ข่าวประชาสัมพันธ์ 2009 (6th)

เสร็จสมบูรณ์

ไมค์ ภิรมย์พร ศิลปินเพลงลูกทุ่งชื่อดังที่เดินทางมาแสดงคอนเสิร์ตในงาน กำลังให้สัมภาษณ์ พลอย อัมพรเพชร พิธีกรของไอพีทีวี
อ่านข่าวเพิ่มเติม

แอลเอ (ไทยทาวน์ยูเอสเอนิวส์) : งาน ไทยนิวเยียร์เดย์ สงกรานต์เฟสติวัล ประจำปี 2009 อันเป็นงานแสดงวัฒนธรรมไทยที่ใหญ่ที่สุดนอกประเทศ ซึ่งชุมชนไทยในแคลิฟอร์เนียใต้จัดขึ้น โดยการปิดถนนฮอลลีวูดประมาณห้าช่วงถนนที่เป็นไทยทาวน์ ได้สำเร็จเสร็จสิ้นลงอย่างสมบูรณ์แบบอีกปี เมื่อเวลา 18.00 น.ของวันอาทิตย์ที่ 5 เมษายน โดยเป็นงานที่ได้รับความร่วมมืออย่างดีทั้งรัฐบาลไทย และรัฐบาลของแคลิฟอร์เนีย เทศบาลนครลอส แอนเจลิส และหน่วยงานต่างๆ ในภาพคือ ไมค์ ภิรมย์พร ศิลปินเพลงลูกทุ่งชื่อดังที่เดินทางมาแสดงคอนเสิร์ตในงาน กำลังให้สัมภาษณ์ พลอย อัมพรเพชร พิธีกรของไอพีทีวี ระหว่างการถ่ายทอดสดไปทั่วประเทศสหรัฐอเมริกา (ไทยทาวน์)

 

นำเสนอข่าวโดย : ภาณุพล รักแต่งาม
ที่มา : ไทยทาวน์ ยูเอสเอนิวส์

รายงานหน้าหนึ่ง : อะไรอยู่ที่ไหนในงาน “ไทยนิวเยียร์เดย์ฯ 2009”

แอลเอ (ไทยทาวน์ยูเอสเอนิวส์) : งานไทยนิวเยีย ร์เดย์ สงกรานต์เฟสติวัล ประจำปี 2009 นี้ มีพื้นที่จัดงานบนถนนฮอลลีวูดถึงห้าช่วงถนน คือระหว่างถนน วิโนน่า (หน้าร้านเครื่องเทศ) เรื่อยไปจนถึงมุมถนนเวสเทิร์น มีกิจกรรมต่างๆ เกิดขึ้นมากมายเต็มพื้นที่ หากไม่ทราบข้อมูลว่ามีกิจกรรมอะไร ที่ไหนบ้าง ก็อาจทำให้ผู้มาร่วมงานบางคนพลาดชมกิจกรรมที่น่าสนใจไปได้
อ่านข่าวเพิ่มเติม

เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้มาร่วมงาน ไทยทาวน์ฯ ขอสรุป “อะไรอยู่ที่ไหนในงานไทยนิวเยียร์” มานำเสนอ ดังนี้

เวที 1 : เป็นเวทีบันเทิงสารพัดรูปแบบ อยู่บริเวณมุมถนนวิโนน่า (เยื้องๆ กับร้านเครื่องเทศและตลาดบางรัก) มีเก้าอี้สำหรับนั่งชม 120 ที่นั่ง
เปิด เวทีตั้งแต่เวลา 11.00 น. ด้วยการแสดงของศิลปินท้องถิ่น จากนั้นในเวลา 14.00 น. จะเป็นการแสดงนาฏศิลป์ของนักเรียนโรงเรียนพุทธศาสนาวัดไทยฯ สองชุด คือ รจนาเสี่ยงพวงมาลัย และพลายบัวเกี้ยวนางตานี ต่อด้วยการแสดงของสามศิลปินจากประเทศไทย คือ ไมค์ ภิรมย์พร, สุนทร สุจริตฉันท์ นักร้องนำของวงรอยัลสไปรซ์อันลือลั่นในอดีต และการแสดงของ “น้องเชียร์” ทิฆัมพร ฤทธิ์ธาอภินันท์ นักแสดงและพิธีกรชื่อดัง โดยทั้งสามจะสลับกันขึ้นเวทีตั้งแต่เวลาประมาณ 14.30 น. เป็นต้นไป
ใน เวลา 15.40 น. จะเป็นการแสดงยิ่งใหญ่ของคณะนักแสดงจากกระทรวงวัฒนธรรม ที่เดินสายเปิดแสดงมาแล้วทั่วโลก ประกอบด้วยการแสดงกลองยาว (เถิดเทิง) โดยกลองยาวคณะเอกทันต์, ระบำชนไก่ อันเป็นระบำพื้นบ้านของภาคใต้, ศิลปะการต่อสู้ด้วยพลอง-ไม้สั้น เป็นศิลปะป้องกันตัวของไทยที่น่าตื่นตา รวมถึงการแสดงมวยโบราณ, ฟ้อนดาบ ฯลฯ โดยทุกชุด เป็นศิลปะการแสดงของ “มืออาชีพ” จากประเทศไทยจริงๆ
เวลา ประมาณ 16.20 น. จะเป็นการแสดงของสมาคมอีสานแห่งแคลิฟอร์เนียภาคใต้ เป็นรำเซิ้งและการแสดงหมอลำสนุกๆ ก่อนจะมีการจับฉลากรัฟเฟิลชิงรางวัลรถยนต์ฮอนด้า ซีวิค กันเป็นการปิดท้ายในเวลาประมาณ 18.00 น.

เวที 2 หรือเวทีประกวดมิสไทยนิวเยียร์ ยูเอสเอ อยู่บริเวณกลางงาน คือบริเวณมุมถนนฮาวาร์ด (หน้าร้านไทยทาวน์เอาท์เล็ท)
เวที นี้ อยู่ภายใต้เต็นท์ขนาดใหญ่ มีหลังคาคลุมมิดชิด สำหรับกิจกรรมสำคัญสองอย่าง คือพิธีเปิดงาน และการประกวดมิสไทยนิวเยียร์ ยูเอสเอ 2009 จัดเตรียมที่นั่งสำหรับผู้ชมเอาไว้ 240 ที่นั่ง ที่นั่งละ 20 ดอลลาร์
จะ เปิดเวทีอย่างเป็นทางการในเวลา 13.30 น. ด้วยการแสดงของวงมันตรา วงดนตรีไทยผสมสากล ที่เคยชนะการประกวดวงดนตรีระดับโลกมาแล้ว จากนั้นจะมีพิธีเปิดงานในเวลา 14.00 น. โดยแขกระดับวีไอพี ทั้งของอเมริกันและไทย รวมถึงกงสุลใหญ่ของประเทศต่างๆ ที่รับเชิญมาร่วมงานทุกคน จะขึ้นไปทำพิธีเปิดงานกันบนเวทีนี้
เสร็จ สิ้นพิธีเปิดงานอย่างเป็นทางการแล้ว การประกวดมิสไทยนิวเยียร์ ยูเอสเอ รอบแรกก็จะเริ่มขึ้นในเวลาประมาณ 14.30 น. เป็นการประกวดในชุดกีฬา ชุดราตรียาว และชุดไทยประยุกต์ โดยการประกวดในแต่ละรอบ จะถูกสลับด้วยการแสดงของศิลปินชื่อดังจากประเทศไทยทั้งสามท่าน
การประกวดรอบห้าคนสุดท้ายจะมีขึ้นในเวลาประมาณ 17.30 น. ซึ่งในช่วงนี้ มิสไทยนิวเยียร์เดย์ 2008 คือ “น้องน้ำ” นัทธินันท์ จำปางาม จะเดินอำลาตำแหน่ง ด้วย โดยจะมีการประกาสผล มิสไทยนิวเยียร์เดย์ ยูเอสเอ ประจำปี 2009 รวมถึงตำแหน่งรองอันดับต่างๆ ได้ในเวลาประมาณ 18.00 น.

