้านน้ำ และอาหารของผู้ปฎิบัติงาน ตลอดจนค่ารักษาความปลอดภัยค่าจ้างเก็บขยะ และหากรายรับไม่เป็นไปตามเป้าหมายแล้ว นายนภดล วงค์ชัยวัฒน์ ประธานอนุกรรมการฝ่ายประชาสัมพันธ์ ประเมินน่าจะขาดดุลอยู่ 5-6 หมื่นดอลลาร์ ซึ่งที่ประชุมจะต้องพิจรณากันอย่างรอบคอบ เพราะงานทุกอย่างมักจะมีค่าใช้จ่ายบานปลายออกไป
ต่อมากงสุลใหญ่ติดธุระออกจากที่ประชุมเวลา 21.00 น.เศษ และมอบหมายให้นางนันทนา ศิวะเกื้อ รองกงสุลใหญ่ทำหน้าที่ประธานการประชุมต่อไป โดยพิจรณาถึงเรื่องรายรับรายจ่ายไม่สมดุลกัน ซึ่งนางนันทนากล่าวว่า การจัดงานครั้งนี้จะต้องมีขึ้นอย่างแน่นอน หากยังหาทุนได้ไม่ครบอาจลดลำดับความสำคัญของงานลง และตัดส่วนไม่สำคัญทิ้งไป ที่ประชุมได้นัดประชุมความคืบหน้ากันอีกครั้งต้นเดือนมีนาคม.
ข่าวจาก หนังสือพิมพ์ ดิเอเชี่ยนแปซิฟิก ฉบับที่ 159 วันที่ 20-26 กุมภาพันธ์ 2547
วันปีใหม่ไทยบนถนนฮอลลีวูด
นิมิตรดีของชุมชนไทยใน นคร ลอสแองเจลีส ที่เกิดการรวมตัวกันขององค์กรสมาคม และสถาบันต่างๆ ในชุมชนแห่งนี้ที่ได้ให้สัญญาร่วมกันว่าจะผนึกกำลังร่วมกัน ในการจัดงานวันปีใหม่ไทยขึ้น เป็นครั้งแรก ซึ่งก่อนหน้านั้น ได้มีการแยกจัด แยกทำงานกันปีละหลายครั้ง เช่น การจัดงานของศูนย์ส่งเสริมชาวไทย, การจัดงานของ ศูนย์ศิลปวัฒนธรรมไทย และการจัดงานขององค์กร เพื่อบริการชุมชนอื่นๆ
แค่เห็น “แกน” ของผู้จัดงานก็น่าจะเห็นภาพความอลังการในด้านต่างๆ หลายมุม หลายด้าน ขอให้แค่แต่ละกลุ่มรวมใจเป็นเสียงเต้นของหัวใจในร่างเดียวกัน แค่นั้นเรื่องหมางๆ บาดๆ อะไรเก่าๆ ก็ควรฆ่าตัดตอนให้หมด ไปก่อน งานนี้จะออกมาสวยมาก
น.ส.พ.สยามโครนิเคิล ฉบับวัน เสาร์ที่ 21 กุมภาพันธ์ 2547
ประมวลข่าวกิจกรรม
ไทยทาวน์เฟสติวัลและวันสุขภาพชุมชนอีสต์ฮอลลีวูด
แอลเอ (ไทยทาวน์ยูเอสเอนิวส์) : ผู้คนกว่าสองพันร่วมงาน “ไทยทาวน์เฟสติวัล” และ “งานสุขภาพชุมชนอีสต์ฮอลลีวูด” ทุกฝ่ายชื่นชมกับความสำเร็จที่เกิดจาก “พลังสามัคคี” ของชุมชนไทย สองศิลปินจากเมืองไทย “โจนัส และคริสตี้” โชว์ลีลาฝรั่งหัวใจไทย สร้างความสนุกสนานให้กับผู้มาร่วมงานท่ามกลางแดดเปรี้ยง คณะผู้จัดประสานเสียงปีหน้าจะเชิญทุกองค์กรเข้าร่วมเพื่อให้เป็น “เฟสติวัล” ของคนไทยอย่างแท้จริง
เมื่อวันอาทิตย์ที่ 18 พฤษภาคมที่ผ่านมา ตั้งแต่เวลาประมาณ 10.00 น. ได้มีการปิดถนนฮอลลีวูด บริเวณระหว่างถนนเซอร์ราโน่ กับโฮบาร์ท หรือบริเวณหน้าศูนย์อาหารไทยแลนด์พลาซ่า และพลาซ่าของร้านอาหารสวนตาล, บ้านขนมไทย ฯลฯ อันเป็นช่วงที่เรียกได้ว่าเป็นใจกลางของ “ไทยทาวน์” เพื่อจัดงานใหญ่ของชุมชนไทยขึ้นสองงาน คือ งานไทยทาวน์เฟสติวัล ครั้งที่หนึ่ง และงานสุขภาพชุมชนอีสท์ฮอลลีวูด ครั้งที่สอง
ในส่วนของงานสุขภาพชุมชนอีสท์ฮอลลีวูดนั้น มีการให้บริการตรวจสุขภาพและให้ความรู้เกี่ยวกับสุขภาพด้านต่างๆ โดยองค์กรด้านสุขภาพต่างๆ ประมาณ 36 องค์กร ตั้งแต่บริการตรวจแมมโมแกรมหามะเร็งเต้านมสำหรับสุภาพสตรี, ตรวจโรคเบาหวาน, ตรวจความดัน, ตรวจไขมันในเส้นเลือด, ตรวจเชื้อเอชไอวี, บริการฉีดวัคซีนสำหรับเด็ก ฯลฯ โดยบริการต่างๆ เหล่านี้ จัดเป็นเต็นท์เรียงรายไปบนถนนฮอลลีวูด ขณะที่ในส่วนของงานไทยทาวน์เฟสติวัลนั้น จัดให้มีการออกร้านจำหน่ายอาหาร, สินค้าและบริการต่างๆ จำนวนประมาณ 40 ร้าน โดยทั้งหมดจะอยู่ในบริเวณพลาซ่าของร้านอาหารสวนตาล อีกทั้งมีการแสดงต่างๆ บนเวที ซึ่งอยู่บนถนนฮอลลีวูดบริเวณหน้าร้านสวนตาล
