เมื่อเวลา 13.30 น.ของวันที่ 5 ตุลาคมที่ผ่านมา ณ ร้านอาหารเรดคอนเนอร์เอเซีย บนถนนฮอลลีวูด นางชัญชนิฐ มาร์เทอเรล ผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมชาวไทย ได้ให้สัมภาษณ์ไทยทาวน์ยูเอสเอนิวส์ถึงความคืบหน้าเกี่ยวกับการติดตั้งประติมากรรมอัปสรสีห์ สี่มุมไทยทาวน์ ภายหลังจากรับเงินบริจาคสมทบทุนสร้างฐานประติมากรรมอัปสรสีห์จำนวน 3,500 ดอลลาร์ของธนาคารกสิกรไทย จำกัด สนง.ลอส แอนเจลิส และอีก 1,000 ดอลลาร์ของนายสาคร สิริรัฐ ซึ่งบริจาคผ่านคณะกรรมการจัดงานไทยนิวเยียร์เดย์ 2005 สงกรานต์เฟสติวัล โดยนายนภดล วงศ์ชัยวัฒน์ ประธานคณะกรรมการจัดงานฯ นำมามอบให้ และเงินบริจาคอีก 3,000 ดอลลาร์ ของคณะผู้จัดคอนเสิร์ตคาราบาวอินแอลเอ โดยนางนงเยาว์ วรานนท์ ผู้อำนวยการศูนย์สุขภาพชุมชน นำมามอบให้
      โดยนางชัญชนิฐ มาร์เทอเรล กล่าวว่า ทางศูนย์ฯ ได้รับใบอนุญาตขั้นตอนสุดท้ายจากเทศบาลนครลอส แอนเจลิส ให้ติดตั้งประติมากรรมอัปสรสีห์สองตัวแรกเมื่อประมาณสามสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยทางเทศบาลให้เวลาศูนย์ฯ ในการนำเสนอแผนผังจุดติดตั้ง แผนงานการดูแลรักษา อินชัวรันซ์ต่างๆ ให้พิจารณาภายใน 180 วัน
      “กว่าจะได้เพอร์มิตมันใช้เวลานานมาก เพราะต้องติดต่อกับหลายแผนกมาก โดยเฉพาะการตกลงกับเอ็มทีเอ (บริษัทขนส่งมวลชนเมโทร ซึ่งมีสถานีรถไฟใต้ดิน ในบริเวณมุมไทยทาวน์ อันเป็นจุดที่จะติดตั้งประติมากรรมอัปสรสีห์) ตลอดเวลาที่ผ่านมา ผังที่เราวางเอาไว้ต้องเปลี่ยนหลายครั้งมาก เพราะทางเอ็มทีเอ เขาขอให้เปลี่ยน สองข้างถนนนี่เราต้องเปลี่ยนผังห้าครั้งแล้ว ครั้งสุดท้ายที่เขาให้ขยับก็ไปตรงกับต้นไม้ที่ซิตี้ปลูกเอาไว้ ทางซิตี้ก็ขอให้เราขุดเอาไปปลูกที่อื่น ก็กำลังหาที่ว่างที่ไม่มีต้นไม้อยู่ค่ะ” ผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมชาวไทยกล่าว และกล่าวว่ามั่นใจว่าจะสามารถดำเนินการติดตั้งประติมากรรมอัปสรสีห์สองตัวแรกได้ทันก่อนวันที่ 2 เมษายน ศกหน้า ซึ่งเป็นวันจัดงาน “ไทยนิวเยียร์เดย์ 2006: สงกรานต์เฟสติวัล” อย่างแน่นอน
      ส่วนของเรื่องเงินทุนในการสร้างฐานของประติมากรรมอัปสรสีห์ ซึ่งเป็นรูปหล่อทองเหลืองนำมาจากประเทศไทยเมื่อหลายปีที่แล้วนั้น ผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมชาวไทย กล่าวว่าวิศวกรและผู้ออกแบบฐานประติมากรรม ซึ่งเป็นฐานทรงเหลี่ยมประดับลายไทย สูงประมาณสิบฟุต ประเมินว่าจะต้องใช้เงินค่าวัสดุ และค่าก่อสร้างประมาณตัวละ 14,046 ดอลลาร์
      “หากเราเริ่มสร้างสองตัวที่ได้เพอร์มิตจากซิตี้ก่อน ก็ต้องใช้เงิน 28,092 ดอลลาร์ ตอนนี้ทางศูนย์ฯ มีเงินทั้งหมด 24,840 เหรียญ รวมเงินที่ได้รับในวันนี้ด้วย ก็ขาดอีกไม่เยอะนัก เชื่อว่าไม่มีปัญหาแน่” นางชัญชนิฐ มาร์เทอเรล กล่าวและว่าขั้นตอนต่อไปคือการเปิดประมูลราคา เพื่อหาผู้รับเหมาก่อสร้างต่อไป
      ทั้งนี้ นับตั้งแต่ปี 1999 ที่ทางศูนย์ฯ ได้ริเริ่มโครงการอัปสรสีห์ หรือชื่อภาษาอังกฤษว่า ไทยทาวน์แองเจิล เพื่อสร้างเอกลักษณ์ความเป็นไทยให้เด่นชัดยิ่งขึ้นในบริเวณพื้นที่ซึ่งเทศบาลนครลอส แอนเจลิส อนุมัติให้มีการปักเขตว่าเป็น “ไทยทาวน์” บนถนนฮอลลีวูดนั้น ทางศูนย์ฯ ได้รับเงินช่วยเหลือจากฝ่ายต่างๆ ดังนี้
      นายเดนนิส ชู 100 ดอลลาร์, นายเจค็อป ดับเบิลยู แว็กซ์เล่อร์ 40 ดอลลาร์, บริษัทเอ็ดดิสัน แห่งแคลิฟอร์เนียใต้ 1,000 ดอลลาร์, สภาหอการค้าฮอลลีวูด 2,500 ดอลลาร์, เงินบริจาคในงานไทยนิวเยียร์เดย์ฯ 10.25 ดอลลาร์, นายสุรพงษ์ ชิโนทัยกุล 1,000 ดอลลาร์, กองทุนของเทศบาลนครลอส แอนเจลิส (Neighborhood Matching Fund) 10,000 ดอลลาร์, ร้านนุช 1,500 ดอลลาร์, ธนาคารกสิกรไทย 3,500 ดอลลาร์, อลูมินั่ม เกรย์ 1,000 ดอลลาร์, คอนเสิร์ตคาราบาวอินแอลเอ 3,000 ดอลลาร์, เงินบริจาคในคอนเสิร์ตคาราบาว 190 ดอลลาร์ และคุณสาคร สิริรัฐ 1,000 ดอลลาร์
      ในส่วนของการติดตั้งประติมากรรมอัปสรสีห์อีกสองตัวที่เหลือ ซึ่งจะติดตั้งบริเวณมุมถนนไทยทาวน์ตัดกับนอร์มังดี อันเป็นมุมไทยทาวน์ทางทิศตะวันออกนั้น นางชัญชนิฐ กล่าวว่ายังมีปัญหาบางประการ
      “ที่ตั้งใจจะวางตรงนอร์มังดีกับฮอลลีวูด ปรากฏว่าร้านอาร์เมเนี่ยนทั้งสองฝั่งไม่ยอม ซิตี้ก็มาคุยกับร้านทั้งสอง แต่ไม่ยอม ไม่ยอมเด็ดขาดเลย เราก็กะว่าจะย้ายขึ้นไปถึงแอชมอนท์ ซิตี้ก็ไม่ยอม เพราะเลยเขตของไทยทาวน์ออกไปอยู่ในเขตอามีเนียนแล้ว สุดท้ายก็คือต้องหดเข้ามา ตรงถนนวิโนน่า หน้าโรงแรมฮอลลีวูดเอ็กเพรซ ซึ่งเจ้าของโรงแรมเขาก็ยินดี ให้หนังสือสนับสนุนมาแล้ว ส่วนอีกฝั่งคือที่ของพลาซ่าร้านนุช เขาเพิ่งขายไป ตอนนี้ยังหาเจ้าของใหม่ไม่เจอ แต่เชื่อว่าไม่น่าจะมีปัญหาค่ะ” ผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมชาวไทยกล่าว
      นางชัญชนิฐ มาร์เทอเรล กล่าวด้วยว่า ตนมีข่าวดีที่จะเรียนให้ประชาชนทราบด้วยว่า คณะกรรมการไทยทาวน์ชุดก่อตั้ง (Thaitown Formation committee) ได้กลับมารวมตัวกันอีกครั้งเพื่อดำเนินการรณรงค์หาทุนสร้างฐานอัปสรสีห์ และค่าดูแลรักษา รวมถึงเงินค่าประกันภัยต่างๆ โดยจะมีการประชุมนัดแรกในเดือนนี้
      “กรรมการชุดนี้คือชุดที่ช่วยเราตั้งไทยทาวน์เลย มีหลายคนเช่นคุณนิตยา โชติรโส, คุณสิริวรรณ นิมิตรศิลป์, คุณวิรัช เต็มสงสัย, คุณสมชาย วงศ์เพียรศึกษา, คุณตุง รามา, อาจารย์วิบูลย์ วันประสาท และอีกหลายคน ตอนนี้ทางศูนย์ฯ ทำสปอนเซอร์ชิปแพ็กเกจเสร็จแล้ว ในนั้นจะมีประวัติของไทยทาวน์ แผนผังของธุรกิจในพื้นที่ มีประวัติอัปสรสีห์ และมีแบบฟอร์มเป็นสปอนเซอร์ให้เขากรอก ว่าจะบริจาคระดับไหน แต่ละระดับก็จะได้ผลตอบแทนไม่เหมือนกัน เช่นถ้าบริจาคห้าพัน ก็จะมีป้ายชื่อติดให้ อะไรทำนองนี้” ผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมชาวไทยกล่าว และว่าทางศูนย์ฯ ได้คิดแผนการหาทุนสร้างอัปสรสีห์ขึ้นมาสามแผน คือ หนึ่ง การหาทุนสร้างฐานอัปสรสีห์สองตัวที่ผ่านการอนุมัติจากเทศบาลนครลอส แอนเจลิส แล้ว แผนสองคือการหาทุนสร้างทั้งอัปสรสีห์ทั้งสี่ตัว ซึ่งต้องการเงินทั้งสิ้น 56,184 ดอลลาร์ และแผนสามคือหาเงินค่าก่อสร้างทั้งสี่ตัว บวกกับค่าดูแลรักษา ยอดเงินที่ต้องการคือ 64,184 ดอลลาร์ ทั้งนี้ นางชัญชนิฐกล่าวถึงค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาและค่าประกันภัยของอัปสรสีห์ว่า ตนกำลังศึกษารายละเอียดอยู่ แต่คาดว่าจะตกประมาณปีละ 3,000 ดอลลาร์
      ผู้สื่อข่าวได้ถามถึงข้อเท็จจริงกรณีที่มีข่าวในหนังสือพิมส์เอเชียนแปซิฟิกนิวส์ว่า มีผู้บริจาคเงินให้กับศูนย์ฯ จำนวน 80 ดอลลาร์ แต่เช็คซึ่งสั่งจ่ายศูนย์ (Thai Community) ถูกต่อเติมชื่อผู้รับเงินอีกรายว่า Suppachai Tree (ศุภชัย ตรี) และถูกนำไปเข้าบัญชีของนายศุภชัย ตรีบำรุง ซึ่งเป็นคอลัมนิสต์เจ้าของนามปากกา “ดอกจำปูน” ของหนังสือพิมพ์ชื่อ สยามโครนิเคิล ว่ามีข้อเท็จจริงอย่างไร ผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมชาวไทย กล่าวว่า ประมาณเดือนที่ผ่านมา เจ้าของเช็ค ได้โทรศัพท์มาสอบถามทางศูนย์ฯ ว่าได้รับเช็ค 80 ดอลลาร์ เป็นค่าฉลากรัฟเฟิลในงานเลี้ยงฉลองครบรอบสิบปีของศูนย์ส่งเสริมชาวไทยหรือไม่ เพราะในเช็คที่ธนาคารส่งคืนให้ตนหลังผ่านการขึ้นเงินแล้วนั้น มีการเพิ่มชื่อนายศุภชัย ตรีบำรุง เข้าไปด้วย
      “พอตรวจดูก็ไม่เห็นว่าเราเคยได้เช็คใบนี้ ก็ถามไปทางคุณศุภชัย เขาบอกเขาไม่เคยขายรัฟเฟิลของศูนย์ฯ ก็ให้เจ้าหน้าที่บอกเจ้าของเช็คว่าให้เอาแคนเซิลเช็คมา เราจะได้ทำเรื่องต่อ แต่เขาก็เงียบไป ไม่ได้ติดต่อกลับมา เรื่องก็เงียบๆ ไปจนมีข่าวออกมาว่าบนเช็คที่สั่งจ่ายเรา ได้ถูกขีดทับ (/ ) และเพิ่มชื่อศุภชัยเข้าไป แต่เราไม่เคยเห็นเช็คอันนั้นเลยนะ” นางชัญชนิฐกล่าว และว่าหากเช็คฉบับนั้นผ่านการเข้าบัญชีแล้ว ไม่ว่าจะเป็นบัญชีของใคร สามารถตรวจสอบได้ไม่ยาก และว่าหากตรวจสอบแน่ชัดว่าเป็นเรื่องจริง ตนจะดำเนินการทางกฎหมายแน่นอน.