เวที 3 หรือเวทีวัฒนธรรม เป็นเวทีที่มีความสำคัญที่สุดในด้านการเผยแพร่วัฒนธรรมไทย เพราะเป็นสถานที่แสดงศิลปะอันเป็นเอกลักษณ์ของไทยโดยเฉพาะ ตั้งอยู่บริเวณมุมถนนเวสเทิร์น มีที่นั่งเตรียมเอาไว้ 120 ที่นั่ง
เปิด เวทีเวลา 09.00 น. ด้วยการบรรเลงดนตรีไทย และใช้เป็นเวทีสำหรับอำนวยการพิธีการทางศาสนาในช่วงเช้าด้วย คือพิธีทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ในวันปีใหม่ของไทย ที่ปีนี้ วัดพรหมคุณาราม อริโซน่า เป็นผู้รับผิดชอบ มีการนิมนต์พระสงฆ์มาร่วมรับบิณฑบาตร่วมร้อยรูป
จาก นั้นก็จะเป็นการแสดงศิลปวัฒนธรรมของหลายๆ องค์กร เช่น การแสดงของศิลปินล้านนา คุณแววดาว สิริสุข นาฏศิลป์ระดับมืออาชีพที่อยู่ระหว่างศึกษาปริญญาโทอยู่ที่ยูซีแอลเอ (11.30-12.15 น.) การแสดงของแผนกนาฏศิลป์ โรงเรียนพุทธศาสนาวัดไทย ลอส แอนเจลิส (12.15-12.45 น.) การแสดงของศูนย์การศึกษานอกโรงเรียน วัดป่าธรรมชาติ (12.45-03.15 น.) การแสดง Siam Living History นำเสนอประวัติศาสตร์ไทยโดยกลุ่ม “ฝรั่ง” ที่หลงรักในวัฒนธรรมไทย นำโดย บรู๊ซ วิลลิส (คนละคนกับพระเอก Die Hard) ในเวลาประมาณ 15.30 น. และปิดท้ายด้วยการแสดงสนุกๆ ของสมาคมอีสานแห่งแคลิฟอร์เนียภาคใต้
นอกจากกิจกรรมบนเวทีทั้งสามแห่งแล้ว ยังมีกิจกรรมที่น่าสนใจเกิดขึ้นในงานอีกมากมาย เช่น พาเหรดวัฒนธรรม ที่จะตั้งต้นขบวนกันที่มุมถนนฮอลลีวูดและเวอร์มอนท์ และเคลื่อนขบวนในเวลา 13.00 น. มายังบริเวณงาน พาเหรดวัฒนธรรมนี้ มีองค์กรต่างๆ ส่งริ้วขบวนสวยงามเข้าร่วมมากมาย มีรถบุปผชาติของการบินไทย รวมถึงจะมีรถเปิดประทุนสำหรับ “แขกวีไอพี” ทั้งที่เป็นผู้ใหญ่ของไทย และของอเมริกัน เช่น นายกเทศมนตรี แอนโตนิโอ วิลาไรโกซ่า, หัวหน้าเชอรีฟ ลี เบ๊กก้า, รองหัวหน้าตำรวจแอลเอ เทอรี่ ฮาร่า, ส.ส.เควิน เดอลีออน, กรรมาธิการภาษีเขตสามของรัฐแคลิฟอร์เนีย มิเชล สตีล ฯลฯ โดยมี จูดี ชู ประธานกรรมาธิการภาษีรัฐแคลิฟอร์เนีย เป็น “แกรนด์ มาเชลล์” โดยระหว่างมีพาเหรดวัฒนธรรม คือประมาณ 13.00-14.00 น. การแสดงทุกอย่างในงานจะยุติลงชั่วคราว เพื่อให้ประชาชนได้ชมพาเหรดอันงดงามกันอย่างทั่วถึง
ส่วนกิจกรรมในบริเวณงานนั้น มีอีกมากมาย ไล่มาจากบริเวณ “หัวงาน” คือมุมถนนวิโนน่า เรื่อยมาจนถึงท้ายงาน คือมุมถนนเวสเทิร์น ดังนี้
– นิทรรศการของกระทรวงวัฒนธรรม : นำศิลปะไทยอันวิจิตรตระการตา มาสาธิตให้ชมอีกครั้ง โดยเต็นท์ของกระทรวงวัฒนธรรม ตั้งอยู่บริเวณหน้าตลาดบางรัก
– นิทรรศการของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย : ตั้งอยู่ติดกับเต็นท์ของกระทรวงวัฒนธรรม
– เต็นท์ของทีมประเทศไทย : อันประกอบด้วยสถานกงสุลใหญ่, ททท., ศูนย์พาณิชยกรรม, สำนักงานส่งเสริมการลงทุน, การบินไทย และเต็นท์ของมูลนิธิชัยพัฒนา จะอยู่บริเวณมุมถนนฮาวาร์ด (หน้าร้านอีโคโน่ทราเวิล)
– เต็นท์นิทรรศการเทิดพระเกียรติ ของสถานกงสุลใหญ่ฯ : เป็น เต็นท์ขนาดใหญ่ ตั้งอยู่ในบริเวณหน้าอีโคโน่ทราเวิล ใช้เป็นสถานที่แสดงภาพฝีประหัตถ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่หาชมได้ยาก โดยจะจัดแสดงคู่กับนิทรรศการศิลปะของยุวศิลปินไทย ที่สะท้อนถึงความเคารพเทิดทูนพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เป็นผลงานที่ได้รับเลือกจากศิลปินแห่งชาติ คือ อ.กมล ทัศนาญชลี และอ.ถวัลย์ ดัชนี ฯลฯ
– เวทีมวยไทย : ตั้งอยู่กึ่งกลางงาน คือบริเวณหน้าพลาซ่าบ้านขนมไทย มีทั้งการสาธิตมวยไทย และการชกมวยไทยชิงเข็มขัด “ไทยนิวเยียร์” เป็นครั้งแรก เป็นการชกแบบเอาจริง ไม่ใช่แค่สาธิตเหมือนปีก่อนๆ
– สิงห์ เบียร์การ์เดนท์ : อยู่หน้าร้าน อาร์ซีเอ ในพลาซ่าบ้านขนมไทย มีเต็นท์ มีร่มให้หลบร้อน พร้อมจิบเบียร์เย็นๆ กันให้ชุ่มฉ่ำ
– เทศกาลเครื่องแกง หรือ เคอรี่เฟสติวัล : เป็นกิจกรรมสนุกๆ ที่เกิดขึ้นเป็นปีที่สอง ศูนย์ส่งเสริมชาวไทยเป็นแม่งาน โดยนำ “เครื่องแกง” นานาชาติ จากร้านอาหารต่างๆ ในลอส แอนเจลิส มาประกวดประชันหา “เคอร์รี่คิง” หรือ “ราชาเครื่องแกง” กัน ทั้งเครื่องแกงจากอินเดีย ไทย เคนย่า ฯลฯ เปิดเทศกาลกันตั้งแต่เวลา 10 โมงเช้า เรื่อยไปจนถึง 4 โมงเย็น โดยเต็นท์ของเทศกาลเครื่องแกงอยู่ค่อนไปทางถนนเวสเทิร์น คืออยู่บริเวณหน้าโรงแรมเดย์อินน์
– เต็นท์นิทรรศการมรดกไทย : รับผิดชอบดูแลโดย นงเยาว์ วรานนท์ แห่งศูนย์ส่งเสริมชาวไทย อยู่หน้าสถานีรถไฟใต้ดิน ค่อนมาข้างทางถนนเวสเทิร์น มีการแสดงแบบไทยๆ สารพัดชนิด ทั้งแกะสลักผักและผลไม้, การละเล่นแบบไทย, สาธิตพิธีแต่งงานแบบไทย รวมถึงพิธีรดน้ำดำหัว แบบภาคเหนือ ที่รับผิดชอบโดยสาวเหนือ นิตยา โชติรโส เปิดโอกาสให้ชาวไทยในอเมริกา ได้ “รดน้ำ” ขอพรจากพ่อแม่ หรือญาติผู้ใหญ่ตามพิธีทางเหนือที่ถูกต้องงดงาม หากพาพ่อแม่ ปู่ย่าตายายมาเที่ยวงาน อย่าลืมพาท่านมาร่วมพิธีที่เต็นท์มรดกไทยด้วย
– เต็นท์บริการตรวจสุขภาพ : มีบริการตรวจสุขภาพโดยไม่คิดค่าใช้จ่ายมากมายในงานไทยนิวเยียร์เดย์ สงกรานต์เฟสติวัล เช่น ตรวจสายตา ตรวจหาไขมันในเส้นเลือด ตรวจเบาหวาน ตรวจความดัน ฯลฯ โดยองค์กรสุขภาพต่างๆ มากมาย
นอก นี้ ในงานไทยนิวเยียร์เดย์ สงกรานต์เฟสติวัล ประจำปี 2009 นี้ ยังมีบูธจำหน่ายอาหารไทยสารพัดชนิดมากถึง 40 บูธ ทั้งอาหารคาว หวาน ปิ้งย่าง อาหารที่หารับประทานยากทั้งหลาย รวมถึงบูธจำหน่ายสินค้าสารพัดชนิดอีก 66 บูธ ให้เลือกจับจ่ายกันอย่างครบถ้วน โดยบูธอาหาร บูธสินค้า รวมถึงบูธน้ำดื่มนั้น กระจายอยู่ทั่วบริเวณงาน อีกทั้งได้มีการเตรียมโต๊ะเก้าอี้สำหรับนั่งรับประทานอาหารเอาไว้ด้วย โดยจัดเอาไว้ในพลาซ่าบ้านขนมไทย ใกล้สิงห์ เบียร์การ์เดนท์
ส่วนท่านที่ต้องการซื้อรัฟเฟิลชิงโชครถยนต์ฮอนด้า ซีวิค บัตรละ 10 ดอลลาร์นั้น หากหาเจ้าหน้าที่จำหน่ายรัฟเฟิลไม่พบ ให้ตรงไปที่ บูธจำหน่ายรัฟเฟิล ได้เลยที่มุมถนนฮาวาร์ด (ใกล้เวทีประกวดมิสไทยนิวเยียร์ ยูเอสเอ) และที่บริเวณมุมถนนเซอร์ริโน่ เยื้องๆ ร้านสยามสแควร์และก๋วยเตี๋ยวห้อยขา
ขณะที่ เต็นท์พยาบาล และรถพยาบาล ได้ถูกจัดเตรียมเอาไว้ในกรณีฉุกเฉิน โดยจะตั้งกองอยู่บนถนนโฮบาร์ท ตรงข้ามกับเวทีมวยนั่นเอง
“ห้องน้ำ” นั้น คณะกรรมการจัดงานฯ ได้จัดเตรียมห้องน้ำแบบเคลื่อนที่เอาไว้เป็นจำนวนมาก โดยจะกระจายกันอยู่บริเวณมุมถนนต่างๆ เช่น มุมถนนฮาวาร์ดทั้งสองด้าน และมุมถนนเซอร์ริโน่ เป็นต้น
และข้อมูลสุดท้ายที่จะเรียนให้ทราบก็คือ “สถานที่จอดรถ” ซึ่งในวันนั้นจะหาที่จอดรถริมถนนใกล้บริเวณงานได้ยากเย็นแสนเข็ญ เพราะงานไทยนิวเยียร์ฯ ทุกปี มีผู้มาร่วมงานมากมายมหาศาลร่วมแสนคน ดังนั้น คณะกรรมการจึงแนะนำให้ใช้บริการขนส่งมวลชน ทั้งรถเมล์หรือรถไฟใต้ดินของเอ็มทีเอ ซึ่งสะดวกมาก เพราะสถานีฮอลลีวูดและเวสเทิร์นนั้น อยู่ในบริเวณงานเลย
อย่างไรก็ดี คณะกรรมการจัดงานฯ ได้จัดเตรียมสถานที่จอดรถเอาให้ผู้มาร่วมงาน คือลานจอดรถริมถนนฮอลลีวูด ตัดกับถนนนอร์ธ บรอนสัน (5955 Hollywood Blvd.) ใกล้ฟรีเวย์ 101 โดยคิดค่าจอดรถคันละ 5 ดอลลาร์ และมีรถตู้รับส่งระหว่างที่จอดรถกับบริเวณงานฟรี ตลอดทั้งวัน…
อย่าลืม… วันอาทิตย์ที่ 5 เมษายนนี้ พาพ่อแม่ปู่ย่าตายาย ไปร่วมทำบุญตักบาตรรับปีใหม่ไทย พาท่านไปร่วมพิธีรดน้ำดำหัว เพื่อขอพรจากท่านเพื่อความเป็นสิริมงคลกับชีวิต พาลูกหลานไปรู้จักวัฒนธรรมอันงดงามของไทย พาเพื่อนต่างชาติไปพบกับภาพพจน์ด้านดีของประเทศเรา เป็นการ “ช่วยชาติ” ที่ไม่ต้องลงทุนอะไรมากนัก
ที่สำคัญคือ ไปร่วมภาคภูมิใจกับความสามัคคีของคนไทยในแคลิฟอร์เนียภาคใต้ ที่สามารถผนึกกำลังปิดถนนฮอลลีวูด อันเป็นถนนเศรษฐกิจสำคัญของแอลเอ เพื่อใช้เป็นสถานที่แสดงวัฒนธรรมไทย เพื่อผลประโยชน์ของชุมชนไทยและประเทศไทยได้อย่างน่าชื่นชม…