งานดังกล่าวนี้ เป็นการร่วมมือร่วมใจขององค์กรคนไทยสี่หน่วยงาน คือศูนย์ส่งเสริมชาวไทย ของนางชัญชนิฐ มาเทอเรล รับผิดชอบในส่วนของงานสุขภาพชุมชน ส่วนในส่วนของไทยทาวน์เฟสติวัลนั้น รับผิดชอบด้วยสมาคมผู้ประกอบการค้าในไทยทาวน์, สภาวัฒนธรรมไทยแห่งลอส แอนเจลิส โดยนายปกรณ์ พงศ์ธราธิก ในฐานะประธานสภาฯ และสภาหอการค้าไทยแห่งแคลิฟอร์เนียภาคใต้ โดยนายนิพันธ์ โรจนโสภณดิษฐ์ ในฐานะประธานสภาฯ โดยความร่วมมืออย่างดียิ่งของบรรดาผู้ประกอบการค้าในบริเวณไทยทาวน์ และบริเวณใกล้เคียง ส่วนกิจกรรมที่จัดให้มีขึ้นในงานครั้งนี้ นอกเหนือจากการแสดงบนเวทีโดยเหล่าศิลปินรับเชิญทั่วแอลเอ และการแสดงโปงลาง แล้ว ยังมีศิลปินนักร้องลูกทุ่งชื่อดังจากเมืองไทย คือโจนัส แอนเดอร์สัน และคริสตี้ กิ๊บสัน มาร่วมสร้างสรรค์ความบันเทิงให้กับผู้มาร่วมงานด้วย อีกทั้งยังมีการแจกเสื้อยืด “วีเลิฟไทยทาวน์” ที่เตรียมไว้จำนวนสามพันตัวให้ผู้มาร่วมงานด้วย โดยเสื้อยืดดังกล่าวนั้นมาจากการร่วมบริจาคโดยธุรกิจต่างๆ สิบราย รายละ 750 ดอลลาร์ คือร้านนุชและซีเอคอสเมติก, ร้านเรือนแพ, ร้านโบลท์ แกลอรี่, ร้านสวนตาล (500 ดอลลาร์), ร้านบ้านขนมไทย, ร้านเอจี ซิลค์สกรีน, ดาวน์ทาวน์แอลเอมอเตอร์, อีโคโน่ทราเวิล, รีแม็กซ์ และรามา
จากการสังเกตการณ์ของผู้สื่อข่าว”ไทยทาวน์ยูเอสเอนิวส์” พบว่า มีผู้คนเริ่มทยอยมาร่วมงานตั้งแต่เช้า ร้านค้าที่มาร่วมเปิดจำหน่ายสินค้าในงานเริ่มมีลูกค้ามาอุดหนุนหนาตาทันทีที่มีการปิดถนน ทุกร้านพูดเหมือนกันว่า มีลูกค้ามากกว่าที่คิด เกรงว่าสินค้าที่เตรียมมา โดยเฉพาะอาหารต่างๆ เช่นขนมจีน ก๋วยเตี๋ยว ฯลฯ นั้นจะไม่พอขาย ขณะที่บริเวณหน้าเวทีเริ่มมีผู้คนจับจองที่นั่งเพื่อชมการแสดง ที่เริ่มขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 10.30 น. โดยนักร้องรับเชิญหลายท่านสลับกันขึ้นแสดงเพื่อสร้างความบันเทิง เช่นการแสดงดนตรีไทยจากวัดไทยลอส แอนเจลิส, การแสดงของฟาโรห์และน้องแหม่ม, ชาย เมืองชล, ถาวร นครสวรรค์, นิพนธ์ อิ่มใจและลูกสาวคือน้องนาตาลี, มิสเตอร์แจ็ค, ขวัญรัก รักสุรินทร์, น้องเชอรี่ โดยมีต้อย ตีวิด และปกายทิพย์ มาลากุล ทำหน้าที่เป็นพิธีกรบนเวที
ต่อมา ในเวลาประมาณ 12.00 น. ได้มีพิธีเปิดงานอย่างเป็นทางการขึ้น มีการเชิญคณะผู้จัดงานทุกฝ่ายขึ้นบนเวที โดยกงสุลใหญ่ ณ นครลอส แอนเจลิส นายอิสินธร สอนไว ซึ่งใส่เสื้อยืด “วีเลิฟไทยทาวน์” เช่นเดียวกับคณะผู้จัดงาน และผู้ประกอบการค้าทุกแห่งในย่านไทยทาวน์ รวมถึงผู้มาออกร้านจำหน่ายสินค้าในงาน ได้กล่าวเปิดงานว่า ตนเองรู้สึกยินดีและเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้มาร่วมงานในวันนี้
“งานวันนี้มีผู้มาร่วมงานอุ่นหนาฝาคั่ง ตรงนี้สะท้อนถึงความสมัครสมานสามัคคีของชาวไทยที่นี่ งานนี้ ต้องขอขอบคุณผู้จัดงานหลายฝ่าย ทั้งทางไทยซีดีซี สมาคมหอการค้าไทย สมาคมวัฒนธรรมไทย และนักธุรกิจชาวไทยที่อยู่ในย่านไทยทาวน์นี้” กงสุลใหญ่กล่าว
นายอิสินธรกล่าวด้วยว่า ไทยทาวน์ถือเป็นหน้าตาของสังคมไทยในแอลเอ การจัดงานไทยทาวน์เฟสติวัลและงานสุขภาพชุมชน ทำให้สังคมไทยเป็นที่รู้จักมากขึ้น เป็นการเผยแพร่วัฒนธรรมประเพณี อาหารไทย สินค้าไทยให้ต่างชาติได้รู้จัก อีกทั้งได้เชิญชวนให้ผู้มาร่วมงานทุกเพศทุกวัยเข้ารับการตรวจสุขภาพด้วย
“ผมอยากขอเชิญชวนให้พวกเราทั้งหลาย ทั้งผู้สูงอายุ กลางคนหรือวัยรุ่น ได้มีการตรวจสุขภาพของท่าน ตรวจเลือด ตรวจความดัน ตรวจโรคต่างๆ เป็นมาตรการในการป้องกันไว้ก่อน จะเป็นประโยชน์กับตัวเอง”
วันวัฒนธรรมไทย โดยศูนย์ศิลปะวัฒนธรรมไทยเพื่อชุมชน
แอลเอ (ไทยทาวน์ยูเอสเอนิวส์) : ศิลปะและวัฒนธรรม ไทยตระการตาที่สวนศิลปะบาร์นสเดลล์ ถนนฮอลลีวูด ไทยและเทศแน่นงาน “ วันวัฒนธรรมไทยครั้งที่ 11” เมื่อวันที่ 21 กันยายน ศูนย์ศิลปวัฒนธรรมไทยเพื่อชุมชน โดยอาจารย์ วิบูลย์ วันประสาท ผู้อำนวยการศูนย์ ได้จัดงานวันวัฒนธรรมไทยครั้งที่ 11 ขึ้นโดยความร่วมมือขององค์กรต่างๆ