นำเสนอข่าวโดย : ภาณุพล รักแต่งาม
ที่มา : ไทยทาวน์ ยูเอสเอนิวส์

อ่านบทความล่าสุดแล้วเห็นชัดว่าเขาเขียนโดยเอา “อคติ” ที่มีต่อผมเป็นที่ตั้ง ที่ว่าการทำงานของผมและคณะกรรมการทุกคน “ไม่ถูก” นั้น ผมว่าไม่ถูกใจเขามากกว่า เพราะอ่านจนจบแล้วก็ไม่เห็นว่าเขาจะสามารถระบุให้ชัดเจนได้ว่าผมและทีมงานทำผิดกติกา หรือผิดขั้นตอน หรือมีเลศนัยอะไรที่ตรงไหน
      ก่อนอื่น ขอบคุณพี่แตน อรรคเดช ศรีพิพัฒน์ รวมถึงบก.และเจ้าของหนังสือพิมพ์เล่มอื่นๆ ที่ยอมสละพื้นที่เพื่อให้ผมได้ชี้แจงข้อกล่าวหาของ “เพชรพระอาทิตย์” ในหนังสือของท่าน และขอชี้แจงคำกล่าวหาต่างๆ ดังนี้ครับ
      ผมร่วมทำงานไทยนิวเยียร์มาตั้งแต่ปีแรก กล้าพูดว่าทุกขั้นตอน ผมมีส่วนรู้เห็น และหวังว่าเหมือนกับทีมงานทุกคนว่า งานไทยนิวเยียร์ควรจะยิ่งใหญ่ขึ้นไปเรื่อยๆ ปีแรกๆ อาจได้คนมาแค่สี่ห้าหมื่นคน แต่เชื่อว่าจะเพิ่มเป็นแสนเป็นล้านคนได้ในปีต่อๆ ไป ถ้าเราเตรียมงานได้ดีพอ นั่นคือสาเหตุที่ผมทุ่มเททำงานอยู่ในเวลานี้
      ที่ว่าผมทำงานเพื่อเอาหน้า เพื่อเอาผลประโยชน์เพราะมีธุรกิจอยู่ในไทยทาวน์ เรียนว่าไม่ใช่เลย ยืนยันว่าจุดประสงค์หลักคือการทำงานเพื่อชุมชน เพื่อพัฒนาไทยทาวน์ เพื่อส่งเสริมและเผยแพร่วัฒนธรรม เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองไทย และเพื่อแนะนำชุมชนไทยให้ต่างชาติ โดยเฉพาะรัฐบาลท้องถิ่นได้รับรู้ถึงความเป็นปึกแผ่นหนาแน่น อันจะมีผลประโยชน์ตามมามากมาย
      แน่นอนว่า การทำงานเพื่อประโยชน์ส่วนรวมอย่างที่ว่า ผมไม่ปฏิเสธว่าทำแล้วผมได้เครดิต ได้หน้า และมีคนรู้จักธุรกิจของผมเพิ่มมากขึ้น แต่สิ่งเหล่านี้ถือว่าเป็นเพียงผลพลอยได้ที่ผมและทีมงานพึงจะได้ และชอบธรรมที่จะได้ เพราะได้มาจากการทำงาน ไม่ใช่ได้มาโดยการเอารัดเอาเปรียบหรือฉ้อฉลใคร
      ที่บอกว่าผมทำงานผิดขั้นตอนเรื่องการตั้งบอร์ด เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์จนต้องแก้เกี้ยวออกข่าวว่าเป็นบอร์ดชั่วคราวนั้น ขอตอบว่าไม่ผิดแน่นอน เพราะในฐานะอดีตประธานจัดงานปีที่แล้ว เป็นหน้าที่ของผมที่จะต้องเริ่มต้นโดยการนัดทีมงานมาคุยกัน จะให้เรียกชุมชนไทยทั้งหมดมาประชุมกันก็คงไม่ไหว ก็เรียกเฉพาะทีมงานบางส่วนมาเริ่มต้นกันก่อน เป็นการคุยกันในวงแคบ เพื่อหาแนวทาง หาข้อมูลเพื่อนำเข้าที่ประชุมใหญ่ร่วมกับท่านกงสุลใหญ่ฯ ทีมไทยแลนด์ และชุมชนไทยทุกฝ่าย ซึ่งกำลังนัดวันประชุมกับท่านกงสุลใหญ่ฯ อยู่ในเวลานี้
      อีกประเด็นที่อยากชี้แจงก็คือเรื่องที่ว่าผม “มุบมิบ” จัดประชุม เชิญพรรคพวกมาตั้งเป็น “บอร์ดกำมะลอ” นั้น อยากเรียนว่าคนที่มาประชุมทุกคนล้วนแล้วแต่เป็นนายกสมาคม ประธานชมรม เป็นเจ้าของธุรกิจ เป็นคนที่มีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับในสังคมทั้งสิ้น คนระดับนี้ล้วนแต่มีความคิด มีอุดมการณ์ของตัวเอง จะคล้อยตามคำชี้นำของผม ยอมทำตัวเป็น “บอร์ดกำมะลอ” อย่างที่ถูกกล่าวหา คงเป็นไปไม่ได้
      การตั้งบอร์ดขึ้นมาเพื่อเร่งดำเนินการจดทะเบียนเป็นองค์กรไม่หวังผลกำไรให้แล้วเสร็จนั้น ก็เพื่อให้การทำงานคืบหน้าไปเรื่อยๆ เท่านั้น และในวันประชุมใหญ่ฯ ก็จะมีการขอมติที่ประชุมอีกทีว่าจะยอมรับบอร์ดชุดนี้หรือเปล่า หากที่ประชุมมีมติอย่างไรก็จะทำตามมติที่ประชุม
      เรายังไม่ทันได้เข้าประชุมใหญ่ หรือมีข้อสรุปใดๆ ที่ชัดเจนเลย “เพชรพระอาทิตย์” ก็จัดการแถลงข่าวแทนพวกเราเสียแล้ว อะไรคือความถูกต้องของขั้นตอน ทำไมไม่รอให้พวกผมแถลงข่าวให้ครบถ้วนเสียก่อน ค่อยมาวิพากษ์วิจารณ์ว่ามีผิดมีพลาดที่ไหน
      และที่สำคัญคือ ข้อมูลที่เอามาเขียนนั้น ตัดตอนมาเพียงไม่ถึงหนึ่งในสิบของเรื่องที่คุยกันในที่ประชุม เช่นการทำแบบสอบถามว่า “อยากให้มีการจัดงานไหม ถ้าอยากให้จัดจะให้เงินเท่าไหร่” ก็เพราะว่าคณะทำงานทุกคนเห็นเหมือนกันว่าการจัดงานสองปีที่ผ่านมา เราไม่ค่อยได้รับความร่วมมือที่ชัดเจนจากธุรกิจในพื้นที่ มีการพูดกันไปต่างๆ นานา ที่ประชุมเห็นว่า หากเราจะจัดงานไทยนิวเยียร์ให้ยิ่งใหญ่กว่านี้ เราต้องเคลียร์ตรงนี้เสียก่อน ก็ตกลงกันว่าควรออกแบบสำรวจความคิดเห็นของคนในพื้นที่ก่อน เป็นการถามแบบตรงไปตรงมา ไม่ได้ข่มขู่หรือลบหลู่ดูถูกใคร เพราะเราจะทำงานในพื้นที่ของเขา หากพวกเขาไม่สนับสนุนเราจะทำงานกันอย่างไร
      ส่วนเรื่องขอรับบริจาคเงินนั้น เรียนว่างานไทยนิวเยียร์สองครั้งที่ผ่านมา เราไม่มีงบประมาณเลย เราทำงานกันค่อนข้างลำบาก จะจัดงานใหญ่ แต่ไม่มีงบประมาณเลย ใครเขาจะเข้ามาทำงาน เรียนให้ทราบว่าปีที่แล้ว ผมในฐานะประธานต้องสำรองจ่ายเงินไปหมื่นกว่าเหรียญ มีหลักฐานทุกอย่าง เรียนถามว่าถ้าเป็นแบบนี้ใครจะอยากเข้ามาเป็นประธานจัดงาน ทั้งเหนื่อยกาย เหนื่อยใจ และต้องจ่ายเงินด้วย
      สิ่งที่พวกเราพยายามทำกันอยู่ตอนนี้ก็คือ เตรียมงานทุกด้านให้พร้อม โดยเฉพาะเรื่องเงินทุน เพื่อว่าใครที่เข้ามาเป็นประธานจะได้ไม่ต้องเหนื่อยหนักเหมือนสองปีแรก ลองทำใจให้เป็นกลางดูนะครับว่าธุรกิจในพื้นที่ควรช่วยเหลือเราหรือเปล่า เพราะผลประโยชน์มันตกอยู่ตรงนั้นทั้งหมด จะช่วยเท่าไหร่ก็ได้สิบเหรียญ ยี่สิบเหรียญ ร้อยเหรียญ สองร้อยเหรียญ ก็ชื่นใจแล้ว
      ที่ “เพชรพระอาทิตย์” ไม่เขียนอีกอย่างคือ แบบสำรวจความเห็นข้อสามถามว่า อยากให้ใครเข้ามาทำงานเป็นประธาน ถ้าคุณอยากให้มีงานไทยนิวเยียร์ต่อไป ก็บอกมาเลยว่าอยากให้ใครเป็นประธาน เสนอคนที่คุณต้องการเข้ามา แล้วสังคมก็จะช่วยกันคัดเลือกคนที่เหมาะสมที่สุดขึ้นมาทำงาน
      เรื่องที่บอกว่างานไทยนิวเยียร์ใช้เงินจัดงานแค่ 6-7 หมื่นเหรียญก็พอนั้น อยากเรียนถามว่า เพชรพระอาทิตย์ เอาข้อมูลมาจากไหน ในเมื่อบอกเองว่าผมไม่เคยชี้แจงตัวเลข ผมบอกว่าถ้าจะจัดให้ดี ต้องมีทุนประมาณแสนเหรียญ เพราะหากจะจัดงานให้ยิ่งใหญ่ มีคนมาเที่ยวเป็นแสนเป็นล้านอย่างที่ตั้งเป้าเอาไว้ ก็ต้องมีมืออาชีพเข้ามาทำงานมากกว่านี้ ไม่ใช่ทุกอย่างคือการอาสาสมัครเข้ามาทำ เราต้องจ้างมืออาชีพเข้ามาทำงาน มาพัฒนา มาทำประชาสัมพันธ์ มารักษาความปลอดภัย ฯลฯ อย่าลืมว่าองค์กรคนไทยที่อาสาเข้ามาทำงานนั้น ไม่ใช่มืออาชีพ งานใหญ่ๆ ของชาติอื่นๆ อย่างการจัดงานลูน่านิวเยียร์ของชุมชนจีน ก็ใช้บริษัทมืออาชีพเข้ามาดำเนินการทั้งนั้น หากทำแบบนี้ได้งานของเราจะโตขึ้น และองค์กรคนไทยที่อาสาเข้ามาช่วยงานก็จะได้ไม่ต้องเหนื่อยสาหัสอย่างสองปีที่ผ่านๆ มา เพราะทำหน้าที่คอยดูแลให้เป็นไปตามที่ตกลงกันไว้เท่านั้น
     การทำงานไทยนิวเยียร์สองปีที่ผ่านมา ยืนยันได้เลยว่าไม่มีใครในคณะกรรมการได้เงินเข้ากระเป๋าแม้แต่เพ็นนีเดียว มีแต่จ่ายกันอุตลุดทั้งนั้น
     ผมขอเรียนถามด้วยว่า คนที่ไม่เคยช่วยงาน ไม่เคยลงทุนลงแรงใดๆ ทั้งสิ้น แต่คอยเขียนโจมตีคนทำงาน บิดเบือน และยุยงสังคมให้ไขว้เขว สับสน ไม่ให้คนในสังคมก้าวไปในทิศทางเดียวกันแบบนี้ เขาต้องการอะไร
     เรื่องอัปสรสีห์ที่บอกว่าจนป่านนี้ยังไม่ได้ตั้งนั้น ผมบอกว่าถ้าเรามีเงินเหลือจากการจัดงานไทยนิวเยียร์ เราจะมอบให้ศูนย์ส่งเสริมชาวไทยไปดำเนินการ ซึ่งที่ผ่านมาเราก็รักษาคำพูดทุกอย่าง อย่างน้อยการประกาศเจตนาว่าเราชุมชนไทยร่วมใจกันจัดงานเพื่อสร้างฐานอัปสรสีห์ ก็ทำให้ทางซิตี้เล็งเห็นถึงพลังสามัคคีของชุมชนไทย มอบเงินมาแล้วหนึ่งหมื่นเหรียญ ธนาคารกสิกรให้มาอีกสามพันห้า ผมจัดคอนเสิร์ตคาราบาว ได้มาอีกสามพันเหรียญ
     ปัญหาของการติดตั้งอัปสรสีห์นั้น มีมากกว่าเรื่องเงินทุน เช่นเรื่องใบอนุญาตที่ยังต้องแก้ไขรายละเอียดของเสาปูน และอื่นๆ ซึ่งศูนย์ส่งเสริมชาวไทยกำลังแก้ไขอยู่ “เพชรพระอาทิตย์” รับทราบเรื่องเหล่านี้หรือไม่ หรือถ้าเห็นว่าไม่ทันใจ ก็บริจาคเงินเพิ่มเข้าไปได้เลย อัปสรสีห์จะได้ตั้งเร็วขึ้น
     สุดท้าย อยากฝากเอาไว้ว่า การเสียสละเข้ามาทำงานเพื่อส่วนรวมนั้น ทุกคนถูกตำหนิได้ แต่ไม่ควรมีใครถูกด่า ถูกประณามกันขนาดนี้ ทุกคนเข้ามาทำงานอย่างเสียสละ อดหลับอดนอน เสียเวลาทำงานมาร่วมประชุมกันเป็นสิบๆ ครั้ง โดยไม่ได้ผลประโยชน์ตอบแทนมากไปกว่าจากความภาคภูมิใจที่ได้มีส่วนร่วมพัฒนาสังคม หาก “เพชรพระอาทิตย์” เห็นว่าการจัดงานควรเป็นไปในรูปแบบไหน หรือเห็นว่าผมไม่ควรเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องในการจัดงานนี้ ก็ขอให้ไปร่วมแสดงความคิดเห็นกันในวันประชุมใหญ่ ซึ่งเรากำลังนัดวันกับทางสถานกงสุลใหญ่ฯ อยู่และจะแจ้งผ่านสื่อมวลชนให้ทราบกันอีกครั้ง
     ขอขอบคุณคนไทยทุกท่านที่กรุณาสละเวลาอ่านหนังสือชี้แจงของผมฉบับนี้ และขอขอบคุณหนังสือพิมพ์ทุกเล่มที่กรุณาสละพื้นที่อันมีค่าของท่านเพื่อตีพิมพ์เรื่องนี้อีกครั้ง
     