นำเสนอข่าวโดย : ภาณุพล รักแต่งาม
ที่มา : ไทยทาวน์ ยูเอสเอนิวส์

ไทยนิวเยียร์ สงกรานต์เฟสติวัล ในสายตา “จักร บุญ-หลง”

แอลเอ (ไทยทาวน์ยูเอสเอนิวส์) : ตลอดเวลาที่ ปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งกงสุลใหญ่ ณ นครลอส แอนเจลิส ตลอดช่วงเวลาเกือบๆ สี่ปีที่ผ่านมา จักร บุญ-หลง ได้สนับสนุนงาน “ไทยนิวเยียร์เดย์ สงกรานต์เฟสติวัล” อย่างเข้มแข็งตลอดมา ทั้งในเรื่องของงบประมาณที่ได้รับจากกระทรวงการต่างประเทศ สำหรับเผยแพร่กิจกรรมด้านวัฒนธรรมในสหรัฐฯ เรื่องของคำแนะนำในฐานะเป็นกรรมการที่ปรึกษา และการร่วมทำงานกับคณะกรรมการฯ อย่างไม่เห็นแก่เหน็ดเหนื่อยตลอดมา
อ่านข่าวเพิ่มเติม

ต่อไปนี้คือเหตุผลของเขา…
              “งาน นี้เป็นงานแสดงวัฒนธรรมไทยที่ใหญ่ที่สุดในอเมริกา และใหญ่ที่สุดนอกประเทศไทย ยอมรับว่ายิ่งใหญ่จริง เพราะเราเห็นมา อย่างน้อยสามปีที่อยู่มา เห็นว่ามันใหญ่ขึ้นทุกปี งานนี้มันสะท้อนให้เห็นได้สองอย่าง อย่างแรก ความสามัคคี ความเป็นปึกแผ่น ความช่วยเหลือซึ่งกันและกัน เพราะถ้าชุมชนที่ไม่สามารถร่วมมือร่วมใจกันได้ ก็จัดงานใหญ่แบบนี้ไม่ได้ ต่างชาติก็จะมองกลับมาเห็นว่า อ๋อ ชุมชนไทยที่นี่อยู่กันดี สามัคคี ถึงรวมตัวกันจัดใหญ่แบบนี้ได้ เพราะงานขนาดนี้ ปิดถนนแบบนี้ ไม่ใช่เรื่องง่าย…

              อย่าง ที่สองคือ เป็นการสะท้อนให้ต่างชาติเห็นว่าเรามีวัฒนธรรมที่เข้มแข็ง เชิดหน้าชูตา เขามาเห็นจากการจัดงานนี้ ปีที่ผ่านๆ มาก็มีวัฒนธรรมจากทุกภาค มวยไทย รำไทย อาหารไทย ฯลฯ สิ่งเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงประวัติศาสตร์อันยาวนานของเรา ถ้าเป็นประเทศเกิดใหม่ไม่มีวัฒนธรรมมากขนาดนี้หรอก” 