เมื่อวันที่ 21 กันยายน ศูนย์ศิลปวัฒนธรรมไทยเพื่อชุมชน โดยอาจารย์ วิบูลย์ วันประสาท ผู้อำนวยการศูนย์ ได้จัดงานวันวัฒนธรรมไทยครั้งที่ 11 ขึ้นโดยความร่วมมือขององค์กรต่างๆ เช่นเทศบาลนครลอส แอนเจลิส, สภาศิลปกรรมแห่งแคลิฟอร์เนีย รวมถึง องค์กรของรัฐบาลไทย เช่น สถานกงสุลใหญ่ ณ นครลอสแอนเจลิส และทีมไทยแลนด์ และสมาคม ชมรม ของคนไทยในท้องที่อีกหลายหน่วยงาน
โดยงานเริ่มตั้งแต่เวลา 10 นาฬิกา โดยมีการเดินพาเหรดวัฒนธรรมไทย จากบริเวณไทยทาวน์ บนถนนฮอลลีวูด ขึ้นไปยังสถานที่จัดงาน คือสวนศิลปะ บาร์นสเดลล์ (Barnsdall Art Park) ซึ่งอยู่ไม่ไกลนักจากเขตไทยทาวน์ โดยขบวนพาเหรดมีนายจอห์น เชน ซึ่งเป็นหนึ่งในคณะกรรมการภาษีของรัฐแคลิฟอร์เนีย (California Board of Equalization) เป็นประธานในขบวนพาเหรด คู่กับนายอิสินธร สอนไว กงสุลใหญ่ ณ นครลอส แอนเจลิส
ในงานที่สวนศิลปะบาร์นเดลล์ มีการออกร้านจำหน่ายอาหาร เครื่องดื่ม รวมถึงสินค้าไทยต่างๆ มากมาย เช่นเดียวกับการออกร้านเผยแพร่วัฒนธรรมไทย ไม่ว่าจะเป็นการสาธิตแกะสลักผักผลไม้, โชว์ผ้าไทย และร้านของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เป็นต้น
ในส่วนของการแสดงศิลปวัฒนธรรมไทยบนเวทีนั้น มีมากมาย เช่นการโชว์ดนตรีไทย, รำมวยไทย, ชกมวย, นาฏศิลป์ไทยชุดต่างๆ รวมถึงการแสดงลิเก, หนังตะลุง ส่วน “ไฮไลต์” ของงานอยู่ที่การประกวดแต่งกายชุดไทยสวยงาม ซึ่งแบ่งการประกวดออกเป็นสามรุ่น คือรุ่นเด็ก, รุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี และรุ่นผู้ใหญ่ ซึ่งผู้ชนะในรุ่นผู้ใหญ่ได้รับถ้วยรางวัลพระราชทานจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาสยามบรมราชกุมารี เป็นรางวัลอันทรงเกียรติด้วย
ทั้งนี้ ผู้ได้รับรางวัลชนะเลิศในรุ่นเล็กได้แก่ เด็กหญิงอุ้มดาว เอนเดอร์สัน รุ่นกลางได้แก่ น.ส.อรอินทร์ ฉันทนะสุขศิลป์ และรุ่นผู้ใหญ่ได้แก่ น.ส.เชอรี่ ทรรพวสุ ซึ่งทั้งสามคนสวมใส่เสื้อผ้าชุดไทยจากร้านบ้านไหมไทย
อาจารย์วิบูลย์ วันประสาท ผู้อำนวยการศูนย์ศิลปวัฒนธรรมไทยเพื่อชุมชน กล่าวถึงวัตถุประสงค์ของการจัดงานวันวัฒนธรรมไทยว่า เป็นไปเพราะต้องการเผยแพร่ศิลปะวัฒนธรรมไทยในนครลอส แอนเจลิสและอเมริกาเป็นประการแรก ต่อจากนั้นก็คือการประชาสัมพันธ์ชุมชนไทยให้มีเกียรติ มีศักดิ์ศรีในนครลอส แอนเจลิส ทั้งนี้ อาจารย์วิบูลย์ วันประสาท ยังกล่าวด้วยว่า การจัดงานในลักษณะนี้ต้องอาศัยความร่วมมือจากหลายหน่วยงาน “ซิตี้ออฟลอส แองเจลิส ต้องอนุมัติถึงจะจัดงานนี้ได้ ได้มีการส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจและทุกฝ่ายเข้ามาร่วมงานเพื่อปกป้องเราไม่ให้อันตราย มีประกันให้ชุมชนไทย เขาตระหนักว่าชุมชนไทยมีความสำคัญจากการจัดงานวัฒนธรรมไทย ส่วนค่าใช้จ่ายเราได้รับความสนับสนุนจากซิตี้ออฟ ลอส แอนเจลิส จากแคลิฟอร์เนียอาร์ตเคาน์ซิล จากสถานกงสุลใหญ่ ณ นครลอส แอนเจลิส จากทีมไทยแลนด์ และจากพลังของอาสาสมัครทั้งหลายด้วย”
งานวันวัฒนธรรมได้รับความสนใจจากสื่อมวลชนทั้งไทยและต่างประเทศเป็นอย่างดี โดยผู้อำนวยการศูนย์ศิลปวัฒนธรรมไทยเพื่อชุมชน กล่าวว่า หนังสือพิมพ์ลอส แอนเจลิส ไทมส์ ซึ่งมียอดพิมพ์ประมาณล้านเล่มต่อวัน ได้บรรจุงานวันวัฒนธรรมไทยลงไปในปฏิทินกิจกรรมชุมชนเป็นที่เรียบร้อยแล้วค่าใชจ่าย
ส่วน ทอดด์ เฮนสัน ชาวอเมริกันซึ่งทำหน้าที่เป็นผู้ดำเนินรายการบนเวทีของงานวันวัฒนธรรมไทยติดต่อกันมาเป็นเวลาห้าปี ได้กล่าวว่างานในลักษณะเช่นนี้จะทำให้ต่างชาติรู้จักและเข้าใจวัฒนธรรมไทยได้ดีขึ้น
“ผมเองก็ได้เรียนรู้มากมาย ในงานจะมีทั้งคอเคเชียน คนสแปนิช คนอัฟริกันอเมริกัน คนจากทุกวัฒนธรรมมาเรียนรู้เรื่องความสงบของวัฒนธรรมไทย และจิตวิญญาณของแผ่นดินไทย” เขากล่าว ทั้งนี้ งานวันวัฒนธรรมไทยครั้งที่ 11 สำเร็จลุล่วงไปด้วยความเรียบร้อยเมื่อเวลาประมาณ 17.30 น.