นภดล วงศ์ชัยวัฒน์
ประธานคณะกรรมการจัดงานไทยนิวเยียร์ 2005

นำเสนอข่าวโดย : ภาณุพล รักแต่งาม
ที่มา : ไทยทาวน์ ยูเอสเอนิวส์

เมื่อเย็นวันที่ 15 กรกฎาคมที่ผ่านมา ส่วนหนึ่งของคณะกรรมการจัดงานไทยนิวเยียร์เดย์ 2005: สงกรานต์เฟสติวัล โดยการนำของนายนภดล วงศ์ชัยวัฒน์ อดีตประธานคณะกรรมการจัดงานฯ ได้ร่วมประชุมเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับงานไทยนิวเยียร์เดย์: สงกรานต์เฟสติวัล ในปีต่อๆ ไป โดยมีผู้เข้าร่วมประชุม 12 คน
     โดยนายนภดล วงศ์ชัยวัฒน์ ได้กล่าวกับที่ประชุมว่า การจัดงาน “ไทยนิวเยียร์เดย์ 2005: สงกรานต์เฟสติวัล” ที่ผ่านพ้นไปเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ถึงแม้จะลุล่วงไปด้วยดี แต่ก็ขลุกขลักและมีปัญหาเฉพาะหน้าให้ต้องแก้ไขมากพอสมควร ทั้งนี้เป็นเพราะมีเวลาทำงานค่อนข้างน้อย กล่าวคือมีเวลาไม่ถึงสามเดือน ตนจึงอยากให้มีการเตรียมงานกันตั้งแต่เนิ่นๆ เพื่อให้การจัดงานในปีหน้า มีความราบรื่นมากขึ้น จึงขอเสนอให้มีการจัดตั้งองค์กรไม่หวังผลกำไรขึ้นมา เป็นองค์กรหลัก มีหน้าที่จัดงานไทยนิวเยียร์เดย์: สงกรานต์เฟสติวัล ปีละครั้ง ซึ่งที่ประชุมเห็นชอบ และมีมติให้ผู้เข้าร่วมประชุม และคณะกรรมการจัดงานชุดที่ผ่านมา เป็นกรรมการอำนวยการชุดชั่วคราว โดยให้ชื่อว่า “สงกรานต์เฟสติวัล อินค์” (Songkran Festival Inc.) โดยมีมติให้นายนภดล วงศ์ชัยวัฒน์, นายวัชระ เรียงจารุสมบูรณ์ และนายเรวัติ หลายเจริญทรัพย์ ทำหน้าที่เป็นประธานกรรมการบริหาร, เลขานุการ และเหรัญญิก เป็นการชั่วคราวเพื่อดำเนินการจดทะเบียนองค์กรไม่หวังผลกำไรให้แล้วเสร็จ
     ส่วนการคัดเลือกคณะกรรมการบริหารชุดถาวรในทุกตำแหน่งนั้น จะมีขึ้นภายหลัง ในการประชุมร่วมกับคณะกรรมการ และผู้สนใจทั่วไป รวมถึงนายอิสินธร สอนไว กงสุลใหญ่ ณ นครลอส แอนเจลิส และทีมไทยแลนด์ ทุกฝ่าย โดยขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการประสานงานกับองค์กรที่เกี่ยวข้องเพื่อกำหนดวันประชุมที่เหมาะสม
     “ถ้าเรามีองค์กรไม่หวังผลกำไรขึ้นมารองรับ มีวัตถุประสงค์แน่ชัดเพียงอย่างเดียว คือจัดงานไทยนิวเยียร์เดย์ : สงกรานต์เฟสติวัล ปีละครั้ง ต่อไปเราก็จะสามารถขอใบอนุญาตต่างๆ ได้ด้วยตัวเอง ออกใบเสร็จให้สปอนเซอร์เอาไปหักภาษีได้ เพราะที่ผ่านมายังต้องให้องค์กรต่างๆ แยกย้ายกันไปทำหน้าที่ ซึ่งบางทีก็ล่าช้า จวนตัว เราก็เอาพวกเราที่เคยทำงานมาแล้วสองปี มีประสบการณ์แล้วนั่นแหละ มาเป็นกรรมการบอร์ด เพื่อเลือกคณะกรรมการจัดงานขึ้นมาทำงานแต่ละปี โดยพวกเราจะเป็นพี่เลี้ยงให้ในทุกๆ อย่าง ถ้าทำได้ ปีต่อๆ ไปงานก็จะง่ายขึ้น เดินไปได้อย่างเป็นระบบขึ้น” นายนภดล วงศ์ชัยวัฒน์ อดีตประธานคณะกรรมการจัดงานไทยนิวเยียร์เดย์ 2005 กล่าว
     นอกจากนี้ ที่ประชุมยังมีมติเห็นชอบให้มีการสำรวจความเห็นของธุรกิจในพื้นที่ไทยทาวน์ ว่าเห็นชอบกับการปิดถนนฮอลลีวูด เพื่อจัดงาน “ไทยนิวเยียร์เดย์: สงกรานต์เฟสติวัล” หรือไม่ เพราะที่ผ่านมา คณะกรรมการจัดงานเห็นว่าไม่ได้รับความร่วมมือจากธุรกิจในพื้นที่เท่าที่ควร เพราะนอกจากไม่สนับสนุนในส่วนของเงินทุนจัดงานแล้ว บางร้านยังถือโอกาสนำน้ำดื่มออกมาวางขายหน้าร้าน ทำให้รายได้ของคณะกรรมการจัดงานจากการจำหน่ายน้ำดื่มต้องถูกแบ่งปันไปเป็นจำนวนมากด้วย
     นายพลเทพ อินทุรักษ์ หนึ่งในองค์ประชุม กล่าวกับไทยทาวน์ยูเอสเอนิวส์ว่า แบบสำรวจความเห็นของธุรกิจในพื้นที่น่าจะมีอย่างน้อยสามข้อ คือหนึ่งอยากให้จัดงานในเขตไทยทาวน์หรือไม่ สองหากอยากให้จัด จะสนับสนุนเท่าไหร่ และสาม ต้องการให้ใครเป็นประธานจัดงาน เพื่อจะได้ให้คณะกรรมการบริหารของสงกรานต์เฟสติวัล อิงค์ พิจารณาคัดเลือกให้ขึ้นมาทำหน้าที่ต่อไป
     “เรามีธุรกิจในพื้นที่ประมาณ 52 แห่ง แต่ที่สนับสนุนงานไทยนิวเยียร์เดย์มีไม่กี่ร้าน ทั้งที่ไม่ว่าจะมองในแง่ไหน ก็จะเห็นว่าผลประโยชน์ตกอยู่กับธุรกิจในพื้นที่มากที่สุด แต่เราไม่ได้รับการสนับสนุนเท่าที่ควร เลยตกลงกันว่า เราสำรวจความเห็นเลยดีกว่า ถ้าไม่อยากให้เราจัดงาน เราก็จะได้รู้ จะได้ย้ายขึ้นไปจัดทางถนนไวน์ หรือแถวนั้น เพราะใกล้กับแหล่งท่องเที่ยวคือโรงหนังไชนีสเธียร์เตอร์มากกว่าด้วย” นายพลเทพ กล่าว
     ทั้งนี้ นายนภดล วงศ์ชัยวัฒน์ อดีตประธานคณะกรรมการจัดงานปีที่แล้ว กล่าวว่า การจัดงานไทยนิวเยียร์เดย์ 2005: สงกรานต์เฟสติวัล ที่เพิ่งผ่านพ้นไปเมื่อเดือนเมษายนนั้น สรุปว่าต้องใช้ค่าใช้จ่ายประมาณหนึ่งแสนดอลลาร์เป็นอย่างน้อย โดยค่าใช้จ่ายก้อนนี้ ควรแบ่งเป็น 5 ส่วน คือ
     1 ภาครัฐ โดยสถานกงสุลใหญ่ฯ และทีมไทยแลนด์ 20 เปอร์เซ็นต์
     2 ขายบูธและรายรับจากการจัดงานด้านอื่นๆ 20 เปอร์เซ็นต์,
     3 สปอนเซอร์จากบริษัทต่างชาติ 45 เปอร์เซ็นต์,
     4 รายได้อื่นๆ เช่นจำหน่ายรัฟเฟิล จำหน่ายน้ำดื่ม ฯลฯ 5-10 เปอร์เซ็นต์
     5 การสนับสนุนจากธุรกิจในพื้นที่อย่างน้อย 5-10 เปอร์เซ็นต์
     นอกจากนี้ ที่ประชุมยังเสนอให้มีการแก้ไขปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นในงานไทยนิวเยียร์เดย์ : สงกรานต์เฟสติวัล ครั้งที่ผ่านมา เช่นสปอนเซอร์บางรายไม่จ่ายเงินตามที่รับปากเอาไว้ หรือควรมีการว่าจ้างเจ้าหน้าที่ด้านต่างๆ ให้เป็นแบบแผนมากขึ้น เพราะการทำงานแบบอาสาสมัครนั้น บางครั้งก็ไม่ได้ผลอย่างที่ควรจะเป็น เป็นต้น.