ผลประโยชน์ของไทยนิวเยียร์ฯ ที่จะเกิดกับประเทศไทยและชุมชนไทย

              “ประโยชน์ มหาศาลอย่างแรกกับชุมชนไทยในสหรัฐ แน่นอน คนที่เข้ามาเที่ยวงานก็จะรู้สึก ได้สัมผัสวัฒนธรรมที่เขาอาจจะไม่เคยสัมผัส ได้ชิมอาหาร ได้รู้จักอัธยาศัยคนไทย เมื่อได้สัมผัสสิ่งเหล่านี้ เขาจะมีความรู้สึกในทางบวกกลับไป อาหารอร่อย วัฒนธรรมที่หลากหลาย ถ้ามีโอกาสเขาก็อยากจะเห็นอีก ถ้าเรามีการแสดงในวาระอื่น เขาก็จะไปชม หรือไปชิมอาหารไทยในร้านอาหารไทย ร้านอาหารไทยก็ดี หรือโกรเซอร์รี่ไทยก็ดี ถ้าเขาอยากทำอาหารเองบ้าง นั่นคือที่ผมว่าชุมชนไทยที่นี่ได้ประโยชน์
              “ส่วน ผลประโยชน์ต่อประเทศชาตินั้น อย่างเขาเห็นจากที่นี่ ไม่หนำใจ อยากไปเห็นให้มากขึ้น อยากไปเที่ยว เพราะ ททท. ก็เปิดบูธแนะนำการท่องเที่ยวอยู่ เขาได้ยิน ได้เห็น ได้ฟังเกี่ยวกับความน่าสนใจของเมืองไทย เมื่อพร้อมก็อยากไปสัมผัสด้วยตัวเอง ก็เป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวของไทยอีกทาง” 

เป็นโอกาสเผยแพร่พระเกียรติคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

              “เต็นท์ ของสถานกงสุลฯ ปีนี้เราก็จะเทิดทูนพระเกียรติคุณของพระองค์ท่านเป็นธีมหลักเหมือนปีที่ ผ่านๆ มา แต่คราวนี้จะออกเป็นแนวศิลปะ เราได้ความกรุณาอนุเคราะห์จากหออัครศิลปิน ที่เมืองไทย ให้นำรูปภาพมาแสดงสองแบบ แบบแรกเป็นภาพเขียนของยุวศิลปิน ซึ่งเป็นยุวศิลปินที่ได้รับการคัดเลือกจากศิลปินแห่งชาติ คืออาจารย์กมล ทัศนาญชลี และอาจารย์ถวัลย์ ดัชนี ท่านได้คัดเลือกผลงานเอาไว้และให้เรายืมมาแสดง ซึ่งภาพเขียนของยุวศิลปิน สะท้อนความรู้สึกที่เขามีต่อในหลวง ไม่ว่าจะเป็นด้านไหน พระราชกรณียกิจ พระอัจฉริยภาพ เรื่องโครงการในพระราชดำริ เป็นความรู้สึกดีๆ ที่ตัวเขาหรือญาติพี่น้องของเขา ได้เห็น ได้ประโยชน์จากพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่าน ก็ถ่ายทอดออกมา
              “อีก ส่วนหนึ่งเป็นภาพจำลองภาพฝีพระหัตถ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งหออัครศิลปินได้กรุณาทำ รีโปรดักชั่นให้เรามาจัดแสดง เราเคยทำมาแล้วเมื่อสองปีก่อน ได้รับความชื่นชมมาก ปีนี้จะเพิ่มภาพที่ยังไม่เคยนำมาแสดงให้มากขึ้น และก็จะมีทีวีจอใหญ่ เอาวิดีทัศน์เกี่ยวกับโครงการในพระราชดำริมาฉายให้ได้ชมกันด้วย” 

จะช่วยต่อไป แม้ปีหน้าจะไม่ได้อยู่ที่ลอส แอนเจลิส แล้วก็ตาม

              “แน่ นอนว่าจะช่วยต่อไป ถึงกลับไปไม่มีตำแหน่งอะไรเลยก็จะช่วย ไปบอกใครที่เกี่ยวข้องว่ายังไงก็ต้องช่วยงานนี้ ฝากบอกเพื่อนฝูง ฝากบอกกงสุลใหญ่ฯ คนใหม่ให้สนับสนุนกันต่อไป หรือถ้าได้รับตำแหน่งอธิบดีกรมการกงสุลอย่างที่เป็นข่าว งานในหน้าที่ก็คือดูแลคนไทยในต่างแดนอยู่แล้ว การสนับสนุนกิจกรรมของคนไทยในต่างแดนก็เป็นหน้าที่ส่วนหนึ่ง แต่กิจกรรมนี้เป็นงานทางด้านวัฒนธรรม ก็จะต้องประสานงานกับกรมสารนิเทศ แต่แน่นอนครับ จะสนับสนุนกันต่อไป เพราะเป็นผลประโยชน์ของคนไทย และประเทศชาติโดยรวม เพราะฉะนั้น ไม่ต้องห่วงครับ”

นำเสนอข่าวโดย : ภาณุพล รักแต่งาม
ที่มา : ไทยทาวน์ ยูเอสเอนิวส์

ชัญชนิฐ มาร์เทอเรล “งานไทยนิวเยียร์เดย์ คือส่วนหนึ่งของนครลอส แอนเจอลิส”

แอลเอ (ไทยทาวน์ยูเอสเอนิวส์) : ไทยนิวเยีย ร์เดย์ สงกรานต์เฟสติวัล ตลอดทุกครั้งที่ผ่านมา ชัญชนิฐ มาร์เทอเรล คือผู้ที่รับภาระในการขอใบอนุญาตปิดถนน และใบอนุญาตอื่นๆ จากเทศบาลนครลอส แอนเจลิส หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
อ่านข่าวเพิ่มเติม

มอง กันว่าการขอปิดถนนฮอลลีวูด ซึ่งเป็นถนนสายเศรษฐกิจสำคัญของลอส แอนเจลิส เป็นเรื่องที่ทำได้ไม่ง่ายนัก เพราะมีขั้นตอนต่างๆ ซับซ้อนยุ่งยากพอสมควร