เทศกาลมรดกไทย 1 มิถุนายน 2003
แอลเอ (ไทยทาวน์ยูเอสเอนิวส์) : เทศกาลมรดกไทยและอาหารไทยได้รับความสนใจจากคนไทยและต่างชาติเนืองแน่น ท่ามกลางแสงแดดที่แผดเปรี้ยง มีการสาธิตวิธีการทำ “ผัดไทย” โดยนักวิจารณ์อาหารของแอลเอไทมส์ “เจ็ต ติลกมลกุล”, การประกวดมิสไทยทาวน์ และการออกร้านจำหน่ายสินค้าและอาหารไทยมากมาย
เมื่อวันอาทิตย์ที่ 1 มิถุนายนที่ผ่านมา บริเวณที่โล่งริมถนนฮอลลีวูดตัดกับถนนแวนเนส (ใกล้ทางลงฟรีเวย์ 101) ได้ถูกใช้เป็นสถานที่จัดงานเทศกาลมรดกไทยและอาหารไทยครั้งที่สาม โดยศูนย์พัฒนาสุขภาพชุมชน ของนางนงเยาว์ วรานนท์ โดยบรรยากาศในงานเป็นไปอย่างคึกคักตั้งแต่เวลาเริ่มงาน คือ 10.00 น. ไปจนถึงเลิกงานในช่วงเย็น
ในงานดังกล่าว มีกิจกรรมต่างๆ มากมาย เช่นการแสดงนาฎศิลป์ของชนชาติต่างๆ ที่อาศัยอยู่ในลอส แอนเจลิส เช่นนาฎศิลป์เขมร, ฟิลิปปินส์ รวมถึงการแสดงของชุมชนอามีเนียน และในส่วนของนาฎศิลป์ไทยนั้น มีการแสดงหลายชุด จากคณะนาฎศิลป์วัดไทย, ชมรมนาฎศิลปสังคีต นอกจากนี้ยังมีการสาธิตมวยไทย, การแสดงดนตรีไทยประยุกต์ของวงมังตรา, การแสดงกลองยาว รวมทั้งมีการสาธิตวิธีการทำผัดไทย และการประกวดมีสไทยทาวน์ด้วย งานนี้
นายอิสินธร สอนไว กงสุลใหญ่ ณ นครลอส แอนเจลิส เป็นประธานกล่าวเปิดงาน โดยกงสุลใหญ่เดินทางไปร่วมงานพร้อมทีมประเทศไทย ประกอบด้วย การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ศูนย์พาณิชยกรรม และยังมีตัวแทนสมาคมชมรมต่างๆ ไปร่วมงานคับคั่ง เช่น รอสลิน ปัทมคันธิน นายกสมาคมไทยแห่งแคลิฟอร์เนียภาคใต้, สมาคมอีสาน เป็นต้น
กงสุลใหญ่อิสินธร สอนไว กล่าวกับผู้สื่อข่าวไทยทาวน์ยูเอสเอนิวส์ว่า งานเทศกาลมรดกไทยและอาหารไทย เป็นงานที่ครื้นเครงอีกงานหนึ่งของชุมชนไทย เป็นการร่วมแสดงออกซึ่งวัฒนธรรม อันเป็นมรดกของไทย
“และการที่เราเชิญนักแสดงของเพื่อนบ้านมาร่วมด้วย เช่นเขมร กัมพูชา ซึ่งส่งทีมมา 20 กว่าคน อามีเนียนก็มาโชว์ด้วย ก็ดีครับ เป็นการเผยแพร่ขณะเดียวกันก็เป็นการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม การเข้าใจซึ่งกันและกันด้วย” กงสุลใหญ่กล่าว
นางนงเยาว์ วรานนท์ กล่าวกับผู้สื่อข่าวไทยทาวน์ยูเอสเอนิวส์ ถึงวัตถุประสงค์ของการจัดงานว่า ต้องการสนับสนุนโครงการมรดกของชาวเอเชีย ซึ่งทางเทศบาลนครลอส แอนเจลิส จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี ซึ่งตนได้ร่วมสนับสนุนโดยจัดกิจกรรมในส่วนของชุมชนไทยต่อเนื่องกันมาห้าปี โดยสองปีแรกจัดที่วัดไทย และเพิ่งย้ายมาจัดบนถนนฮอลลีวูดเป็นปีที่สาม
“งานในวันนี้ ประสบความสำเร็จน่าพอใจนะคะ แม้จะขลุกขลักนิดหน่อยเรื่องไฟฟ้า หรืออะไรต่างๆ แต่ก็ได้รับความช่วยเหลือร่วมมือแก้ไขจนผ่านพ้นไปได้ด้วยดี”
นางนงเยาว์ ยังได้กล่าวถึงความร่วมมือจากเทศบาลนครลอส แอนเจลิส โดยทอม ลาบอง ซึ่งเป็นสมาชิกสภาเขต 4 ว่า “ท่านได้ช่วยเหลือเราเต็มที่ค่ะ ท่านได้จัดหาเรื่องเต้นท์ เก้าอี้ โต๊ะ ทุกอย่างที่เห็นในวันนี้ รวมทั้งเวทีด้วย ท่านก็ยินดีที่เรามีงานนี้และบอกว่ายินดีจะสนับสนุนงานครั้งต่อไปด้วย โดยเฉพาะเจ้าของสถานที่เขาก็ยินดีให้เราใช้สถานที่โดยไม่คิดอะไร”
นอกจากนี้ นางนงเยาว์ยังได้แสดงความเห็นถึงกระแสที่พูดกันมากถึงการที่ผู้นำชุมชน ควรมาจัดงานร่วมกันให้เป็นงานใหญ่ครั้งเดียว แทนที่จะทยอยกันจัดเป็นงานเล็กๆ หลายงานว่า ตนเห็นด้วย
“ดีค่ะ เห็นดีด้วย และยินดีที่จะให้การสนับสนุนและช่วยเหลือทุกทางค่ะ”
จากนั้น ผู้สื่อข่าวได้มีโอกาสพูดคุยกับ ทอม ลาบอง สมาชิกสภาเทศกาล เขต 4 ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้สนับสนุนการจัดงานครั้งนี้ โดยเขาได้กล่าวว่าวันนี้เป็นวันที่แจ่มใส เขารู้สึกยินดีที่มีผู้คนมาร่วมงานเทศกาลมรดกไทยกันมากมายเช่นนี้
“ชุมชนไทยมีความสำคัญมากในลอส แอนเจลิส เช่นเดียวกับทุกๆ ชุมชน แต่ชุมชนไทยพิเศษตรงที่มีความหลงใหลในศิลปะ และวัฒนธรรม และต้องการแสดงให้ชนชาติอื่นๆ ได้รับรู้ ถ้าเรามองไปรอบๆ จะไม่ใช่มีแต่คนไทย แต่เป็นคนจากทั่วลอส แอนเจลิส มาร่วมสนุกกับมัน ซึ่งผมรู้สึกยินดีที่มีส่วนสนับสนุนงานนี้” สมาชิกสภาเขต 4 กล่าว