นำเสนอข่าวโดย : ภาณุพล รักแต่งาม
ที่มา : ไทยทาวน์ ยูเอสเอนิวส์

 โดย อี๊ด วงฟลาย หรือ สำราญ ช่วยจำแนก นักร้องนำวงฟลาย เจ้าของเอกลักษณ์ทรงผมสกินเฮดและแว่นดำ เป็นศิลปินคนแรกที่เดินทางมาถึง กล่าวกับ ผู้สื่อข่าว ThaitownUSA News ประเทศไทย ว่า การเดินทางไปร่วมงานครั้งนี้รู้สึกตื่นเต้นเหมือนทุกครั้งที่เมื่อรู้ว่าจะได้ไปพบปะพี่น้องแฟนเพลงในสหรัฐฯ ช่วงหลังตั้งแต่ตนออกอัลบั้มเดี่ยว “นอกรอบ” ก็มีกลุ่มแฟนเพลงกว้างขึ้น เดินทางไปคราวนี้มีเพลงใหม่ๆที่ไม่ได้อยู่ในอัลบั้มก่อนๆ เตรียมมามอบให้แฟนเพลงด้วย ที่เมืองไทยจะได้เจอกับแฟนเพลงบ่อย แต่กับแฟนเพลงที่สหรัฐฯ นานๆจะได้พบกันที ต้องเต็มที่แน่นอน การไปร่วมงาน Thai New Year’s Day 2005 ตนไม่คิดว่าเป็นธุรกิจ แต่อยากไปเจอแฟนเพลง อยากไปเจอคนไทยที่นั่นมากกว่า
     สำหรับ ดาวตลกชื่ดดัง หม่ำ จ๊กมก หรือ เพ็ชรทาย วงศ์คำเหลา เมื่อเดินทางมาถึงสนามบินยังคงสร้างความฮือฮาเหมือนเดิม มีแฟนๆเข้ามาขอลายเซ็นและถ่ายรูปเป็นระยะ หม่ำ กล่าวกับ ThaitownUSA News ว่า เตรียมความบันเทิงไปมอบให้พี่น้องชาวไทยเต็มที่ โดยเฉพาะชาวไทยอีสาน งานนี้รับรองว่าไม่มีมุขแป้กแน่นอน นอกจากจะมาร่วมสร้างความสนุกสนานและเสียงหัวเราะใน Thai New Year’s Day 2005 แล้ว ตนจะแวะไปโปรโมทหนังเรื่องล่าสุด “แหยม ยโสธร” ที่เพิ่งปิดกล้อง พร้อมกับเดินทางไปเยี่ยมลูกสาว “น้องเอ็มมี่” ที่กำลังศึกษาด้านภาพยนตร์อยู่ที่ โตรอนโต แคนาดา ด้วย หม่ำ ยังฝากถึงแฟนๆในสหรัฐฯเป็นภาษาอีสานว่า “ขอให้ทุกคนมีสุขภาพแข็งแรง สำหรับพี่น้องไกลบ้าน หากจะเดินทางช่วงสงกรานต์ขอให้กลับบ้านด้วยความปลอดภัย”
     ด้าน สามารถ พยัคฆ์อรุณ นักมวยชื่อดัง หนึ่งในศิลปินที่ร่วมเดินทางไปครั้งนี้ กล่าวว่า ตนเดินทางไปสหรัฐฯหลายครั้งแล้ว แต่ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 5 แม้จะห่างหายไปถึง 3 ปีแล้ว ยังไงคิดว่าแฟนๆชาวไทยที่นั่นคงไม่ลืม “สามารถ” อย่างแน่นอน การเดินทางครั้งนี้ยอมรับว่าตื่นเต้น แต่ยังอิดโรยอยู่ เพราะต้องรีบเดินทางมาให้ทันเที่ยวบิน การไปครั้งนี้ตนเตรียมลีลาหมัดมวยไปด้วย โดยเฉพาะแม่ไม้มวยไทย เพื่อสร้างความเซอร์ไพรซ์นอกเหนือไปจากเสียงเพลง
     เมื่อได้เวลา ศิลปินไทยทั้งสาม พร้อมคณะประสานงาน ก็ได้ร่วมกันถ่ายรูปเป็นที่ระลึก ก่อนจะเดินทางขึ้นเครื่องบินตรงสู่ นครลอสแอนเจลิส ทันที

นำเสนอข่าวโดย : ภาณุพล รักแต่งาม
ที่มา : ไทยทาวน์ ยูเอสเอนิวส์

 โดย อี๊ด วงฟลาย หรือ สำราญ ช่วยจำแนก นักร้องนำวงฟลาย เจ้าของเอกลักษณ์ทรงผมสกินเฮดและแว่นดำ เป็นศิลปินคนแรกที่เดินทางมาถึง กล่าวกับ ผู้สื่อข่าว ThaitownUSA News ประเทศไทย ว่า การเดินทางไปร่วมงานครั้งนี้รู้สึกตื่นเต้นเหมือนทุกครั้งที่เมื่อรู้ว่าจะได้ไปพบปะพี่น้องแฟนเพลงในสหรัฐฯ ช่วงหลังตั้งแต่ตนออกอัลบั้มเดี่ยว “นอกรอบ” ก็มีกลุ่มแฟนเพลงกว้างขึ้น เดินทางไปคราวนี้มีเพลงใหม่ๆที่ไม่ได้อยู่ในอัลบั้มก่อนๆ เตรียมมามอบให้แฟนเพลงด้วย ที่เมืองไทยจะได้เจอกับแฟนเพลงบ่อย แต่กับแฟนเพลงที่สหรัฐฯ นานๆจะได้พบกันที ต้องเต็มที่แน่นอน การไปร่วมงาน Thai New Year’s Day 2005 ตนไม่คิดว่าเป็นธุรกิจ แต่อยากไปเจอแฟนเพลง อยากไปเจอคนไทยที่นั่นมากกว่า
     สำหรับ ดาวตลกชื่ดดัง หม่ำ จ๊กมก หรือ เพ็ชรทาย วงศ์คำเหลา เมื่อเดินทางมาถึงสนามบินยังคงสร้างความฮือฮาเหมือนเดิม มีแฟนๆเข้ามาขอลายเซ็นและถ่ายรูปเป็นระยะ หม่ำ กล่าวกับ ThaitownUSA News ว่า เตรียมความบันเทิงไปมอบให้พี่น้องชาวไทยเต็มที่ โดยเฉพาะชาวไทยอีสาน งานนี้รับรองว่าไม่มีมุขแป้กแน่นอน นอกจากจะมาร่วมสร้างความสนุกสนานและเสียงหัวเราะใน Thai New Year’s Day 2005 แล้ว ตนจะแวะไปโปรโมทหนังเรื่องล่าสุด “แหยม ยโสธร” ที่เพิ่งปิดกล้อง พร้อมกับเดินทางไปเยี่ยมลูกสาว “น้องเอ็มมี่” ที่กำลังศึกษาด้านภาพยนตร์อยู่ที่ โตรอนโต แคนาดา ด้วย หม่ำ ยังฝากถึงแฟนๆในสหรัฐฯเป็นภาษาอีสานว่า “ขอให้ทุกคนมีสุขภาพแข็งแรง สำหรับพี่น้องไกลบ้าน หากจะเดินทางช่วงสงกรานต์ขอให้กลับบ้านด้วยความปลอดภัย”
     ด้าน สามารถ พยัคฆ์อรุณ นักมวยชื่อดัง หนึ่งในศิลปินที่ร่วมเดินทางไปครั้งนี้ กล่าวว่า ตนเดินทางไปสหรัฐฯหลายครั้งแล้ว แต่ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 5 แม้จะห่างหายไปถึง 3 ปีแล้ว ยังไงคิดว่าแฟนๆชาวไทยที่นั่นคงไม่ลืม “สามารถ” อย่างแน่นอน การเดินทางครั้งนี้ยอมรับว่าตื่นเต้น แต่ยังอิดโรยอยู่ เพราะต้องรีบเดินทางมาให้ทันเที่ยวบิน การไปครั้งนี้ตนเตรียมลีลาหมัดมวยไปด้วย โดยเฉพาะแม่ไม้มวยไทย เพื่อสร้างความเซอร์ไพรซ์นอกเหนือไปจากเสียงเพลง
     เมื่อได้เวลา ศิลปินไทยทั้งสาม พร้อมคณะประสานงาน ก็ได้ร่วมกันถ่ายรูปเป็นที่ระลึก ก่อนจะเดินทางขึ้นเครื่องบินตรงสู่ นครลอสแอนเจลิส ทันที