แต่การจัดงานไทยนิวเยียร์เดย์ สงกรานต์เฟสติวัล ปีที่ห้า ที่จะมีขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 5 เมษายน 2009 นี้ ชัญชนิฐ มาร์เทอเรล กล่าวว่าการขอใบอนุญาตต่างๆ ทุกประเภท สะดวกและง่ายดายขึ้น ไม่ยุ่งยากเหมือนที่ผ่านๆ มา เพราะงานแสดงวัฒนธรรมของไทย ที่เกิดขึ้นในทุกวันอาทิตย์แรกของเดือนเมษายนนั้น ได้รับการยอมรับว่าเป็น “ส่วนหนึ่ง” ของเมืองแอลเอ ไปแล้ว
“เรา ได้รับการยอมรับกันมากเลยค่ะ ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เขาจะเตรียมตัวกัน เขาจะรู้แล้วว่าเวลามาถึงแล้ว เราก็ทำงานง่ายขึ้นทุกปี เพราะเป็นมาตรฐานให้ซิตี้แล้ว ไม่ว่าจะเป็นหน่วยงานขนส่ง สภาเมืองลอส แอนเจลิส, Parking Department, ดับเพลิง เขารู้กันหมดแล้วว่าเราจะมีงานกันในวันนี้”
ชัญ ชนิฐ มาร์เทอเรล บอกว่า การที่เทศบาลนครลอส แอนเจลิส อนุญาตให้นำ “ดวงตราเมือง” มาติดบนโปสเตอร์ หรือเอกสารอื่นใดของงานไทยนิวเยียร์ฯ แปลได้ว่างานอันยิ่งใหญ่ของชุมชนไทยในลอส แอนเจลิส นี้ คืองานที่เทศบาลร่วมสนับสนุน
“ไม่ ใช่แค่อำนวยความสะดวกต่างๆ แต่พูดได้เลยว่าเทศบาลร่วมจัดงานกับเราด้วย เพราะว่าทั้งมาร่วมในงาน เป็นแขกวีไอพีของเรา มาร่วมในขบวนพาเหรด มาร่วมในพิธีเปิด และตอนนี้ พอเขาก็อนุญาตให้มีการปิดถนนแล้ว พอสภาเขาผ่านให้แล้ว เขาก็ช่วยค่าใช้จ่ายให้เราอีก อย่างค่าแรงของเจ้าหน้าที่หน่วยงานขนส่ง ที่ต้องมาคุมตามสี่แยก มาปิดถนน มาคุมการจราจร ซึ่งจะต้องใช้เงิน 9,100 เหรียญ ซึ่งซิตี้ก็รับภาระไป ทั้งที่ตอนนี้เขามีปัญหาเรื่องงบประมาณอยู่ แต่เขาก็ยอมรับผิดชอบส่วนนี้เพื่อช่วยเหลือชุมชนไทยของเรา เป็นความหมายที่สำคัญมาก คือเรามีความหมายสำหรับเขา”
การที่ “ผู้ใหญ่” ของลอส แอนเจลิส ทั้งนายกเทศมนตรี แอนโตนิโอ วิลาไรโกซ่า, หัวหน้าเชอรีฟ ลี เบ๊กก้า, รองหัวหน้าตำรวจแอลเอ เทอรี่ ฮาร่า และนักการเมือง หรือเจ้าหน้าที่ผู้ใหญ่ของหน่วยงานต่างๆ มาร่วมในงานนี้กันมากเป็นพิเศษนั้น ชัญชนิฐ บอกว่ามีความหมายกับชุมชนไทยเรามาก
“ชุมชน ไทยเราที่นี่ มีประวัติสั้นกว่าชุมชนเอเชียชาติอื่นๆ ในแอลเอ เพราะเรามาที่นี่ประมาณ 45 ปี เราก็กำลังโตขึ้น แต่ก็ยังเล็กกว่าเอเชียชาติอื่นๆ ถ้าเทียบกันแล้ว แต่นักการเมืองเห็นว่าเรามีความหมาย จึงให้ความสำคัญแบบนี้ แสดงว่าเรามีพลัง มีเสียง และที่เราทำนั้น ไม่ใช่แค่สร้างหรือปรับปรุงชุมชนเราอย่างเดียว แต่ช่วยเศรษฐกิจของเมืองนี้ด้วย เพราะพวกเราก็มีธุรกิจ เราเป็นแรงงาน แรงงานกับธุรกิจของเราก็ช่วยเศรษฐกิจของเมืองนี้ และเรามีวัฒนธรรม ซึ่งวัฒนธรรมของเราเป็นสิ่งที่คนอื่นไม่มี เป็นของพิเศษที่เขาก็ชื่นชม และอยากให้คนในเมืองของเขาได้ชมเหมือนกัน”
ดังนั้น การจัดงานไทยนิวเยียร์เดย์ สงกรานต์เฟสติวัล ซึ่งแต่ละปีมีผู้มาร่วมงานร่วมแสนคนนี้ จึงเป็นกิจกรรมที่มีผลประโยชน์ต่อชุมชนไทยอย่างมหาศาล ตามสายตาของนักพัฒนาชุมชนไทยคนนี้
“งาน ไทยนิวเยียร์ฯ เป็นวิธีหนึ่งที่จะให้เขายอมรับชุมชนเรา งานนี้ไม่ใช่แค่เป็นการแสดงวัฒนธรรมประเพณีของเรา แต่เป็นการแสดงให้เห็นถึงพลัง ความเข้มแข็งของชุมชนไทยในลอส แอนเจลิส ด้วย ว่าเราคือชุมชนไทยที่ใหญ่ที่สุดนอกประเทศไทย ในแคลิฟอร์เนียตอนใต้ มีคนไทยอยู่กว่า 50,000 คน โดยประมาณครึ่งหนึ่งอาศัยอยู่ในลอส แอนเจลิส เคาน์ตี ดังนั้น งานนี้จึงไม่ใช่การแสดงวัฒนธรรมและประเพณีของไทย หรือพยายามโปรโมทไทยทาวน์ว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม แต่เราต้องการบอกให้โลกรู้ว่า เรามีตัวตน เรามีผลประโยชน์กับสังคม เศรษฐกิจ และวัฒนธรรมของเมืองนี้ เราต้องการมีสิทธิมีเสียง ต้องการความยอมรับมากกว่านี้” ชัญชนิฐ มาร์เทอเรล กล่าวในที่สุด.

นำเสนอข่าวโดย : ภาณุพล รักแต่งาม
ที่มา : ไทยทาวน์ ยูเอสเอนิวส์

ตั้งเป้างานไทยนิวเยียร์ 2009 เน้นกู้ภาพพจน์ประเทศไทย

 แอลเอ (ไทยทาวน์ยูเอสเอนิวส์) : งานไทยนิวเยียร์เดย์ปี 2009 คืบหน้า กำหนด “ธีม” อะเมซิ่งไทยแลนด์ หวังส่งเสริมการท่องเที่ยวไทย สร้างภาพพจน์ใหม่ เปิดให้ผู้เช่าบูธของปี 2008 จองก่อนระหว่างธันวาคมถึงมกราคมผ่านเว็บไซต์ ไทยนิวเยียร์ดอทคอม ส่วนผู้สนใจทั่วไปเข้าจองได้ระหว่างกุมภาพันธ์ถึงมีนาคม
อ่านข่าวเพิ่มเติม

นายสุรศักดิ์ วงศ์ข้าหลวง ประธานคณะกรรมการจัดงานไทยนิวเยียร์เดย์ สงกรานต์เฟสติวัล ประจำปี 2009 กล่าวในรายการ “เก้าอี้รับแขก” ของสถานีไอพีทีวีว่า คณะกรรมการจัดงานได้เริ่มเตรียมงานกันไปพอสมควรแล้ว โดยล่าสุดเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้ร่วมประชุมกลุ่มย่อยเพื่อกำหนด “ธีม” หรือแก่นของงาน ซึ่งที่ประชุมมีมติเป็นเอกฉันท์ว่าให้ใช้ “อเมซิ่งไทยแลนด์” ตามแผนส่งเสริมการท่องเที่ยวปี 2009 ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย

“อย่าง ที่เราทราบกันว่าที่ผ่านมา เมืองไทยเราเจอปัญหาหนักทีเดียว ทั้งจากปัญหาเศรษฐกิจ และปัญหาความขัดแย้งต่างๆ ที่รุนแรงถึงขนาดปิดสนามบิน ซึ่งแน่นอนว่ากระทบต่อภาพพจน์ของไทยมาก” นายสุรศักดิ์กล่าว และว่างานไทยนิวเยียร์เดย์ สงกรานต์เฟสติวัล ซึ่งเป็นงานแสดงวัฒนธรรมไทยที่ใหญ่ที่สุดในอเมริกา น่าจะเป็นโอกาสดีที่จะสร้างภาพพจน์ที่ดีของประเทศไทยได้ เพราะปีที่ผ่านมา มีชาวอเมริกันนานาชาติ มาร่วมงานร่วมแสนคน
ประธาน คณะกรรมการจัดงานกล่าวอีกว่า งานไทยนิวเยียร์เดย์สงกรานต์เฟสติวัล ครั้งที่ 7 ซึ่งจะมีขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 5 เมษายน ปี 2009 นี้ น่าจะยิ่งใหญ่กว่าปีที่ผ่านมา เพราะมีการติดต่อขอความร่วมมือกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานใหญ่ที่กรุงเทพฯ แล้ว อีกทั้งกระทรวงวัฒนธรรม ซึ่งประทับใจกับการเข้าร่วมงานในปี 2008 มาก ได้ยืนยันว่าจะนำคณะมาร่วมงานอีกครั้ง พร้อมการแสดง และนิทรรศการต่างๆ ที่ยิ่งใหญ่กว่าเดิม
“อีก เรื่องหนึ่งที่จะต่างจากปีก่อนๆ ก็คือว่า เราพยายามจะทำให้งานไทยนิวเยียร์ฯ เป็นงานของคนไทยในอเมริกาทั้งหมด ไม่ใช่ของคนไทยในแอลเอ หรือในแคลิฟอร์เนีย โดยเราได้ส่งหนังสือเชิญไปยังผู้นำชุมชนในทุกๆ เมือง ทุกๆ รัฐ ให้มาเป็นกรรมการจัดงานด้วย” นายสุรศักดิ์กล่าว และว่าบทบาทของกรรมการจัดงานประจำเมืองหรือรัฐต่างๆ นั้น คือการรวบรวมชาวไทยหรือชาวต่างชาติในเมืองดังกล่าวมาร่วมงาน, ส่งกิจกรรมหรือการแสดงมาร่วมในงาน ฯลฯ โดยกรรมการจัดงานในลอส แอนเจลิส จะให้สิทธิพิเศษต่างๆ สำหรับคณะที่เดินทางมาจากต่างรัฐ เช่นอาหาร เครื่องดื่ม หรือมีที่นั่งที่จัดเอาไว้สำหรับชมการแสดงต่างๆ รวมถึงการประกวดมิสไทยนิวเยียร์ยูเอสเอ หรือสามารถพักในโรงแรมบนถนนฮอลลีวูด อันเป็นสถานที่จัดงานในราคาพิเศษ เป็นต้น
ด้าน คุณศรีวงศ์ อาญาสิทธิ์ ประธานบอร์ดไทยนิวเยียร์ สงกรานต์เฟสติวัล ซึ่งเป็นองค์กรไม่หวังผลกำไรที่จัดตั้งขึ้นเพื่อจัดงานไทยนิวเยียร์เดย์ สงกรานต์เฟสติวัล โดยเฉพาะ กล่าวในรายการ “เก้าอี้รับแขก” ถึงการประกวดมิสไทยนิวเยียร์ยูเอสเอ ว่า ขณะนี้มีการเปิดรับสมัครผู้เข้าประกวดแล้ว โดยสามารถสมัครได้ที่นสพ.ข่าวสดยูเอสเอ หมายเลขโทรศัพท์ 323-464-1425
“ปี ที่ผ่านมา การประกวดมิสไทยนิวเยียร์ฯ ถือว่าประสบความสำเร็จสูงมาก มีคนดูเยอะมากพอๆ กับดูมวย ปีนี้เราได้รับความร่วมมือจากธุรกิจใหญ่ๆ ที่เมืองไทยมากขึ้น มีรางวัลเยอะมาก จึงอยากเรียนเชิญไปยังผู้ที่อยู่ต่างรัฐด้วย ให้มาร่วมเผยแพร่ความสวยงามแบบไทยกัน เพราะเวทีนี้เน้นที่เอกลักษณ์ไทยๆ ประกวดชุดไทย มารยาทไทยค่ะ”
ประธาน บอร์ดไทยนิวเยียร์ฯ ย้ำด้วยว่า การจัดงานในปีที่เจ็ดนี้ มีการพัฒนาระบบการทำงานให้ง่าย และเป็นระบบมากขึ้น รวมถึงการจองบูธจำหน่ายอาหาร น้ำดื่มและสินค้าต่างๆ ของเหล่านักธุรกิจ ซึ่งที่ผ่านๆ มาต้องเดินทางมาจอง หรือจ่ายค่ามัดจำกับกรรมการผู้รับผิดชอบ แต่ปีนี้สามารถเข้าไปเลือกทำเลที่ตั้งบูธและจ่ายเงินได้ทางเว็บไซต์ของงาน ได้เลย
“เรา พัฒนาเว็บไซต์ thainewyear.com ของเราเสร็จสมบูรณ์แล้ว บนนั้นจะมีข้อมูลเกี่ยวกับงานไทยนิวเยียร์เดย์ ทั้งหมด รวมถึงการจองบูธด้วย” คุณศรีวงศ์กล่าว และว่าระบบการจองบูธนั้น จะใช้หลักที่เคยปฏิบัติกันมาตั้งแต่แรก คือให้สิทธิกับผู้เช่าบูธในปีที่ผ่านมาได้มีโอกาสเลือกทำเลก่อน ระหว่างเดือนธันวาคม 2008 และมกราคม 2009 จากนั้นจึงจะเปิดให้ผู้สนใจทั่วไปเข้ามาจับจอง
“ตอน นี้เราได้ส่งจดหมายไปถึงลูกค้าเก่าทุกคนแล้ว โดยทุกคนจะได้โค้ดสำหรับล็อคอินเข้าไปเลือกบูธได้เลย ในนั้นมีรายละเอียดเรื่องราคาพร้อมหมดทุกอย่าง และจ่ายเงินทางเครดิตคาร์ดได้เลย สะดวกมาก แต่ถ้าใครที่ไม่ได้จดหมาย หรือไม่สะดวกที่จะใช้อินเตอร์เน็ต ก็โทรมาสอบถามได้ ที่คุณจูน เบอร์โทร 323-259-2129 ค่ะ เรียนว่าขอให้รีบนะคะ เพราะตั้งแต่มีข่าวออกไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ตอนนี้มีคนเข้ามาจองหลายสิบรายแล้ว” คุณศรีวงศ์กล่าวในที่สุด.

 

นำเสนอข่าวโดย : ภาณุพล รักแต่งาม
ที่มา : ไทยทาวน์ ยูเอสเอนิวส์

“จักร” ขอร่วมจัดไทยนิวเยียร์ ก่อนกลับไปเป็นอธิบดีกงสุล

แอลเอ (ไทยทาวน์ยูเอสเอนิวส์) : “จักร บุญ-หลง” ชี้งานไทยนิวเยียร์เดย์ สงกรานต์เฟสติวัล 2009 จะเป็นโอกาสสำคัญในการเผยแพร่ชื่อเสียงและกู้ภาพลักษณ์ที่ดีของไทยให้คืน กลับมา ชี้ผนึกกำลัง “ทีมประเทศไทย” ร่วมมือจัดงานให้ยิ่งใหญ่กว่าที่ผ่านมา
อ่านข่าวเพิ่มเติม

ภายหลังเสร็จสิ้นการ รับเสด็จทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ที่เสด็จมาเยือนลอส แอนเจลิส เพื่อเป็นประธานในพิธีเปิดงาน “ไทยฟิล์มมิราเคิล เคาน์เจอร์มิราเคิล” ณ โรงภาพยนตร์อาร์คไลท์ บนถนนซันเซ็ต เมื่อค่ำวันที่ 25 มกราคมแล้ว นายจักร บุญ-หลง กงสุลใหญ่ ณ นครลอส แอนเจลิส ได้ให้สัมภาษณ์ไทยทาวน์ฯ ถึงข่าวการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการกระทรวงการต่างประเทศครั้งใหญ่ที่ปรากฏ ออกมาตั้งแต่กลางเดือนมกราคม โดยข่าวระบุว่ากงสุลใหญ่ ณ นครลอส แอนเจลิส จะได้รับการแต่งตั้งเป็นอธิบดีกรมการกงสุลนั้น