ส่วนนายเจ็ต ติลกมลกุล หรือ เจ็ต ทิลา ทายาทของตลาดบางกอก ผู้เป็นนักวิจารณ์อาหารชื่อดังของหนังสือพิมพ์ลอส แอนเจลิส ไทมส์ ซึ่งมาสาธิตการทำผัดไทยในงาน ได้กล่าวกับไทยทาวน์ยูเอสเอนิวส์ ว่า ปัจจุบันอาหารไทยติดกลุ่ม “ท็อปไฟว์” ของโลก แต่ในอเมริกาน่าจะเป็นอันดับสาม และผัดไทยน่าจะเป็นอาหารไทยที่ต่างชาติรู้จักมากที่สุด
“สูตรผัดไทยของผมเป็นไทยมากกว่าร้านอาหารที่นี่นะผมว่า แต่ทำอาหารไทยให้ฝรั่งต้องเปลี่ยนนิดหน่อยให้ออกหวาน แต่สูตรของผมค่อนข้างยึดของเดิมเอาไว้มาก” เจ็ตกล่าว และว่าการจัดงานในลักษณะนี้ มีผลประโยชน์กับคนไทยมาก เพราะต่างชาติบางครั้งไม่เข้าใจคำว่าไทย สับสนว่าเป็นไต้หวันหรือไทยแลนด์ งานในลักษณะนี้จะช่วยให้ต่างชาติเข้าใจความเป็นไทยได้มากขึ้น ซึ่งมีผลดีต่อชุมชนไทยโดยรวม
ในงานเทศกาลมรดกไทยและอาหารไทยครั้งนี้ มีการออกบู๊ธของหน่วยงานรัฐบาลของสหรัฐฯ เช่น กรมตำรวจลอส แอนเจลิส (LAPD) และหน่วยสนับสนุนของยูเอส โคสท์ การ์ด (US Coast Guard Auxiliary)
เจ้าหน้าที่ตำรวจ เบนนี่ เฟน กล่าวกับผู้สื่อข่าวไทยทาวน์ยูเอสเอนิวส์ ว่า แอลเอพีดีมาเปิดบู๊ธในงานนี้เพื่อเปิดรับสมัครคนไทยเข้าคัดเลือกเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ และเผยแพร่กิจกรรมต่างๆ ของหน่วยงานให้ชุมชนไทยได้รับรู้ อันเป็นหนึ่งในโครงการที่กรมตำรวจแอลเอ กระทำร่วมกับชุมชนทุกเชื้อชาติในลอส แอนเจลิส โดยในวันนั้น มีคนไทยสมัครเข้ารับคัดเลือกเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจหลายคนมาก
“แอลเอพีดี มีเจ้าหน้าที่ตำรวจคนไทยอยู่มากมาย แต่ดิฉันไม่รู้จำนวนที่แน่นอน แต่เฉพาะที่ดิฉันรู้จักก็มีห้าคนค่ะ” เธอกล่าว
อนึ่ง ผลการประกวด “มิสไทยทาวน์” ประจำปีนี้ ผู้ได้รับตำแหน่งได้แก่ น.ส.สุภาลักษณ์ นีมะโยธิน รองอันดับหนึ่งคือ น.ส.อรอินทร์ ฉันทนสุขศิลป์, รองอันดับสอง คือน.ส.สุภาพร ธนะสมบัติ และรองอันดับสามซึ่งครองตำแหน่งขวัญใจช่างภาพด้วยคือ น.ส.วาสนา ต๊ะแก้ว.
กฐินพระราชทานและประเพณีลอยกระทง วัดไทยลอสแองเจลิส
แอลเอ(ไทยทาวน์ยูเอสเอนิวส์) : สาธุชนแห่ร่วมโดยเสด็จพระราชกุศล “กฐินพระราชทาน” และรื่นเริง “ลอยกระทง” ที่วัดไทยอย่างหนาตา ได้เงินทำบุญถึงกว่าแสนดอลลาร์
เมื่อวันเสาร์และอาทิตย์ที่ 1 และ 2 พฤศจิกายนที่ผ่านมา วัดไทย ลอส แอนเจลิส ได้จัดให้มีพิธีบุญขึ้นสองงาน กล่าวคือ ประเพณีลอยกระทง ในวันเสาร์ และพิธีทอดกฐินพระราชทานในวันอาทิตย์
สำหรับงานประเพณีลอยกระทงที่จัดขึ้น ณ วัดไทย ลอสแอนเจลิส ในปีนี้ จัดให้มีการประกวดขวัญใจธิดานพมาศ และ นางนพมาศเหมือนเช่นทุกปี โดยในปีนี้ ผู้ที่ได้รับรางวัลขวัญใจธิดานพมาศได้แก่ ด.ญ. ชลธิดา ชานอล พรอคเตอร์ ส่วนผู้ที่ได้รับตำแหน่ง นางนพมาศประจำปี 2546 ได้แก่ นางสาวเชอร์รี่ ทรรพวสุ และรางวัลรองอันดับ 1 และ 2 ได้แก่ นางสาวเจนนิเฟอร์ เวสฟิลด์ และนางสาวพอลล่าร์ เอื้อสุนทร ตามลำดับทั้งนี้ ผู้ที่ชนะการประกวด ได้รับถ้วยเกียรติยศ พร้อมทุนการศึกษา
นางสุปราณี คลาร์คสัน ในฐานะประธานจัดการประกวดนางนพมาศในปีนี้ กล่าวว่า จุดประสงค์ใน การจัดงาน ประกวดนางนพมาศก็เพื่อต้องการรักษาธรรมเนียมประเพณีไทยอันดีงามนี้ไว้ และต้องการให้เด็กไทยที่เกิดที่ลอส แอนเจลิสนี้ได้เห็น และเข้าใจถึงประเพณีไทยของเรา และการที่เราพยายามดึงเด็กไทยมานี้วันนี้ก็หวังที่จะให้ความเป็นไทยซึมซับเข้าไปในจิตใจของเด็กไทยที่เกิดที่นี่
“ด้วยความร่วมมือทุกคนๆ และผู้อุปถัมภ์ ทำให้การทำงานในครั้งนี้สามารถลุล่วงไปได้ด้วยดี ประสบความสำเร็จมากเลย เพราะมีสปอนเซอร์มากมายหลายท่าน ส่วนรายได้จากการจัดงานเราจะมอบให้กับวัดไทยทั้งหมด” นางสุปราณีกล่าว
ด้านนายเอกพันธ์ บันลือฤทธิ์ ดารานักแสดงที่มีชื่อเสียงโด่งดังในเมืองไทยที่ได้เดินทางมาร่วมงานในครั้งนี้กล่าวกับผู้สื่อข่าวไทยทาวน์ยูเอสเอนิวส์ว่า “ความรู้สึกของผม เหมือนอยู่เมืองไทยเลย ไม่ว่าจะเป็นวัด ประเพณีขนบธรรมเนียมของไทยเรา ไม่คิดเลยว่ามาอยู่ในแอลเอ สหรัฐฯ จะยังมีขนบธรรมเนียมประเพณีอันดีงามของไทยให้กับชาวต่างชาติได้เห็น รู้สึกภูมิใจและประทับใจมาก” และกล่าวทิ้งท้ายว่า “ขนบธรรมเนียม ประเพณีวัฒนธรรมของไทยเรา ในโลกนี้สู้เราไม่ได้ เพราะไทยเรามีประเพณีเกิดขึ้นกันทุกเดือน ชาวต่างชาติได้เห็นก็ชื่นชมและทึ่งมาก ต่างชาติรู้จักประเทศไทยเราเพราะว่าขนบประเพณีอันดีงามของเรา อยากให้คนไทยในต่างประเทศ ไม่ว่าประเทศไหนๆ ก็ตามไม่ใช่เฉพาะแต่ในอเมริกา อยากให้ช่วยอนุรักษ์จรรโลงเอาไว้ให้อยู่คู่กับคนไทยตลอดไป”