นำเสนอข่าวโดย : ภาณุพล รักแต่งาม
ที่มา : ไทยทาวน์ ยูเอสเอนิวส์

นายนภดล วงศ์ชัยวัฒน์ ประธานคณะกรรมการจัดงาน“ไทยนิวเยียร์เดย์ 2005 :สงกรานต์เฟสติวัล ครั้งที่ 2” เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการจัดงานว่าปีนี้นับเป็นการจัดงานที่ยิ่งใหญ่และเป็นการรวมพลังของชาวไทยในรัฐแคลิฟอร์เนียและใกล้เคียงทุกหมู่เหล่าซึ่งร่วมใจกันจัดอย่างมโหฬารตระการตา วันที่ 3 เมษายน 2548 โดยมีการปิดถนนฮอลลีวูด ระหว่างถนนเวสเทิร์นถึงถนนโฮบาร์ด เพื่อเป็นการเผยแพร่วัฒนธรรมขนบธรรมเนียมประเพณีและส่งเสริมการท่องเที่ยวของประเทศไทยให้ชาวต่างชาติได้รู้จักและเข้าใจอีกทั้งเป็นการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างชาวไทยกับชาวต่างประเทศที่มาร่วมงานนอกจากนี้รายได้จากจัดงานส่วนหนึ่งจะนำไปจัดสร้างฐานประติมากรรมอัปสรสีห์(กินรี)สึ่มุมเมืองไทยทาวน์ด้วย
      สำหรับขบวนพาเหรดวัฒนธรรมไทยนั้นชาวไทยจากสมาคมและชมรมต่างๆ ก็เตรียมแต่งชุดมาร่วมขบวนพาเหร็ดและร่วมงานกันอย่างเต็มที่โดยคณะกรรมการฝ่ายประเทศไทยก็ได้ส่งชุ วัฒนธรรมไทย 4 ภาค ซึ่งได้รับการสนับสนุนจาก น.ส.กิ่งเพชร บุญยงค์ เจ้าของร้านกิ่งเพชร ศูนย์สินค้าโอทอป ประตูน้ำเซ็นเตอร์ กทม. มาให้ใส่ร่วมขบวนพาเหรดกัน พร้อมกันนี้ยังส่งเสลี่ยงที่ทำแบบน็อคดาวน์ส่งมาให้ 2 เสลี่ยง และคณะกรรมการฝ่ายประเทศไทยยังจุดชุดผีตาโขน จาก จ.เลย มาร่วมงานอีก 5 ชุด ส่วนศิลปินที่จะมาร่วมงานได้แก่ อี๊ด ฟลาย,ทอม ดันดี,สามารถ พยัคฆ์อรุณ, หม่ำ จ๊กมก พร้อมทีมงานด้านเทคนิคต่างๆ ทาง บมจ.การบินไทยให้การสนับสนุนบัตรโดยสารเครื่องบินฟรีในการเดินทางทั้งไปและกลับอีกทั้ง การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) ได้สนับสนุนงบประมาณในการจัดงานด้วยส่วนหนึ่งนอกเหนือจากการสนับสนุนจากองค์กรและภาคเอกชนอื่นๆ “ผมเชื่อว่างานปีนี้จะสำเร็จลุล่วงลงอย่างยิ่งใหญ่เพราะเป็นการรวมใจของชาวไทยทุกคน หน่วยงาน องค์กรบริษัทและร้านค้าต่างๆ” นายนภดล กล่าว
      นายประกิต พิริยะเกียรติผู้อำนวยการฝ่ายโฆษณาและและประชาสัมพันธ์ ททท. กล่าวว่า
     การจัดงาน“ไทยนิวเยียร์เดย์ฯ” ปีนี้ถือว่าเป็นงานใหญ่จะช่วยเผยแพร่ศิลปวัฒนธรรมไทยและการท่องเที่ยวของประเทศไทยให้ชาวต่างประเทศได้เข้าใจเป็นอย่างดี ภายหลังจาก 6 จังหวัดชายฝั่งอันดามันของไทย ประสบภัยจากคลื่นยักษ์สึนามิ นางจุฑามาศ ศิริวรรณผู้ว่าการ ททท.เห็นความสำคัญของงานนี้จึงได้อนุมัติงบประมาณส่วนหนึ่งสนับสนุนการจัดงานและให้สำนักงาน ททท.ประจำนครลอสแอนเจลิสให้การสนับสนุนการจัดงานอย่างเต็มที่
      ด้าน นางสุนัที อิศวพรชัย ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารวิสาหกิจและประชาสัมพันธ์ บริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ผู้บริหารบริษัทการบินไทยฯให้ความสำคัญกับกิจกรรมสำคัญๆของชาวไทยทั้งในและต่างประเทศอย่างต่อเนื่องมาตลอดการจัดงาน“ไทยนิวเยียร์เดย์ 2005ฯ” ก็เป็นอีกกิจกรรมหนึ่งที่ชาวไทยในรัฐแคลิฟอร์เนียและใกล้เคียงร่วมใจกันจัดและเป็นงานใหญ่ที่จะเผยแพร่ศิลปวัฒนธรรม ประเพณีและส่งเสริมการท่องเที่ยวของประเทศไทยรวมเป็นที่เชิดหน้าชูตาชาวไทยได้อย่างดียิ่ง ผู้บริหารบริษัท การบินไทยฯ จึงให้การสนับสนุนการเดินทางของคณะศิลปินและทีมงานที่เดินทางไปจากเมืองไทยตลอดจนการออกบูธในงานด้วย.

นำเสนอข่าวโดย : ภาณุพล รักแต่งาม
ที่มา : ไทยทาวน์ ยูเอสเอนิวส์

ในการประชุมเตรียมงาน “ไทยนิวเยียร์เดย์ 2005: สงกรานต์เฟสติวัล” ครั้งที่ห้า เมื่อเย็นวันที่ 22 มีนาคมที่ผ่านมานั้น คณะกรรมการทุกฝ่ายได้สรุปความพร้อมของตนให้ที่ประชุมฟัง รวมทั้งมีการติดตามความคืบหน้าในประเด็นการปิดถนนจากคุณชัญชนิฐ มาร์เทอเรล แห่งศูนย์ส่งเสริมชาวไทย ซึ่งได้แจ้งข่าวดีแก่ที่ประชุมว่า ได้รับอนุมัติให้ปิดถนนฮอลลีวูด ช่วงระหว่างถนนเวสเทิร์นและคิงส์เล่ย์ เพื่อจัดงานไทยนิวเยียร์เดย์ 2005: สงกรานต์เฟสติวัลแล้ว โดยจะมีการปิดถนนตั้งแต่เวลา 6.00 น. เรื่อยไปจนถึงเวลา 21.00 น. เช่นเดียวกับการปิดถนนฮอลลีวูด อีกช่วงหนึ่ง คือตั้งแต่ถนนเวอร์มอนท์มาจนถึงถนนคิงส์เล่ย์ สำหรับใช้เดินพาเหรดวัฒนธรรมก็ผ่านพ้นไปด้วยดีเช่นกัน
     นอกจากนี้ คุณชัญชนิฐ มาร์เทอเรล ยังแจ้งที่ประชุมด้วยว่า เทศบาลนครลอส แอนเจลิส ยังได้ยกเลิกค่าธรรมเนียมในการขอปิดถนนในครั้งนี้ด้วย ทำให้คณะกรรมการจัดงานฯ สามารถประหยัดเงินได้ถึง 9,766 ดอลลาร์ นอกเหนือจากการให้ทุนสร้างฐานประติมากรรมอัปสรสีห์ จำนวน 10,000 ดอลลาร์มาก่อนหน้านี้แล้ว เพราะเห็นว่าโครงการติดตั้งประติมากรรมอัปสรสีห์ เป็นโครงการที่ได้รับการสนับสนุนโดยชุมชนไทยในลอส แอนเจลิส
      “การขออนุญาตสร้างฐานของอัปสรสีห์ที่เราวิ่งเต้นมาระยะหนึ่งแล้วนั้น ทางซิตี้กำลังช่วยเร่งเรื่องให้อยู่ เท่าที่ทราบตอนนี้มีสิทธิ์ลงมือสร้างได้ทันวันที่ 3 เมษายน ซึ่งถ้าเป็นอย่างนั้นจริงๆ ก็อาจมีการทำพิธีเปิดอัปสรสีห์ในวันงานเลยค่ะ” นางชัญชนิฐกล่าว
     นอกจากนั้น ในส่วนของนักธุรกิจในชุมชนไทยก็ให้การสนับสนุนการจัดกิจกรรมครั้งนี้ด้วยดีเช่นกัน โดยนางวนิตา ศรีวรมย์ ประธานฝ่ายจัดหาทุนแจ้งว่า ผู้ร่วมสนับสนุนมีมากมายเช่น สมาคมไทยแห่งแคลิฟอร์เนียภาคใต้ 8,000 ดอลลาร์, อีโคโน่ทราเวิล 5,000 ดอลลาร์, ธนาคารกสิกรไทย 3,500 ดอลลาร์, ศูนย์จำหน่ายรถยนต์กาวดี้ฮอนด้า 3,500 ดอลลาร์, เครื่องดื่มชาร์ค 2,500 ดอลลาร์, การบินไทยจำกัด (มหาชน) 2,500 ดอลลาร์ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย 2,000 ดอลลาร์, สำนักงานทนายความอินโต จำพันธ์ 1,000 ดอลลาร์, สภาสตรีไทย 1,000 ดอลลาร์, บ้านนวดโพธิ์สยาม 500 ดอลลาร์, ร้านนุชนวดไทย 500 ดอลลาร์ เป็นต้น
      นายพลเทพ อินทุรัตน์ ประธานคณะกรรมการฝ่ายสถานที่ กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า กิจกรรมที่จะเกิดขึ้นในงานไทยนิวเยียร์เดย์ 2005: สงกรานต์เฟสติวัล นั้น จะเริ่มต้นขึ้นตั้งแต่หกโมงเช้าด้วยการตัดบาตรพระสงฆ์ 109 รูป หลังจากนั้นจะมีกิจกรรมที่น่าสนใจต่างๆ เกิดขึ้นตลอดทั้งวัน จึงขอเชิญชวนพุทธศาสนิกชนให้มาร่วมงานกันอย่างพร้อมเพรียงด้วย “แต่อย่าลืมนะครับว่า วันนั้นมีการเปลี่ยนเวลาให้เร็วขึ้นหนึ่งชั่วโมง ต้องเตรียมตัวให้ดีเพราะเดี๋ยวจะไม่ทันตักบาตรพระสงฆ์” นายพลเทพ กล่าว
     ในส่วนของกิจกรรมการตรวจสุขภาพโดยไม่คิดมูลค่านั้น คุณสุนีย์ อากาศวิภาค นายกสมาคมพยาบาลไทยแห่งแคลิฟอร์เนียฯ ซึ่งรับผิดชอบในส่วนนี้กล่าวว่า ปีนี้มีกิจกรรมตรวจสุขภาพแบบครบวงจร เริ่มตั้งแต่มีแพทย์และพยาบาลมาให้คำแนะนำ ปรึกษาเรื่องสุขภาพทั่วๆ ไป ไปจนถึงการตรวจโรคหัวใจ, โรคเบาเหวาน, ความดันโลหิต, ไขมันในเส้นเลือด ตลอดจนมีการตรวจกระดูกโดยเครื่องมืออันทันสมัย โดยเป็นกิจกรรมที่เกิดขึ้นจากความร่วมมือขององค์กรที่ให้บริการด้านสุขภาพเกือบสิบแห่ง
     “ขอเชิญนะคะ เรามาเปิดบริการให้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายอะไรเลย มาเที่ยวงาน มาตักบาตร มาดูนักร้องแล้วก็แวะมาตรวจสุขภาพด้วยนะคะ” คุณสุนีย์กล่าว
     นายนภดล วงศ์ชัยวัฒน์ ประธานคณะกรรมการจัดงานในปีนี้กล่าวว่า ศิลปินคนล่าสุดที่ตกลงจะเดินทางมาร่วมให้ความบันเทิงในงาน “ไทยนิวเยียร์เดย์ 2005: สงกรานต์เฟสติวัล” คือหม่ำ จ๊กม๊ก นักแสดงตลกที่มีชื่อเสียงโด่งดัง จากเรื่ององค์บาก ร่วมกับนักร้องนักแสดงที่มีชื่อเสียงคนอื่นๆ เช่นสามารถ พยัคฆ์อรุณ, ทอม ดันดี, อี๊ด วงฟลาย เป็นต้น โดยเป็นที่น่าเสียดายว่า อดีตพระเอกยอดนิยม สรพงษ์ ชาตรี นั้นมีปัญหาเรื่องวีซ่าในนาทีสุดท้าย ทำให้ไม่สามารถเดินทางมาร่วมงานประวัติศาสตร์ของชุมชนไทยในแคลิฟอร์เนียภาคใต้ครั้งนี้ได้ ซึ่งประธานจ้ดงานได้กล่าวว่า ทาง สรพงษ์ ชาตรี ได้ฝากขอโทษมายังประชาชนไทยที่นี่ด้วย
     ขณะที่นายเรวัติ หลายเจริญทรัพย์ เหรัญญิกของคณะกรรมการจัดงาน ซึ่งทำงานเป็นหัวหน้าฝ่ายควบคุมเส้นทางเดินรถของบริษัทขนส่งมวลชนเอ็มทีเอ กล่าวว่า เมื่อวันพุธที่ 23 มีนาคมที่ผ่านมา เป็นวันแรกที่ทางเอ็มทีเอ ซึ่งควบคุมระบบเดินรถเมล์และรถไฟ ทั้งบนดินและใต้ดินของลอส แอนเจลิส ได้ขึ้นป้ายข้อความว่า Go Metro to The Thai new year celebration at Hollywood /Western on April 3
     “ผมไปบอกเมเนเจอร์ว่า เราจะมีงานใหญ่ของเราบนถนนฮอลลีวูด อยากให้ช่วยโปรโมทหน่อย เขาก็จัดการให้โดยที่เราไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเลย” นายเรวัติกล่าว และว่าอยากให้ประชาชนใช้บริการรถเมล์หรือรถไฟของเอ็มทีเอ เพื่อมาร่วมงานไทยนิวเยียร์เดย์ 2005: สงกรานต์เฟสติวัล
     “ที่จอดรถที่พวกเราเตรียมเอาไว้ที่โรงพยาบาลไกเซอร์ ถนนซันเซ็ทนั้น มีประมาณ 300 คัน บางที่อาจจะไม่พอ เพราะเชื่อว่าปีนี้คงจะมีคนมาเที่ยวมาก อยากให้ไปจอดรถไว้ตามสถานีรถไฟต่างๆ ทั้งสถานียูเนี่ยนสเตชั่นในดาวน์ทาวน์, สถานีนอร์ธฮอลลีวูด หรือสถานียูนิเวอร์แซล เพราะที่จอดรถเป็นจำนวนมาก สะดวก แล้วขึ้นรถไฟมาลงที่สถานีเวสเทิร์นกับฮอลลีวูด ซึ่งเป็นบริเวณจัดงานเลย” นายเรวัติกล่าว.

