แคลิฟอร์เนียภาคใต้ ถือเป็นพื้นที่ซึ่งมีคนไทยอาศัยอยู่มากที่สุด แม้ผลการสำรวจประชากรของรัฐบาลสหรัฐฯ ปี 2000 จะระบุว่ามีคนไทยในแคลิฟอร์เนียภาคใต้เพียง 40,000 คน แต่เป็นที่ทราบว่า ตัวเลขแท้จริงนั้น สูงกว่าการสำรวจหลายเท่าตัว โดยคนไทยเหล่านั้น ปักหลักรวมกลุ่มกันอย่างหนาแน่นที่สุดในนคร ลอส แอนเจลิส ทั้งคนที่มาประกอบสัมมาชีพต่างๆ และนักศึกษาที่เดินทางมาศึกษาหาความรู้ ทำให้เมืองนี้ มีธุรกิจของคนไทยเกิดขึ้นมากมาย จนถูกเปรียบว่าเป็น “ จังหวัดที่ 77 ” ของประเทศไทย

     เทศบาลนครลอส แอนเจลิส ได้รับรู้ถึงความดำรงอยู่อย่างเป็นปึกแผ่นหนาแน่นของชุมชนไทย โดยการอนุมัติให้พื้นที่ส่วนหนึ่งของถนนฮอลลีวูด ยาวประมาณ 0.46 ไมล์ คือช่วงระหว่างถนนเวสเทิร์น และถนนนอร์มังดี ซึ่งเป็นย่านที่มีธุรกิจของคนไทยอยู่อย่างหนาแน่น ให้เป็นพื้นที่ “ไทยทาวน์” มีการติดตั้งป้ายอย่างเด่นชัด เมื่อเดือนตุลาคมปี พ.ศ. 2542 ยิ่งกว่านั้น ลอส แอนเจลิส เป็นเมืองที่มีองค์กรของคนไทย ทั้งสมาคมและชมรมต่างๆู่มากกว่า 50 แห่งไม่รวมถึงองค์กรนิติบุคคลต่างๆ ซึ่งมีจำนวนมากมายมหาศาล แต่ละองค์กรต่างก็มีกิจกรรมของตัวเอาเป็นประจำทุกปี โดยมีวัตถุประสงค์ของการจัดกิจกรรมแตกต่างกันไป ตั้งแต่การสังสรรค์ระหว่างสมาชิก การหาทุนในการดำเนินการภายในองค์กร หาทุนเพื่อกิจกรรมในเชิงสังคมสงเคราะห์ รวมถึงกิจกรรมที่จัดขึ้นเพื่อเผยแพร่ศิลปะและวัฒนธรรมไทยในรูปแบบต่างๆ ด้วย

วันวัฒนธรรมไทย จัดโดยศูนย์ศิลปะไทยเพื่อชุมชน เป็นกิจกรรมที่จัดต่อเนื่องกันมานานกว่าสิบปี และเป็นกิจกรรมเผยแพร่ศิลปวัฒนธรรมไทยที่เต็มรูปแบบ  ครั้งล่าสุดจัดขึ้นที่สวนศิลปะบาร์นเดล (Barnsdall Art Park)   ซึ่งตั้งอยู่บนถนนฮอลลีวูด ห่างจากบริเวณไทยทาวน์ประมาณหนึ่งไมล์ โดยทุกปี จะมีริ้วขบวนพาเหรดวัฒนธรรมไทย จากไทยทาวน์ไปยังบริเวณที่จัดงาน ส่วนในงานจะมีการแสดงศิลปะและวัฒนธรรมไทยต่างๆ รวมถึงการประกวดแต่งกายชุดไทยด้วย

วันสุขภาพชุมชนอีสท์ฮอลลีวูดและไทยทาวน์เฟสติวัล ของศูนย์ส่งเสริมชาวไทยร่วมกับสมาคมผู้ประกอบการค้าฮอลลีวูด ได้รับอนุญาตจากเทศบาลนครลอส แอนเจลิส ในการปิดถนนฮอลลีวูด ในบริเวณไทยทาวน์ ประมาณ 1 ช่วงตึก เพื่อจัดกิจกรรมที่เน้นหนักทางด้านสุขภาพควบคู่ไปกับการเผยแพร่วัฒนธรรมไทย กล่าวคือมีการเชิญองค์กรทั้งไทยและต่างชาติที่ให้บริการทางด้านสุขภาพมาเปิดให้บริการแก่ประชาชนโดยไม่คิดมูลค่า เช่นตรวจเลือด ตรวจเบาหวาน ตรวจความดัน ฯลฯ ขณะที่บนเวทีมีการแสดงต่างๆ เช่น ดนตรีไทย นาฎศิลป์ไทย การแสดงของศิลปินไทยใน ลอสแอน-เจลิส ได้มีการเชิญศิลปินมีชื่อเสียงจากเมืองไทยมาเปิดการแสดงด้วย