นอกจากนี้ภายในงานยังจัดให้มีการประกวดกระทง และจัดให้มีการแสดงต่างๆ บนเวทีอย่างมากมาย โดยปิดท้ายรายการ ด้วยการร่วมลอยกระทงที่สระสำเร็จรูปที่ทางวัดได้จัดเตรียมขึ้น โดยมีท่านกงสุลใหญ่ อิสินธร สอนไว และภริยา ร่วมประกอบกิจกรรมในครั้งนี้ด้วย
ส่วนงานทอดกฐินพระราชทานในวันอาทิตย์ที่ 2 พฤศจิกายนนั้น พิธีเริ่มตั้งแต่เช้าโดยการตั้งองค์ ผ้าป่าบริการกฐินบนอุโบสถศาลา และพิธีทำบุญตักบาตรในเวลา 09.30 น. ขณะที่บนเวทีมีการแสดงนาฏศิลป์ไทย และการแสดงอื่นๆ ตลอดเวลา
จนกระทั่งถึงเวลา 13.45 น. ได้มีพิธีแห่ผ้าห่มพระประธานและอัฐบริขารบริวารกฐิน จากนั้นนายอิสินธร สอนไว กงสุลใหญ่ ณ นครลอส แอนเจลิส ในฐานะผู้แทนพระองค์ฯ ได้กล่าวถวายผ้าพระกฐิน ความว่า “ผ้าพระกฐินทานกับทั้งผ้าอานิสงส์บริวารทั้งปวงนี้ ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามมินทราธิราช บรมนาถบพิตร ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ กอปรด้วยพระราชศรัทธา โปรดเกล้าฯให้ข้าพระพุทธเจ้า นายอิสินธร สอนไว กงสุลใหญ่ ณ นครลอส แอนเจลิส น้อมนำถวายแด่พระภิกษุสงฆ์ ซึ่งจำพรรษากาลถ้วนไตรมาสในอาวาสวิหารนี้ ขอพระสงฆ์จงรับผ้าพระกฐินทานนี้ กระทำกฐินัตถารกิจตามพระบรมพุทธานุญาตนั้นเทอญ” เสร็จแล้วมีการทอดผ้าป่าบริวารกฐิน เป็นอันเสร็จพิธี
ทั้งนี้ ท่านเจ้าคุณพระราชธรรมวิเทศ หัวหน้าคณะสงฆ์วัดไทย ได้กล่าวกับไทยทาวน์ยูเอสเอนิวส์ ถึงพิธีถวายผ้าพระกฐินครั้งนี้ว่า “วันนี้เป็นกิจกรรมสำคัญของวัดไทย คือเป็นประวัติศาสตร์อีกครั้งท ี่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม พระราชทานผ้าพระกฐินแก่วัดไทย โดยปีนี้เป็นปีที่สอง เพราะฉะนั้นพี่น้องชาวไทยที่นี่ตลอดจนพระสงฆ์มีความภูมิใจ เป็นเกียรติประวัติของวัดไทย ของพี่น้องชาวไทยที่อยู่ที่นี่ เพราะฉะนั้นพี่น้องชาวไทยที่นี่จะได้มีโอกาสได้บำเพ็ญบุญบารมีโดยเสด็จ พระราชกุศล แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเนื่องในโอกาสนี้ด้วย”
ทั้งนี้ ในวันอังคารที่ 4 พฤศจิกายน ฝ่ายประชาสัมพันธ์ของวัดไทย แจ้งว่า ยอดบริจาคร่วมโดยเสด็จพระราชกุศลในวันทอดกฐิน และวันลอยกระทงที่วัดไทยได้รับคือ 84,522.97 ดอลลาร์ และคุณสุปราณี คาร์ลสัน ประธานจัดงานทอดกฐินพระราชทาน ได้บริจาคสมทบอีก 15,932.03 ดอลลาร์ รวมเป็นยอดเงินบริจาคทั้งสิ้น 100,455 ดอลลาร์.
คอนเสิร์ตโปงลาง
แอลเอ ( ไทยทาวน์ยูเอสเอนิวส์) : อุไรวรรณ เทียนทอง รมว.วัฒนธรรมและคณะเยือนแอลเอ เปิดสภาวัฒนธรรมไทยแห่งลอส แอนเจลิส ชูโครงการ “ หมอภาษา ” ทดสอบ และแนะนำการใช้ภาษาไทย พร้อมนำการแสดงโปงลางนำร่อง ก่อนดำเนินการเผยแพร่วัฒนธรรมไทยด้านอื่นๆ ในอนาคต
นางอุไรวรรณ เทียนทอง รัฐมนตรี ว่าการกระทรวงวัฒนธรรม พร้อมด้วย ดร.เกียรติศักดิ์ อิชยานันท์เลขาธิการคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ และคณะ ซึ่งเดินทางมาทำพิธีเปิดสภาวัฒนธรรมไทยแห่งลอส แอนเจลิส และ ซานฟรานซิสโก ได้ร่วมกันแถลงข่าวที่ทำเนียบกงสุลใหญ่ เลขที่ 621 ถนนลอร์เรน เมื่อค่ำวันที่ 13 มิถุนายนที่ผ่านมา
นางอุไรวรรณกล่าวว่า การเดินทางมาเป็นประธานในพิธีเปิดสภาดังกล่าวนี้ เป็นเพราะ ต้องการเป็นกำลังใจให้ กับคนที่ทำงานเผยแพร่ และรักษาไว้ซึ่งวัฒนธรรมไทยในต่างประเทศ
“ ในความเป็น รมต. กระทรวงวัฒนธรรม เมื่อคนไทยตั้งชุมชนได้เพื่อทำงานด้านวัฒนธรรม ในส่วนนี้เราจะมาส่งเสริม ลักษณะเหมือนกับ การให้กำลังใจกับผู้ที่ตั้งชุมชน เพื่อทำงานด้านวัฒนธรรม ในส่วนนี้เราจะมาส่งเสริม ลักษณะเหมือนกับการให้กำลังใจ กับผู้ที่ตั้งชุมชนเพื่อทำงานวัฒนธรรม เราควรส่งเสริมสนับสนุน ก็มาเป็น กำลังใจ และนำเด็กนักเรียนจากนครปฐมมาแสดงด้วย ”