นำเสนอข่าวโดย : ภาณุพล รักแต่งาม
ที่มา : ไทยทาวน์ ยูเอสเอนิวส์

 จากการประชุมคณะกรรมการจัดงานไทยนิวเยียร์เดย์ 2005: สงกรานต์เฟสติวัล ครั้งล่าสุด เมื่อเย็นวันอังคารที่ 8 มีนาคมที่ผ่านมา ณ ห้องประชุมชั้นสี่ อาคารสถานกงสุลใหญ่ ณ นครลอส แอนเจลิส ซึ่งมีผู้เข้าร่วมประชุมประมาณ 50 คนนั้น คณะกรรมการฝ่ายต่างๆ ได้รายงานให้ที่ประชุมทราบถึงกิจกรรมในความรับผิดชอบของตน ทำให้ทราบว่าการเตรียมงานในปีนี้คืบหน้าไปด้วยดี
      นายนภดล วงศ์ชัยวัฒน์ ประธานคณะกรรมการจัดงาน ยืนยันว่า ในส่วนของการปิดถนนฮอลลีวูด ตั้งแต่ถนนเวสเทิร์นเรื่อยไปจนถึงถนนคิงส์เล่ย์นั้น เจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบในการยื่นเรื่องของปิดถนนยืนยันกับที่ประชุมว่า ทุกอย่างดำเนินไปด้วยดี เชื่อว่าไม่มีปัญหา “ลายชื่อผู้สนับสนุนให้ปิดถนนนั้น เราหามาได้ถึงสี่หน้า ทั้งคนไทยทั้งคนอาเมเนี่ยนในฮอลลีวูดต่างยินดีสนับสนุนงานของเรา ตอนนี้เรากำลังคุยกันถึงอินชัวรันซ์ที่เราต้องยื่นเข้าไปด้วย เพราะอยากจะหาบริษัทที่ให้ราคาเหมาะสมที่สุด คิดว่าอีกวันสองวันก็คงเสร็จครับ”
      คุณสมจิตต์ แซ่เลี๊ยบ หรือเจเจ แห่งร้านสยามสแควร์ ซึ่งรับผิดชอบการจองบูธในงานไทยนิวเยียร์เดย์ 2005: สงกรานต์เฟสติวัล กล่าวว่า บูธเพื่อจำหน่ายอาหารและสินค้าต่างๆ ประมาณ 200 บูธนั้น ขณะนี้ถูกเช่าไปเกือบหมดแล้ว
      “บางคนยังลังเลใจ โทรมาจองแต่ไม่กล้าวางเงิน กลัวว่าเราจะปิดถนนไม่ได้ ซึ่งถ้ามัวแต่ลังเลก็อดแน่ค่ะ เพราะเราขายบูธเร็วมากค่ะ” คุณสมจิตต์กล่าว และว่าสาเหตุที่งานในปีนี้ได้รับความสนใจมากเพราะความสำเร็จจากงานปีที่ผ่านมา ที่ทุกบูธมีคนเข้าคิวกันยาวเหยียด
      นายประกาศ เย็นบำรุง ซึ่งรับหน้าที่เป็นประชาสัมพันธ์ฝ่ายต่างประเทศ และโฆษกของงานไทยนิวเยียร์เดย์ 2005: สงกรานต์เฟสติวัล กล่าวในที่ประชุมว่าจะใช้พิธีรดน้ำดำหัว ซึ่งเป็นธรรมเนียมปฏิบัติอันสำคัญของคนไทยในวันสงกรานต์ เป็นสะพานเชื่อมระหว่างสังคมไทยกับสังคมอเมริกัน โดยจะเชิญนักการเมืองท้องถิ่นและระดับรัฐ รวมทั้งอาร์โนลด์ ชวาซีเน็กเกอร์ ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย และบุคคลผู้มีชื่อเสียงหลายคนให้มาร่วมในพิธีด้วย
      “ตรงนี้เราวางแผนเอาไว้ดีมากครับ อาจารย์กมล ทัศนาญชลี ศิลปินแห่งชาติ ท่านออกแบบเวทีสำหรับใช้เป็นพิธีเปิดและพิธีรดน้ำดำหัวให้เรา เปิดงานเสร็จแล้วก็เชิญแขกผู้ใหญ่เหล่านี้มาร่วมพิธีรดน้ำดำหัว มีการแสดงชุดสวยๆ มีการเตรียมเต้นท์ไว้ให้นักข่าวด้วย โดยเราเชิญนักข่าวอเมริกันมาหมดทุกช่อง คือเพียงแค่ชั่วโมงเดียวของพิธีเปิด ผมเชื่อว่าภาพอันงดงามของวัฒนธรรมไทยจะได้รับการเผยแพร่ไปอย่างกว้างขวางแน่นอนครับ” นายประกาศกล่าว
      ในส่วนของการขออนุญาตติดตั้งประติมากรรมอัปสรสีห์สี่มุมไทยทาวน์ ซึ่งคณะกรรมการจัดงานไทยนิวเยียร์เดย์ 2005: สงกรานต์เฟสติวัล ได้มีมติว่าจะนำรายได้จากการจัดงานครั้งนี้ มาเป็นทุนในการสร้างฐานของประติมากรรมดังกล่าว เพื่อความสวยงามและเป็นเอกลักษณ์ของไทยทาวน์นั้น คุณชัญชนิฐ มาร์เทอเรล ผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมชาวไทย ซึ่งเป็นเจ้าของโครงการติดตั้งอัปสรสีห์สี่มุมเมืองไทยทาวน์ แถลงต่อที่ประชุมว่าขณะนี้กำลังอยู่ในระหว่างยื่นเรื่องต่อหน่วยงานที่รับผิดชอบ ซึ่งมีมากมายหลายหน่วยงาน แต่เชื่อว่าทุกอย่างจะผ่านไปด้วยดี เชื่อว่าจะเริ่มลงมือก่อสร้างฐานอัปสรสีห์ตัวแรก บริเวณมุมถนนเวสเทิร์น ด้านสถานีรถไฟใต้ดิน ในวันที่ 6 พฤษภาคม ศกนี้
      ผอ.ศูนย์ส่งเสริมชาวไทยแจ้งด้วยว่า การรวมตัวของคนไทยเพื่อจัดงานไทยนิวเยียร์เดย์ 2005: สงกรานต์เฟสติวัล นั้น ส่งผลดีอย่างเด่นชัด “เพราะพอเขาได้ข่าวว่าชุมชนไทยร่วมกันจัดงานขึ้นมา และสนับสนุน ต้องการสร้างอัปสรสีห์ให้ทันวันเปิดงาน ซิตี้เขาก็เลยให้เราอีกหมื่นดอลลาร์ เพื่อมาช่วย เพราะเขารู้ว่าเรายังขาด”
      ในส่วนของกิจกรรมต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นในงานไทยนิวเยียร์เดย์ 2005: สงกรานต์เฟสติวัล นั้น ทุกฝ่ายยืนยันว่ากิจกรรมทุกอย่างดำเนินไปตามแผน โดยงานจะเริ่มตั้งแต่เวลา 7.00 น.ด้วยพิธีตักบาตรพระสงฆ์ 109 รูป ตามด้วยขบวนพาเหรดวัฒนธรรม และกิจกรรมต่างๆ จะเกิดขึ้นตลอดทั้งวัน เรื่อยไปจนถึงเวลา 18.00 น.จะเริ่มต้นฉายภาพยนตร์กลางแปลงย้อนยุคเรื่อง สุริโยไท ซึ่ง มจ.ชาตรีเฉลิม ยุคล หรือท่านมุ้ยได้ประทานฟิล์มมาให้แล้ว
      โดยกิจกรรมล่าสุดที่มีการเพิ่มเข้าไปในงานปีนี้คือ การจำหน่ายฉลากชิงโชครถยนต์ฮอนด้า ซีวิค ราคา 18,000 ดอลลาร์ โดยคุณศิริวรรณ นิมิตรศิลป์ จะเป็นผู้รับผิดชอบในส่วนนี้ อีกทั้งจะมี “เลคเกอร์เกิร์ล” เชียร์ลีดเดอร์ของทีมบาสเก็ตบอลลอส แอนเจลิส เลคเกอร์ จำนวนห้าคน จะมาแสดงตัวบนเวที และแจกรูปถ่ายพร้อมลายเซ็นให้กับผู้มาร่วมงานด้วย
      อนึ่ง ในส่วนของกิจกรรมหาทุนจัดงานนั้น คุณวนิตา ศรีวรมย์ แจ้งที่ประชุมว่า นอกเหนือจากการจำหน่ายฉลากชิงโชค การจำหน่ายน้ำดื่มในงาน และมีสปอนเซอร์รายใหญ่ๆ ทั้งของไทยและต่างชาติเสนอตัวเข้ามาช่วยเหลือแล้ว ยังจะเปิดรับบริจาคจากชุมชนไทย หรือองค์กรต่างชาติต่อไป โดยผู้บริจาครายละ 1,000 ดอลลาร์ขึ้นไป จะได้รับประกาศนียบัตรขอบคุณจากสถานกงสุลใหญ่ฯ ส่วนผู้บริจาค 5,000 ดอลลาร์ขึ้นไป จะได้รับการติดป้ายโฆษณาสองจุดในงาน ติดป้ายบนเวที รวมทั้งตีพิมพ์ในสูจิบัตรและแผ่นพับสำหรับแจกในงานด้วย
      ทั้งนี้ คณะกรรมการฯ มีมติพ้องกันว่า จะเปิดแถลงข่าวอย่างเป็นทางการในวันอาทิตย์ที่ 13 มีนาคม นี้ ที่ไทยแลนด์พลาซ่า เวลา 15.00 น.