นายจักร บุญ-หลง กล่าวว่า ตนก็ทราบจากข่าวทางหน้าหนังสือพิมพ์เช่นกัน ขณะนี้ยังไม่มีคำสั่งมาถึง
“ตอน นี้ก็เป็นแค่ข่าวที่เรารับทราบมา จะเป็นทางการได้ก็ต่อเมื่อมีคำสั่งจากกระทรวงต่างประเทศให้ผมโยกย้าย ต้องมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ลงมา แต่ก่อนจะถึงวันนั้น ผมก็ยังเป็นกงสุลใหญ่ ณ นครลอส แอนเจลิส อยู่ ยังจะทำงานเต็มที่ต่อไป”
กงสุล ใหญ่ฯ กล่าวด้วยว่า ถ้าหากไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง การโยกย้ายจะมีขึ้นในเดือนเมษายน ซึ่งเป็นช่วงที่ชุมชนไทยในแคลิฟอร์เนียภาคใต้ กำลังจัดงาน ไทยนิวเยียร์เดย์ สงกรานต์เฟสติวัล ประจำปี 2009 พอดี ซึ่งตนจะทำเรื่องถึงกระทรวงการต่างประเทศ ขออยู่ช่วยจัดงานไทยนิวเยียร์ฯ ให้แล้วเสร็จเสียก่อน จึงจะเดินทางกลับ เพราะตนเห็นว่างานแสดงวัฒนธรรมที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐฯ ครั้งนี้ มีความสำคัญกับประเทศไทยมากในสถานการณ์ปัจจุบัน
“เบื้อง หลังที่ทางสถานกงสุลใหญ่และทีมไทยแลนด์ จะร่วมมือกันเป็นพิเศษเพื่อช่วยให้งานไทยนิวเยียร์ฯ มีความสมบูรณ์จริงๆ ก็เพราะว่า ปีนี้เราต้องช่วยกันทุกๆ คน เพื่อผลักดันให้ประเทศไทยเราได้มีการประชาสัมพันธ์ และให้คนเข้าไปเที่ยวกันมากๆ ปีนี้ ทีมไทยแลนด์ก็เลยคุยกันว่าจะทำเต้นท์รวมขนาดใหญ่ ที่หน่วยงานในทีมไทยแลนด์มาโปรโมทร่วมกัน และหารือกันในรายละเอียดว่าจะโปรโมทเต้นท์เราให้น่าสนใจ ให้ยิ่งใหญ่ ให้ต่างชาติเข้ามาแล้วได้ข้อมูลครบถ้วน ได้พีอาร์บ้านเราอย่างเต็มที่ และก็กำลังดูว่าจะสามารถสนับสนุนด้านการเงินได้มากกว่าปีที่ผ่านๆ มาหรือเปล่า เราจะพยายามเต็มที่เพราะเป็นปีที่สำคัญจริงๆ” กงสุลใหญ่ฯ กล่าว
นาย จักร บุญ-หลง เดินทางมารับตำแหน่งกงสุลใหญ่ ณ นครลอส แอนเจลิส เมื่อกลางเดือนเมษายน ปี 2006 โดยก่อนหน้านั้น ดำรงตำแหน่งเป็นรองอธิบดีกรมเศรษฐกิจระหว่างประเทศ, ตำแหน่งเอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมัน และตำแหน่งอัครราชทูตที่ปรึกษา ประจำสถานทูตไทย กรุงฮานอย เป็นลำดับ ซึ่งกงสุลใหญ่ จักร บุญ-หลง กล่าวว่าการโยกย้ายเช่นนี้เป็นเรื่องปกติของชีวิตนักการทูต
“แน่ นอนครับ ชีวิตนักการทูต เมื่อถึงเวลาก็จะต้องมีการโยกย้าย เราก็ทำงานของเราอย่างดีที่สุด นั่นคือสิ่งที่ผมได้พยายามทำอยู่ทุกวันนี้ และที่อยากจะฝากไว้เมื่อถึงเวลาที่จะต้องกล่าวฝากอะไรก็คือ ขอให้ชุมชนไทยเราช่วยเหลือกันเพื่ออนาคตของชุมชนไทยเราเองครับ” กงสุลใหญ่จักร บุญ-หลง กล่าวในที่สุด.

 

นำเสนอข่าวโดย : ภาณุพล รักแต่งาม
ที่มา : ไทยทาวน์ ยูเอสเอนิวส์

แถลงรับ-จ่าย ไทยนิวเยียร์ พร้อมเปิดตัวประธานใหม่

แอลเอ (ไทยทาวน์ยูเอสเอนิวส์) : เปิดตัว “สุรศักดิ์ วงศ์ข้าหลวง” ประธานจัดงานไทยนิวเยียร์เดย์ฯ ปี 2009 ระบุจะดึงความร่วมมือจากประเทศไทย ทั้งภาครัฐและเอกชนมากขึ้นเพื่อให้งานเผยแพร่วัฒนธรรมขนาดใหญ่ของคนไทยในแอล เอ สมบูรณ์พร้อมกว่าที่ผ่านมา พร้อมเปิดเผยบัญชีรับจ่ายของงานปี 2008 ที่คงเหลือประมาณ 5,000 ดอลลาร์
อ่านข่าวเพิ่มเติม

มื่อเที่ยงวัน อาทิตย์ที่ 24 สิงหาคม ณ ศูนย์อาหารไทยแลนด์พลาซ่า ได้มีงานเลี้ยงขอบคุณและมอบประกาศนียบัตรแก่คณะกรรมการจัดงานไทยนิวเยีย ร์เดย์ สงกรานต์เฟสติวัล ประจำปี 2008 ขึ้น โดยนายสาคร สิริรัฐ ประธานจัดงานปี 2008 กล่าวว่างานไทยนิวเยียร์เดย์ฯ ที่ผ่านพ้นไปเมื่อวันที่ 13 เมษายนนั้น ถือว่าประสบความสำเร็จอย่างที่ตั้งใจเอาไว้ทุกอย่าง รวมถึงเป็นปีที่มีคนมาร่วมงาน