ส่วนภาระหน้าที่ของสภาวัฒนธรรมไทยในต่างประเทศนั้น รัฐมนตรีกระทรวงวัฒนธรรมกล่าวว่ามีหน้าที่ในการเผยแพร่และดำรงรักษาไว้ซึ่งวัฒนธรรมอันดีงามของไทย “ โดยเฉพาะลูกหลานที่เกิดที่นี่ บางทีความเข้าใจในศิลปวัฒนธรรมอาจจะไม่มี ส่วนนี้คุณพ่อคุณแม่คุณปู่คุณย่าจะช่วยประคับประคอง โดยใช้สภาวัฒนธรรมที่นี่เป็นสื่อ เมื่อเปิดแล้ว กระทรวงก็คงจะต้องมีส่วนมาสนับสนุนส่งเสริม ยังไงก็ต้องให้วัฒนธรรมไทยอยู่คู่คนไทยค่ะ ”
จากนั้นในวันที่ 14 มิถุนายน คณะ ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม พร้อมด้วยนายอิสินธร สอนไว กงสุล ใหญ่ ณ นครลอส แอนเจลิส ได้เดินทางไปยังวัดไทยลอส แอนเจลิส เพื่อทำพิธีเปิดป้ายสภาวัฒนธรรมไทยแห่งลอส แอนเจลิส อย่างเป็นทางการ โดยป้ายสภาตั้งอยู่บริเวณศาลาพระธรรมราชานุวัตร
นายอิสินธร สอนไว กล่าวว่า “ นอกจากที่ชุมชนไทยในลอส แอนเจลิส จะช่วยอนุรักษ์วัฒนธรรมไทยแล้ว ทางส่วนรัฐบาลในประเทศไทยยังมีส่วนช่วย ในการนำวัฒนธรรมไทยในแขนงต่างๆมาเผยแพร่ ดังนั้นวันนี้ที่ท่านเดินทางมาจึงถือเป็นก้าวใหม่ ศักราชใหม่ที่จะช่วยกันเผยแพร่วัฒนธรรมไทยให้ก้าวไกลยิ่งๆขึ้นไปอีก ”
นอกจากนี้ นายอิสินธรยังกล่าวถึงการดำเนินงานทางด้านวัฒนธรรมไทยว่า “ เท่าที่ทราบจากท่านรัฐมนตรี ทางกระทรวงวัฒนธรรมมีความพร้อม และยินดีที่จะให้ความช่วยเหลือร่วมมือกับคนที่นี่ สุดแล้วแต่จะขอไป โดยเฉพาะในเรื่องของไทยทาวน์ ”
จากนั้นนายปกรณ์ พงศ์ธราธิก ประธานสภาวัฒนธรรมไทยแห่งลอสแอนเจลิสขึ้นกล่าวโดยมีใจความว่า รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ฯพณฯรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมได้เดินทางมาเปิดสภาวัฒนธรรมที่นี่ และได้นำการแสดงโปงลาง โครงการหมอภาษา มาเผยแพร่ โดยในอนาคตคาดว่าจะมีกิจกรรมอื่นๆโดยมีสภาวัฒนธรรมไทยเป็นผู้ประสานงาน
สำหรับจุดประสงค์ของการจัดตั้งสภาวัฒนธรรมฯ เพื่อที่จะสืบสาน และประสานงานทางวัฒนธรรมเพื่อเผยแพร่ให้ชาวไทย และชาวต่างชาติได้รับรู้และมีความเข้าใจมากขึ้น
ด้านนางอุไรวรรณกล่าวว่า “ รู้สึกยินดีที่ได้มาพบปะกับท่านทั้งหลาย ที่เป็นเครือข่ายทางวัฒนธรรม และรู้สึกเป็น เกียรติอย่างสูงที่ได้มาเปิดสภาวัฒนธรรมไทย แห่งลอสแอนเจลิส ” พร้อมกันนี้ได้กล่าวถึงการพัฒนาทางด้านเทคโนโลยี และการสื่อสารว่าส่งผลให้แนวความคิด ทางระเบียบสังคมเปลี่ยนแปลงไป ทำให้ความสำคัญ ทางด้านวัฒนธรรมมีมากขึ้นตามไปด้วย เพราะวัฒนธรรม เป็นปัจจัยที่ทำให้ประเทศชาติต่างๆ มีความเข้าใจอันดี และช่วยเหลือเกื้อกูลต่อกัน อีกทั้งยังเป็นพื้นฐานสำคัญของประเทศที่จะรองรับการเปลี่ยนแปลงที่ไหลบ่าเข้ามาอย่างรุนแรงและรวดเร็ว ความมั่นคงทางวัฒนธรรม จะทำให้ประเทศของเรา สามารถแข่งขันและร่วมมือกับประเทศต่างๆ ได้อย่างงดงามและมีศักดิ์ศรี
นอกจากนี้ยังกล่าวถึง ประโยชน์ของวัฒนธรรมในแง่ต่างๆ กล่าวคือ 1) เป็น การสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่าง ประเทศ 2) เป็นการสร้างความผูกพัน และเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน 3) เป็นปัจจัยสำคัญในการพัฒนาประเทศ
นางอุไรวรรณกล่าวต่อไปว่า “ ในโอกาสนี้ ขอแสดงความยินดีที่คนไทย ในนครลอสแอนเจลิสส่วนหนึ่งและเป็นส่วนใหญ่ได้ตระหนักถึงความสำคัญของวัฒนธรรมไทย และมีการจัดตั้งสภาวัฒนธรรมไทยขึ้น เพื่อเป็นเอกลักษณ์ และความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของชาติไทย และทุกท่านที่ร่วมใจกัน สร้างสภาฯขึ้น ขอให้ช่วยกันสร้างสรรค์งานวัฒนธรรม ให้ก้าวหน้าต่อไป หากมีสิ่งใดที่จะให้กระทรวงวัฒนธรรมช่วยเหลือ ก็ให้ขอมา ทางกระทรวงฯยินดีช่วยให้ การดำเนินงานของสภาดำเนินการไปอย่างราบรื่น และงดงามในอนาคต ”
ท้ายสุดนางอุไรวรรณ ได้ฝากถึงชาวไทยที่อาศัยอยู่ในสหรัฐฯให้ช่วยกันรักษาและสืบสานวัฒนธรรมไทย โดย เฉพาะอย่างยิ่งการใช้ภาษาไทย ซึ่งเน้นให้พ่อแม่ผู้ปกครองพยายามพูดภาไทยกับบุตรหลานเพื่อให้เด็กไทยสามารถพูดได้อย่างชัดเจนทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ
จากนั้นนางอุไรวรรณได้มอบของที่ระลึกให้แก่นายอิสินธร นายปกรณ์ และคณะทำงาน และในเวลาประมาณ 13.00 น.ของวันเดียวกัน ได้ทำพิธีเปิดป้ายสภาวัฒนธรรมไทยแห่งลอสแอน เจลิสอย่างเป็นทางการบริเวณข้างศาลาพระธรรมราชานุวัตร โดยมีผู้แทนจากสมาคมและชมรมต่างๆ เดินทางมาเป็นสักขีพยานจำนวนหนึ่ง