นำเสนอข่าวโดย : ภาณุพล รักแต่งาม
ที่มา : ไทยทาวน์ ยูเอสเอนิวส์

ความคืบหน้าของการจัดงาน “ไทยนิวเยียร์เดย์ 2005: สงกรานต์เฟสติวัล” ที่จะมีขึ้นบนถนนฮอลลีวูด ระหว่างถนนเวสเทิร์นจนถึงโฮบาร์ด ในวันอาทิตย์ที่ 3 เมษายน ศกนี้ นั้น นายนภดล วงศ์ชัยวัฒน์ ในฐานะประธานคณะกรรมการจัดงาน ได้เปิดเผยหลังการประชุมคณะกรรมการเมื่อค่ำวันที่ 22 กุมภาพันธ์ ณ ห้องประชุมชั้นสี่ สถานกงสุลใหญ่ฯ ว่า ขณะนี้การเตรียมงานในทุกๆ ด้านได้คืบหน้าไปด้วยดี และเชื่อมั่นว่างานในปีนี้จะยิ่งใหญ่กว่าปีที่แล้ว เพราะคณะกรรมการทุกฝ่าย ได้นำเอาข้อบกพร่องที่เกิดขึ้นในการจัดงานครั้งแรก มาปรับปรุงแก้ไขให้ทุกๆ อย่างสมบูรณ์ขึ้น
     “เรามีคณะกรรมการฝ่ายต่างๆ เพิ่มขึ้นอีกหลายฝ่ายเพื่ออุดจุดบอดที่เคยเป็นปัญหาเมื่อปีที่ผ่านมา เช่นฝ่ายประสานงานกับซิตี้ ฝ่ายประสานงานผู้ประกอบการค้าในไทยทาวน์ มีการเตรียมสถานที่จอดรถสำหรับผู้มาร่วมงานเอาไว้ที่โรงพยาบาลไกเซอร์ บนถนนซันเซ็ท และมีรถบัสรับส่งระหว่างที่จอดรถกับบริเวณงาน มีศิลปินจากเมืองไทยมาร่วมงานหลายคน มีบูธจำหน่ายอาหารและสินค้ามากขึ้น เชื่อว่างานปีนี้คึกคักกว่าปีที่แล้วแน่นอนครับ” ประธานคณะกรรมการจัดงานฯ กล่าว
     โดยในปีนี้ ได้มีการกำหนดวัตถุประสงค์ของการจัดงานขึ้นมาอย่างชัดเจนสี่ประการ คือ
     1 เพื่อเผยแพร่ศิลปวัฒนธรรม และขนบธรรมเนียมอันดีงามของไทย
     2 เพื่อส่งเสริมภาพพจน์ที่ดี เผยแพร่ข้อมูลที่ถูกต้องเกี่ยวกับประเทศไทย เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวของไทย โดยเฉพาะในช่วงที่ภาคใต้ของไทยเพิ่งผ่านพ้นเหตุการณ์คลื่นยักษ์สึนามิ อันมีผลกระทบต่อการท่องเที่ยวอย่างร้ายแรงเช่นนี้
     3 เพื่อแสดงพลังของชุมชนไทยในแคลิฟอร์เนีย อันจะนำมาซึ่งอำนาจต่อรองกับภาครัฐบาลของแคลิฟอร์เนีย อันจะนำมาซึ่งสวัสดิการอันเหมาะสมที่ชุมชนไทยควรได้รับ
     และ 4. เพื่อเป็นการส่งเสริมให้ชาวต่างชาติได้รู้จัก “ไทยทาวน์” บนถนนฮอลลีวูด ซึ่งเป็นบริเวณที่มีธุรกิจของคนไทยเปิดให้บริการอยู่อย่างหนาแน่น อันจะส่งผลให้การปรับปรุง และพัฒนาพื้นที่บริเวณนี้ให้เป็นที่เชิดหน้าชูตาแก่ชุมชนไทยในอนาคตนั้น เป็นไปได้ง่ายขึ้น โดยจะนำรายได้ที่เหลือจากการจัดงาน “ไทยนิวเยียร์เดย์ 2005: สงกรานต์เฟสติวัล” มียอดเงินคงเหลือ มาสร้างฐานที่ตั้งของรูปประติมากรรมอัปสรสีห์ สี่มุมไทยทาวน์
     ในส่วนการการสร้างฐานรูปอัปสรสีห์ ซึ่งต้องใช้เงินทุนราว 24,000 ดอลลาร์นั้น คุณรัชนิศ ตรีคันธา เจ้าหน้าที่ของศูนย์ส่งเสริมชาวไทย ซึ่งดำเนินการเรื่องนี้มาตั้งแต่ต้น กล่าวว่า รู้สึกยินดีอย่างยิ่งที่โครงการนี้ได้รับการสนับสนุนจากคณะกรรมการจัดงานฯ ส่วนขั้นตอนการขอใบอนุญาตจากซิตี้และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนั้น ยังคงเหลืออีกเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
     ในส่วนของกิจกรรมต่างๆ ที่จะมีในงานไทยนิวเยียร์เดย์ 2005 นั้น จะเริ่มขึ้นตั้งแต่เวลา 07.00 น.ด้วยพิธีตักบาตรพระสงฆ์ 109 รูป จากนั้นจะมีขบวนพาเหรดวัฒนธรรมอันยิ่งใหญ่และงดงาม จากมุมถนนฮอลลีวูดและเวอร์มอนท์มายังบริเวณงาน มีบริการตรวจสุขภาพฟรี การแสดงทางด้านศิลปะ วัฒนธรรม และประเพณีไทยอย่างครบถ้วน เช่น การเล่นสงกรานต์ พิธีรดน้ำดำหัวผู้ใหญ่ สรงน้ำพระพุทธรูป การแข่งขันหมากรุกไทย การแข่งขันตระกร้อ สาธิตมวยไทย สาธิตผัดไทยกระทะยักษ์ ลิเก การประกวดแต่งกายชุดไทยสวยงาม ฯลฯ ส่วนการแสดงบนเวทีนั้น มีศิลปินที่มีชื่อเสียงตอบรับมาแล้วหลายราย เช่นสรพงษ์ ชาตรี, สามารถ พยัคฆ์อรุณ, ทอม ดันดี, อี๊ด วงฟลาย, เอกชัย ศรีวิชัย, สันติ ดวงสว่าง, แดน ดีทูบี, เจมส์ เรืองศักดิ์ เป็นต้น
     นอกจากนี้ ในการประชุมคณะกรรมการจัดงานครั้งล่าสุด ที่ประชุมยังได้กำหนดราคาค่าเช่าบูธในงานปีนี้ด้วย กล่าวคือบูธจำหน่ายอาหาร ราคาบูธละ 400 ดอลลาร์ บูธจำหน่ายสินค้า ราคาบูธละ 200 ดอลลาร์ ผู้สนใจติดต่อจองบูธได้ที่ร้านสยามสแควร์ ถนนฮอลลีวูด โทรศัพท์ 323-871-2165
     ทั้งนี้ คณะกรรมการจัดงานยังได้กำหนดหมายเลขโทรฟรี สำหรับผู้ที่ต้องการข้อมูล หรือติดต่อคณะกรรมการฝ่ายต่างๆ ด้วย คือ 1-800-921-2597.