วันวัฒนธรรมไทย จัดโดยศูนย์ศิลปะไทยเพื่อชุมชน เป็นกิจกรรมที่จัดต่อเนื่องกันมานานกว่าสิบปี และเป็นกิจกรรมเผยแพร่ศิลปวัฒนธรรมไทยที่เต็มรูปแบบ  ครั้งล่าสุดจัดขึ้นที่สวนศิลปะบาร์นเดล (Barnsdall Art Park)   ซึ่งตั้งอยู่บนถนนฮอลลีวูด ห่างจากบริเวณไทยทาวน์ประมาณหนึ่งไมล์ โดยทุกปี จะมีริ้วขบวนพาเหรดวัฒนธรรมไทย จากไทยทาวน์ไปยังบริเวณที่จัดงาน ส่วนในงานจะมีการแสดงศิลปะและวัฒนธรรมไทยต่างๆ รวมถึงการประกวดแต่งกายชุดไทยด้วย

จนเมื่อประมาณเดือนพฤศจิกายน 2546  ภายหลังจากเสร็จสิ้นงาน “ ไทยทาวน์เฟสติวัล ครั้งที่หนึ่ง”  ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างน่าชื่นชม นายอิสินธร สอนไว กงสุลใหญ่ ณ นครลอส แอนเจลิส ได้กล่าวผ่านสื่อมวลชน ถึง “ แนวความคิด” ของตนที่อยากจะให้ทุกๆ องค์กรมาผนึกกำลังจัดงานร่วมกันเป็นงานเดียว แต่ให้ยิ่งใหญ่ตระการตา  อีกทั้งรัฐบาลไทย มีงบประมาณเกี่ยวกับการเผยแพร่วัฒนธรรมไทยในต่างประเทศ ซึ่งกงสุลใหญ่ฯ คิดว่า หากนำมาร่วมจัดกิจกรรมเผยแพร่วัฒนธรรมเพียงงานเดียว จะเป็นผลที่เป็นรูปธรรมชัดเจนมากกว่าการกระจายงบฯ ก้อนดังกล่าวไปสนับสนุนหลายๆ งาน และได้กระจายความคิดนี้ไปยังกลุ่มองค์กรต่างๆ ซึ่งได้รับกระแสตอบรับในเชิงบวก กระทั่งมีการจัดตั้ง “คณะกรรมการจัดงานไทยนิวเยียร์เดย์ ” ชุดแรก เมื่อวันที่ 12 มกราคม 2547 โดยกงสุลใหญ่ อิสินธร สอนไว ได้กล่าวให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวเกี่ยวกับเรื่องนี้เมื่อวันที่ 15 มกราคม 2547 หลังจากเสร็จสิ้นการประชุมของคณะกรรมการจัดงาน “Thai New Year’s Day 2004 : Songkran Festival” ความตอนหนึ่งว่า “ การจัดไทยนิวเยียร์เดย์นั้น เกิดขึ้นได้จากการรวบรวมความคิดเห็นของบุคคลหลายๆ ฝ่าย บางฝ่ายบอกว่าการจัดงานแต่ละครั้ง บางทีคนน้อย สามพันสี่พันห้าพันคน ถ้าเทียบกับงบประมาณที่เราเสียไปแล้ว มันอาจไม่คุ้ม บางคนบอกว่าไม่อยากให้มีการปิดถนนบ่อย บางคนบอกว่าแหม !  ทำไมงานเราไม่เหมือนงานของคนจีนเขา แน่นอนงานคนจีนเขาใหญ่เพราะคนเขาเยอะมาก ด้วยเหตุนี้ก็ค่อยๆ รวบรวมกันมา ทดลองคุยกันก่อน กับอาจารย์วิบูลย์ วันประสาท (ผู้อำนวยการศูนย์ศิลปะไทยเพื่อชุมชน) กับคุณแชนซี่ (คุณชัญชนิฐ มาร์เทอเรล ผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมชาวไทย) คุยกับคุณนงเยาว์ วรานนท์ (ผู้อำนวยการศูนย์พัฒนาสุขภาพชุมชน) กลุ่มที่เคยจัดเป็นเมนหลักๆ  ในที่สุดก็ออกมามีความเห็นคล้ายกัน ก็เลยบอกว่าลองดูดีไหม จัดให้มันยิ่งใหญ่ไปเลย”

ทั้งนี้ คณะกรรมการฯ ได้มีมติพ้องกันว่า ให้เชิญชูวันสงกรานต์ ซึ่งถือเป็นวันปีใหม่ของไทยเป็นแกน (theme ) ของงาน โดยใช้ชื่อว่า Thai New Year’s Day 2004: Songkran Festival เป็นงานที่จะจัดขึ้นเป็นประจำทุกปี ในวันอาทิตย์แรกของเดือนเมษายน ซึ่งในปี 2548 นี้ จะตรงกับวันที่ 3 เมษายน