ต่อมาในวันอาทิตย์ที่ 15 มิถุนายน สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ ร่วมกับสภาวัฒนธรรมไทยแห่ง ลอส แอนเจลิส ได้ร่วมกันจัดคอนเสิร์ตโปงลาง ชุดใหญ่ขึ้นที่โรงละคร จอห์น เอ เซ็กซั่น ของพาซาดีน่า ซิตี้ คอลเลจ ในเมืองพาซาดีน่า โดยคอนเสิร์ตโปงลาง ซึ่งใช้ผู้แสดงกว่า 40 ชีวิต เริ่มขึ้นเมื่อ เวลาประมาณ 13.00 น. โดยมีผู้สนใจไป ชมคอนเสิร์ตดังกล่าวกันคับคั่ง
โดยในคอนเสิร์ตดังกล่าว มีการแสดงของ คริสตี้ กิ๊บสัน นักร้องลูกทุ่งชื่อดังของเมืองไทยที่เคยมาเปิดการแสดงคอนเสิร์ตร่วมกับ โจนัส เอนเดอร์สัน ในงานไทยทาวน์เฟสติวัล เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม รวมอยู่ด้วย
วันภาษาไทย
แอลเอ ( ไทยทาวน์ยูเอสเอนิวส์) : คณะครูอาสาฯวัดไทย จัดงานวันภาษาไทย ครั้งที่ 3 ใช้ชื่องาน “ เชิดชูค่าภาษาไทย ” มุ่งเน้นให้เด็กไทยตระหนักถึงความสำคัญของ การใช้ภาษาไทย ท่ามกลางความสนใจของบรรดาผู้ปกครอง นักเรียน พร้อม ชาวไทยและชาวต่างชาติ
เมื่อเวลาประมาณ 10.00 น.เศษ ของวันที่ 3 สิงหาคมที่ผ่านมา คณะครูอาสาสมัครภาคฤดูร้อน รุ่นที่ 20 ประจำปีการศึกษา 2546 ร่วมกันจัด งานวันภาษาไทย ภายใต้ชื่อ “ เชิดชูค่าภาษาไทย ” ขึ้น ณ วัดไทยลอส แอนเจลิส โดยมีคณะผู้ปกครอง นักเรียน รวมทั้งชาวไทยและชาวต่าง-ชาติเข้าร่วมงานเป็นจำนวนมาก
โดยเวลา 10.30 น. ผศ.ลาวัลย์ ศรีศิลปนันท์ ครูใหญ่กล่าวเปิดงาน จากนั้นมีการมอบวุฒิบัตรจากการ ประกวดต่างๆ ให้แก่นักเรียน ตามด้วยการแสดงชุดชุมนุมเผ่าไทย ซึ่งแสดงโดยนักเรียนภาคฤดูร้อน วัดไทยฯ
ต่อมา ผู้เข้าประกวด แต่งกายงามอย่างไทย และขวัญใจวันภาษาไทย ขึ้นเวทีโชว์ตัว ให้คณะกรรมการ ลงคะแนน ร่วมกับเปิดโอกาสให ้ผู้มาร่วมงานซื้อพวงมาลัย และลูกโป่ง มอบให้ผู้เข้าประกวด โดยผู้ที่ได้รับจำนวนลูกโป่งมากที่สุด จะได้รับตำแหน่งขวัญใจวันภาษาไทยไปครอง คั่นด้วยการแสดงชุดเซิ้งกระโป๋ และการ แสดงชุดภาษาสวยด้วยเพลง จากนั้น มีการแสดงชุดเพลินเพลงชนบท จากครูประจำการ การแสดงไหว้ครูมวยไทย ตามมาด้วยละครเรื่องพระอภัยมณี
เวลาประมาณ 14.00 น. มีการประกาศผลการประกวด แต่งกายงามอย่างไทย โดยผู้ที่ได้รับรางวัลชนะเลิศ ได้แก่ ด.ญ. ช่อพลอย ศรีทอง รองชนะเลิศอันดับหนึ่ง ได้แก่ ด.ญ.เจมี่ เจอร์เก้ และรองชนะเลิศอันดับ 2 ได้แก่ ด.ช.ฌอน ดิษฐพันธ์ ส่วนผู้ที่ได้รางวัลชนะเลิศตำแหน่ง ขวัญใจวันภาษาไทย ได้แก่ ด.ญ.คริสตินา สมาธิ ซึ่งได้รับคะแนนจากจำนวนลูกโป่งมากที่สุด ทั้งนี้ยอดเงินจากการจำหน่ายพวงมาลัย และลูกโป่งเป็นเงินทั้งสิ้น $ 1,692 เหรียญ ซึ่งจะมอบให้วัดไทย ลอส แอนเจลิส เพื่อทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาต่อไป
อาจารย์พิชญ์ศุภางค์ ถานัน แกน นำการจัดงานวันภาษาไทยในครั้งนี้ กล่าวถึงวัตถุประสงค์ ในการจัดงานว่า “ อยากให้เด็กไทย ในอเมริกามีความสำนึกในคุณค่า ของภาษาไทย แล้วช่วยกันอนุรักษ์เอกลักษณ์และวัฒนธรรมไทย ” พร้อมกล่าวเสริมถึง ประโยชน์ที่เด็กจะได้รับ จากการจัดกิจกรรมนี้ว่า จริงๆ แล้ว เด็กนักเรียนจะมีความสนใจเกี่ยวกับ เรื่องดนตรีไทย และนาฏศิลป์ไทยอยู่แล้ว การจัดกิจกรรมจะมีรายการต่างๆ ที่ช่วยปลูกจิตสำนึก และเปิดโอกาสให้แสดงออก ในรูปของการประกวดด้านต่างๆ
ด.ญ. ช่อพลอย ผู้ชนะเลิศแต่งกายงามอย่างไทย กล่าวกับผู้สื่อข่าวไทยทาวน์ ยูเอสเอ นิวส์ว่า ตนรู้สึกดีใจ ที่ได้แต่งชุดไทยที่มี ความสวยงาม และว่าได้รับ ประโยชน์จากการที่มีส่วนร่วม อนุรักษ์วัฒนธรรมของไทย
งานวันภาษาไทยมีที่มาจากการที่ คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้จัดการประชุมทางวิชาการและก่อตั้ง ชุมนุมภาษาไทยขึ้น เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม 2505 โดยกราบทูลเชิญพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเป็นองค์ประธาน โดยในการประชุมครั้งนั้นพระองค์ทรง พระราชทานพระราชดำรัสเกี่ยวกับการรักษาและทำนุบำรุงภาษาไทย ด้วยพระราชหฤทัยที่ห่วงใยการใช้ภาษาไทยดังกล่าว หลายหน่วยงานจึงมีความคิดที่จะให้มี วันภาษาไทยขึ้น เพื่อให้คนไทยได้ตะหนักถึงคุณค่าและความสำคัญของภาษาไทย