นำเสนอข่าวโดย : ภาณุพล รักแต่งาม
ที่มา : ไทยทาวน์ ยูเอสเอนิวส์

การประชุมเพื่อเตรียมงานไทยนิวเยียร์เดย์ 2005: สงกรานต์เฟสติวัล ครั้งที่หนึ่ง ที่ห้องประชุมชั้นสี่ อาคารสถานกงสุลใหญ่ ณ นครลอส แอนเจลิส เมื่อเย็นวันพฤหัสฯ ที่ 27 มกราคมที่ผ่านมานั้น ที่ประชุม ซึ่งมีจำนวนกว่า 50 คน ได้มีการเสนอชื่อผู้สมควรดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมการจัดงานจำนวนสองท่าน คือนายนภดล วงศ์ชัยวัฒน์ ผู้บริหารกิจการในเครือบีเคทีกรุ๊ป ซึ่งเคยทำหน้าที่กรรมการฝ่ายประชาสัมพันธ์ของงานไทยนิวเยียร์เดย์ 2004 มาแล้ว และนายสมชาย ไทยทัน นายกสมาคมไทยแห่งแคลิฟอร์เนียภาคใต้
     นายอิสินธร สอนไว กงสุลใหญ่ ณ นครลอส แอนเจลิส ได้เสนอให้มีการลงคะแนนลับ ซึ่งผลการนับคะแนนปรากฏว่านายนภดล ได้รับคะแนนมากกว่านายสมชายสองคะแนน จึงรับหน้าที่ประธานคณะกรรมการจัดงานไทยนิวเยียร์เดย์ 2005: สงกรานต์เฟสติวัล
     นายนภดล วงศ์ชัยวัฒน์ กล่าวกับไทยทาวน์ยูเอสเอนิวส์ว่า รู้สึกเป็นเกียรติที่ได้รับความไว้วางใจให้ทำหน้าที่สำคัญนี้ โดยตนเชื่อว่า งานเผยแพร่วัฒนธรรม ประเพณี และส่งเสริมการท่องเที่ยวของไทยใจกลางฮอลลีวูดปีนี้ จะยิ่งใหญ่กว่าปีที่ผ่านมา เพราะคณะทำงานทุกคนได้มีประสบการณ์มาแล้ว สามารถนำเอาข้อบกพร่องต่างๆ มาพิจารณาเพื่อปรับปรุงแก้ไขได้
     โดยประธานคณะกรรมการจัดงานไทยนิวเยียร์เดย์ 2005: สงกรานต์เฟสติวัล กล่าวว่า สิ่งหนึ่งที่เป็นข้อบกพร่องของปีที่แล้วก็คือคณะกรรมการฝ่ายต่างๆ ยังมีไม่เพียงพอ ทำให้งานมีความขลุกขลักอยู่บ้างในบางจุด เช่นสถานที่จอดรถ การตกแต่งสถานที่ การทำความสะอาดสถานที่ การรักษาความปลอดภัย จึงได้มีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาดูแล อีกทั้งได้มีการจัดตั้งคณะกรรมการฝ่ายประสานงานกับผู้ประกอบการค้าในไทยทาวน์ ซึ่งมีธุรกิจอยู่ในพื้นที่จัดงาน เพื่อให้งานครั้งนี้ได้รับความร่วมมือจากทุกฝ่ายจริงๆ
     “ปีที่แล้ว บริษัทอเมริกันที่เราจ้างให้มาทำประชาสัมพันธ์งานของเราบอกว่า ตัวเลขคนมาเที่ยวงานนั้นสี่หมื่นคน นี่เรากำลังคุยกันว่ามีทางไหมที่จะขยายพื้นที่ออกไปอีก จากเดิมที่เราเคยปิดถนนจากเวสเทิร์นไปจนถึงโฮบาร์ด ก็ขยายไปให้เต็มพื้นที่ไทยทาวน์เลย คือปิดไปจนถึงนอร์มังดี หากทำได้ก็จะสามารถเพิ่มกิจกรรม และเปิดบูธต่างๆ ได้อีกเยอะ” ประธานกรรมการจัดงานไทยนิวเยียร์เดย์ 2005: สงกรานต์เฟสติวัล กล่าว และว่ากิจกรรมต่างๆ ที่อยากให้เพิ่มขึ้นนั้น เช่นการละเล่นสงกรานต์ ซึ่งปีที่แล้วถูกงดไปเพราะไม่มีเจ้าหน้าที่คอยดูแล การรำวง การแข่งขันหมากรุก กระบี่กระบอง และจัดบริเวณสนทนาธรรม โดยจะนิมนต์พระสงฆ์ หรือศาสนาอื่นๆ มานั่งสนทนากับผู้ที่สนใจด้วย อีกทั้งจะมีการแข่งขันตะกร้อระหว่างทีมไทยกับทีมลาว ซึ่งคณะกรรมการฝ่ายประสานงานชาติเอเชีย คือ นายแสง จิดดาลัย ผู้อำนวยการสถานีลาวทีวี ได้รับปากจะจัดหาทีมตะกร้อลาวมาแข่งกับทีมไทยแล้ว ส่วนกิจกรรมที่เคยมีเมื่อปีที่แล้ว ในปีนี้ก็จะมีครบครันเหมือนเดิม
     ขณะที่นายแสง จิดดาลัย กล่าวกับไอพีทีวีว่า ตนรู้สึกเป็นเกียรติมาก ที่ชาวไทยให้เกียรติและต้องการให้ตนทำหน้าที่ประสานงานกับชาวลาวและชาวเขมร หรือเอเชียชาติอื่นๆ ที่มีวัฒนธรรมประเพณีคล้ายๆ กันให้มาร่วมงาน ทั้งในขบวนพาเหรด และกิจกรรมอื่นๆ ซึ่งตนจะดึงคนลาว คนเขมร ให้มาร่วมงานให้มากที่สุด
     งาน “ไทยนิวเยียร์เดย์ 2005: สงกรานต์เฟสติวัล” เกิดขึ้นจากแนวคิดของนายอิสินธร สอนไว กงสุลใหญ่ ณ นครลอส แอนเจลิส ที่ต้องการรวบรวมกิจกรรมต่างๆ ที่องค์กรคนไทยจัดขึ้นอย่างกระจัดกระจายมาไว้ด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นงานวันวัฒนธรรมของศูนย์ศิลปะเพื่อชุมชนของอ.วิบูลย์ วันประสาท, งานวันสุขภาพอีสต์ฮอลลีวูดของศูนย์ส่งเสริมชาวไทย หรืองานวันมรดกไทยของศูนย์พัฒนาสุขภาพชุมชน ฯลฯ เพื่อจัดเป็นงานใหญ่ประจำปีของชุมชนไทยในลอส แอนเจลิส ซึ่งเป็นแนวคิดที่ได้รับการตอบรับอย่างดีจากผู้นำชุมชนทุกฝ่าย โดยกำหนดจัดทุกวันอาทิตย์แรกของเดือนเมษายน ซึ่งปีนี้ตรงกับวันที่ 3 เมษายน
      นายนภดล วงศ์ชัยวัฒน์ กล่าวด้วยว่า ตนกำลังออกหนังสือเรียนเชิญผู้นำองค์กรของคนไทยทุกแห่งในแคลิฟอร์เนีย ให้มาร่วมเป็นคณะกรรมการที่ปรึกษาฯ หรือมีส่วนร่วมในลักษณะต่างๆ ในงานไทยนิวเยียร์เดย์ 2005 เพื่อให้งานนี้เป็นงานที่เกิดขึ้นจากการรวมพลังของชุมชนไทยในแคลิฟอร์เนียอย่างแท้จริง และฝากเรียนเชิญทุกองค์กรเข้าร่วมประชุมจัดเตรียมงานครั้งที่สอง ในเวลา 19.00 น. ของวันอังคารที่ 8 กุมภาพันธ์ ณ ห้องประชุมชั้นสี่ สถานกงสุลใหญ่ ณ นครลอส แอนเจลิส โดยทั่วกัน.

นำเสนอข่าวโดย : ภาณุพล รักแต่งาม
ที่มา : ไทยทาวน์ ยูเอสเอนิวส์

นายอิสินธร สอนไว กงสุลใหญ่ ณ นครลอส แอนเจลิส ให้สัมภาษณ์ไทยทาวน์ยูเอสเอนิวส์ เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ถึงการผนึกกำลังชุมชนไทยในลอส แอนเจลิส และเมืองใกล้เคียงเพื่อจัดงาน “ไทยนิวเยียร์เดย์ 2005: สงกรานต์เฟสติวัล” ที่เคยจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่เป็นครั้งแรกเมื่อต้นเดือนเมษายน ศกที่ผ่านมา หลังจากมีคำถามว่าการจัดงานในปีนี้จะมีขึ้นหรือไม่ หลังจากที่เกิดโศกนาฎกรรมร้ายแรงขึ้นในประเทศไทย และหลายๆ ประเทศในเอเชียในช่วงปลายปีที่ผ่านมาเช่นนี้
      “มีครับ ทุกอย่างเป็นไปตามที่เราเคยแถลงกันเมื่อปีที่แล้วว่าเราต้องการให้ไทยนิวเยียร์เดย์ เป็นงานประจำทุกปี ในสัปดาห์แรกของเดือนเมษายน” กงสุลใหญ่ฯ ซึ่งรับหน้าที่เป็นประธานจัดงานไทยนิวเยียร์เดย์ เมื่อครั้งที่ผ่านมากล่าว และว่าได้ทำหนังสือเรียกคณะกรรมการจัดงานชุดที่แล้ว รวมทั้งผู้นำชุมชน รวมทั้งประชาชนทั่วไปที่สนใจ เข้าร่วมประชุมเพื่อเตรียมงานเป็นครั้งแรก ในเวลา 18.30 น. วันพฤหัสฯ ที่ 20 มกราคมนี้
      ส่วนประเด็นที่ว่า การเกิดโศกนาฎกรรมที่นำความโศกเศร้ามาให้ผู้คนทั่วโลก จะมีผลกระทบใดๆ หรือไม่กับการจัดงานปีนี้ นายอิสินธรกล่าวว่า เป็นเรื่องที่ต้องแยกออกจากกัน เพราะงานไทยนิวเยียร์เดย์ สงกรานต์เฟสติวัล เป็นกิจกรรมเผยแพร่วัฒนธรรมประเพณีและการท่องเที่ยวของไทย อีกทั้งส่งผลดีให้ชุมชนไทยในลอส แอนเจลิส เป็นที่รู้จักและนับถือของชาวอเมริกัน รวมถึงรัฐบาลท้องถิ่นด้วย
      เมื่อถามถึงการประเมินผลการจัดงานเมื่อปีที่แล้ว กงสุลใหญ่ฯ กล่าวว่างานปีที่แล้วนั้น ถือว่าประสบความสำเร็จในระดับที่น่าพอใจ มีคนมาร่วมงานจำนวนหลายหมื่นคน แต่เพราะเป็นการจัดงานปีแรก จึงยังมีข้อบกพร่องที่ต้องแก้ไขในปีนี้หลายประการ เช่นการประสานงานยังไม่ดีพอ, การตกแต่งสถานที่ให้มีบรรยากาศแบบไทยๆ ยังไม่มี, จำนวนร้านจำหน่ายอาหาร และห้องสุขาแบบเคลื่อนที่ ไม่เพียงพอกับจำนวนผู้มาร่วมงาน หรือการจัดเตรียมพื้นที่เปียก หรือ wet zone สำหรับเล่นสงกรานต์ ไม่สามารถทำได้ เป็นต้น
      กงสุลใหญ่ฯ กล่าวด้วยว่าขณะนี้ยังไม่สามารถพูดถึงรายละเอียดของงานไทยนิวเยียร์เดย์ : สงกรานต์เฟสติวัล 2005 ได้มากนัก เพราะต้องปรึกษากับคณะกรรมการก่อน “ปีที่แล้วผมรับเป็นประธานให้ แต่ปีนี้อยากจะให้เป็นงานที่ชุมชนไทยมีส่วนร่วมมากขึ้น คงต้องมีการเลือกประธานจัดงาน และประธานฝ่ายต่างๆ ขึ้นมาก่อนเลย” กงสุลใหญ่ฯ กล่าว และว่าในส่วนของงบประมาณสำหรับจัดงานนั้น ส่วนหนึ่งจะมาจากภาครัฐบาล และหน่วยราชการต่างๆ จากเมืองไทย ส่วนที่เหลือจะมาจากการบริจาคของภาคเอกชน
      อนึ่ง งานไทยนิวเยียร์เดย์ สงกรานต์เฟสติวัล นั้นเกิดจากแนวคิดของนายอิสินธร สอนไว ที่อยากจะรวบรวมกิจกรรมเผยแพร่วัฒนธรรมและกิจกรรมต่างๆ ขององค์กรคนไทยในลอส แอนเจลิส ที่เคยอยู่ในสภาพต่างคนต่างทำ ให้มาร่วมกันจัดเป็นงานใหญ่งานเดียว ซึ่งจะได้ผลดีกว่า และทางสถานกงสุลฯ จะได้นำงบประชาสัมพันธ์ประเทศมาช่วยในการจัดงานได้อย่างเต็มที่ด้วย ซึ่งเป็นแนวคิดที่ได้รับการตอบรับอย่างดีจากองค์กร สมาคม และผู้นำชุมชนทุกฝ่าย ทำให้งานไทยนิวเยียร์เดย์ สงกรานต์เฟสติวัลครั้งที่หนึ่ง เกิดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่เมื่อวันที่ 4 เมษายน 2004 บนถนนฮอลลีวูดช่วงที่เป็นไทยทาวน์ มีการปิดถนนฮอลลีวูดระหว่างช่วงถนนเวสเทิร์น จนถึงถนนโฮบาร์ด (หน้าพลาซ่าสวนตาล) มีขบวนพาเหรดวัฒนธรรมยิ่งใหญ่ มีเวทีการแสดงถึงสองเวที มีการสาธิตมวยไทย ลิเก แกะสลักน้ำแข็ง ประกวดแต่งกายชุดไทย การให้บริการตรวจสุขภาพ การแสดงของศิลปินอเมริกัน และโจนัส และคริสตี้ ซึ่งเป็นนักร้องที่มีชื่อเสียงจากประเทศไทย รวมทั้งมีการสาธิตผัดไทยกะทะยักษ์ โดยทอมมี แทง และเจ็ต ติลา ซึ่งเป็นเชฟที่มีชื่อเสียงด้วย
      ทั้งนี้ นางวาเลอรี อัลเลน แห่งวาเลอรี อัลเลน พับลิกรีเลชั่น ซึ่งดูแลทางด้านประชาสัมพันธ์ให้กับงานไทยนิวเยียร์เดย์ สงกรานต์เฟสติวัล กล่าวว่า มีผู้มาร่วมงาน ซึ่งจัดขึ้นตั้งแต่เช้าจนถึงเวลาประมาณ 17.00 น. ถึงสี่หมื่นคน.

นำเสนอข่าวโดย : ภาณุพล รักแต่งาม
ที่มา : ไทยทาวน์ ยูเอสเอนิวส์