มากกว่าปีก่อนๆ ด้วย ซึ่งตนขอขอบคุณคณะกรรมการจัดงานทุกฝ่าย รวมถึงผู้มีส่วนสนับสนุนทุกๆ คนไว้ด้วย
ทั้ง นี้ ประธานจัดงานไทยนิวเยียร์ฯ ปี 2008 กล่าวด้วยว่าแม้ว่างานจะผ่านพ้นไปด้วยดี แต่ตนเห็นว่ายังมีอีกหลายเรื่องที่ถือเป็นข้อบกพร่องและต้องปรับปรุงแก้ไข ซึ่งจะมีการพูดคุยกันในกลุ่มคณะกรรมการจัดงานของปีนี้ต่อไป
ใน ส่วนของการสรุปบัญชีของงานไทยนิวเยียร์เดย์ สงกรานต์เฟสติวัล ปี 2008 นั้น ดร.วัชระ เรียงจารุสมบูรณ์ หัวหน้าฝ่ายบัญชีของคณะกรรมการการจัดงานฯ แถลงว่างานไทยนิวเยียร์ฯ ปี 2008 มีรายรับทั้งสิ้น 177,964 ดอลลาร์ มากขึ้นจากปี 2007 ประมาณ 19,000 ดอลลาร์ ขณะเดียวกันก็มีรายจ่ายเพิ่มมากขึ้นเช่นเดียวกัน กล่าวคือมีรายจ่ายรวม 168,811 ดอลลาร์ เพิ่มขึ้นจากปี 2007 ประมาณ 26,000 ดอลลาร์
“สรุป ณ ตอนนี้ เรามีตัวเลขคงเหลือประมาณ 9,000 ดอลลาร์ แต่ตัวเลขนี้ยังไม่ไฟนัล เพราะยังมีรายจ่ายที่เพิ่งยื่นมาอีกประมาณ 5,000 ดอลลาร์ เพราะฉะนั้นเราจะมีเงินเหลือสำหรับใช้จัดงานปีหน้าประมาณ 5,000 ดอลลาร์”
หัว หน้าฝ่ายบัญชีกล่าวด้วยว่า รายได้หลักๆ ของงานไทยนิวเยียร์เดย์ สงกรานต์เฟสติวัล ปี 2008 แยกเป็นการจำหน่ายฉลากชิงโชค หรือรัฟเฟิล 21,960 ดอลลาร์ ค่าบูธ 34,100 ดอลลาร์ และที่มากที่สุดคือเงินสนับสนุนในลักษณะต่างๆ รวมถึงการบริจาคของหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน รวมถึงประชาชนทั่วไปจำนวน 111,100 ดอลลาร์
ใน ส่วนรายจ่ายด้านต่างๆ นั้น ดร.วัชระกล่าวว่าส่วนใหญ่ไม่แตกต่างจากปี 2007 บางส่วนลดลง เช่นค่าประกันภัยต่างๆ ที่ลดลงถึง 75 เปอร์เซ็นต์ แต่ส่วนที่เพิ่มขึ้นก็คือค่าใช้จ่ายของกิจกรรมทางวัฒนธรรมต่างๆ เพราะจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่กว่าปีก่อนหน้านั้น รวมถึงค่าใช้จ่ายด้านประชาสัมพันธ์ และค่าใช้จ่ายของศิลปินที่เดินทางมาจากประเทศไทย ซึ่งแม้จะได้รับความอนุเคราะห์ในเรื่องการเดินทางจากบริษัทการบินไทยก็ตาม แต่คณะกรรมการจัดงานฯ ต้องจ่ายภาษีตั๋วเครื่องบินเองทั้งหมด ประมาณเกือบสองแสนบาท อีกทั้งในช่วงดังกล่าว เป็นช่วงที่ค่าเงินบาทค่อนข้างแข็ง คือประมาณ 31 บาทต่อ 1 ดอลลาร์ด้วย
ทั้ง นี้ ดร.วัชระกล่าวด้วยว่า องค์กร ไทยนิวเยียร์ (สงกรานต์) คอร์เปอเรชั่น เป็นองค์กรไม่หวังผลกำไรที่จดทะเบียนถูกต้อง ดังนั้นบัญชีรับจ่ายของการจัดงานจึงเป็นข้อมูลสาธารณะ ผู้สนใจสามารถตรวจสอบได้ตลอดเวลา
จาก นั้นได้มีการเปิดตัวประธานจัดงานไทยนิวเยียร์ฯ คนใหม่ ที่จะมาสานต่องานวัฒนธรรมขนาดใหญ่บนถนนฮอลลีวูดในปีที่หก ซึ่งคุณศรีวงศ์ อาญาสิทธิ์ ประธานบอร์ดของไทยนิวเยียร์ (สงกรานต์) คอร์เปอเรชั่น กล่าวว่าบอร์ดได้มีมติเลือกนายสุรศักดิ์ วงศ์ข้าหลวง ซึ่งเป็นรองประธานจัดงานในปี 2008 และได้ร่วมช่วยเหลืองานไทยนิวเยียร์ฯ มาตั้งแต่ปีแรก
“ขอ เรียนว่า เราเลือกประธานจากรองประธานของปีนี้นะคะ เพราะอย่างที่ทราบกันว่างานนี้เป็นงานหนักจริงๆ รับผิดชอบสูงมาก ก็อยากได้คนที่เคยทำงานมาแล้ว เคยรู้มาแล้วว่าจะต้องเจอกับอะไรบ้าง เพราะต้องเสียสละทั้งเงิน ทั้งเวลา และทุ่มเทแรงกายล่วงหน้าเป็นปี ซึ่งบอร์ดมีมติว่าให้คุณสุรศักดิ์เข้ามาทำงานต่อ เพราะคุณสมบัติครบถ้วน และเคยทำงานสังคมมากเยอะมาก เป็นประธานโครงการเยาวชนไทยในสหรัฐฯ เยือนแผ่นดินแม่ด้วย” คุณศรีวงศ์ กล่าว
นาย สุรศักดิ์ วงศ์ข้าหลวง ประธานจัดงานไทยนิวเยียร์ฯ ครั้งที่หก กล่าวว่าตนขอขอบคุณทุกท่านที่ไว้ใจให้ตนเข้ามาทำงานเป็นประธาน และว่าตนได้เริ่มเตรียมงานไปบ้างแล้ว โดยเมื่อเดือนกรกฎาคมระหว่างที่นำเยาวชนในโครงการเยาวชนไทยในสหรัฐอเมริกา เยือนแผ่นดินแม่ไปเมืองไทย ก็ได้พบกับบุคคลฝ่ายต่างๆ ทั้งภาครัฐและภาคเอกชนที่คิดว่าน่าจะสนับสนุนการจัดงานไทยนิวเยียร์เดย์ฯ ได้
“ผู้ใหญ่ ที่ ททท. ถามว่างานนี้ ททท. ได้ช่วยอะไรบ้าง ผมก็บอกว่าสนับสนุนมาประมาณ 1,500 ดอลลาร์ ท่านก็ตกใจ แค่นั้นเองเหรอ ทีหลังให้ขอที่ส่วนกลางโดยตรง ผมก็ดำเนินการไปแล้ว ขณะเดียวกัน ได้เจอกับผู้บริหารของบริษัท เสริมสุข จำกัด (มหาชน) ก็รับปากว่าจะติดต่อกับเป็ปซี่ในอเมริกาให้ แล้วก็ได้คุยกับคัฟเวอร์มาร์ค ที่รับปากจะช่วยเรื่องการประกวดมิสสงกรานต์ กระทรวงวัฒนธรรมก็บอกว่าจะช่วยอีกเหมือนปีนี้ เชื่อว่างานปี 2009 เราน่าจะได้รับความร่วมมือสนับสนุนจากเมืองไทยเยอะมากขึ้น ผมก็เอาเทปงานของปีก่อนที่ทางไอพีทีวีทำไว้มอบให้กับกรรมการที่เมืองไทยเอา ไว้แจกจ่ายให้องค์กรต่างๆ ที่น่าจะสนับสนุนเราได้ ให้เขาเห็นว่าเราทำกันขนาดนี้นะ ฝ่ายเมืองไทยจะสนับสนุนเราได้บ้างไหม” นายสุรศักดิ์ วงศ์ข้าหลวง กล่าว
นาย นภดล วงศ์ชัยวัฒน์ เลขานุการบอร์ด และประธานฝ่ายวางแผนการจัดงาน กล่าวถึงงานไทยนิวเยียร์เดย์ฯ ในปี 2009 ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงในหลายๆ ประการ
“อย่าง การจองบูธอาหาร เราจะให้จองกันทางเว็บไซต์ไทยนิวเยียร์ดอทคอมเลย ใช้บัตรเครดิตจ่ายผ่าน pay-pal เลย ที่ผ่านมามีปัญหาเรื่องนี้พอสมควร เพราะรับบัตรก็ไม่ได้ ต้องส่งเช็คเข้ามา มันช้า ปีนี้เราตั้งใจว่าจะเปิดให้จองกันในเดือนตุลาคม โดยสองเดือนแรก จะให้คนที่เช่าบูธปีนี้ได้เลือกก่อน จากนั้นในเดือนธันวาคมก็จะเปิดให้คนทั่วไปเข้ามาจอง เชื่อว่าน่าจะขายบูธได้หมดก่อนสิ้นปี พอปีหน้าเราจะได้ทำงานอย่างอื่นกันอย่างตั้งใจ”
นอก จากนั้น นายนภดล วงศ์ชัยวัฒน์ ยังกล่าวด้วยว่า งานไทยนิวเยียร์เดย์ฯ ปี 2009 จะมีการถ่ายทอดสดไปยัง 172 ประเทศทั่วโลก เพราะประธานบอร์ด คือคุณศรีวงศ์ อาญาสิทธิ์ ได้ติดต่อกับสถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่องห้าเอาไว้แล้ว
“ครั้ง ที่แล้ว ไอพีทีวีก็ถ่ายทอดสดไปทั่วอเมริกา แต่ปีนี้คุยกันว่าเราจะลิงค์สัญญาณไปให้ทีจีเอ็น แล้วให้ทีจีเอ็นส่งไปทั่วโลกอีกครั้ง ตอนนี้กำลังคุยกันเรื่องเทคนิคอยู่ว่าจะเป็นไปลักษณะไหน จะเป็นการส่งผ่านระบบอินเตอร์เน็ต ซึ่งค่าใช้จ่ายจะถูกกว่า จะใช้ระบบผ่านดาวเทียมปกติ ซึ่งถ้าเราเตรียมกันตั้งแต่ตอนนี้ ผมเชื่อว่างานในเดือนเมษายน ปีหน้า กิจกรรมของเราอาจถ่ายทอดไปทั่วโลก คนจะรู้จักงานของเรามากขึ้น”
ประธาน ฝ่ายวางแผนฯ กล่าวอีกว่า อีกประเด็นหนึ่งที่บอร์ดมอบหมายให้ตนรับผิดชอบก็คือการทำให้งานไทยนิวเยีย ร์เดย์ สงกรานต์เฟสติวัล กลายเป็นกิจกรรมร่วมกันของคนไทยในอเมริกา ไม่ใช่ของคนไทยในลอส แอนเจลิส หรือแคลิฟอร์เนียภาคใต้เท่านั้น
“ผม ได้คุยกับผู้นำชุมชนไทยในเมืองต่างๆ อย่างที่นิวยอร์ค ชิคาโก บอสตัน ลาสเวกัส หลายคนอยากร่วมกับเรา คืออยากให้ชุมชนไทยคิดว่า ในวันอาทิตย์แรกของเดือนเมษา คือวันสงกรานต์ของเรา เป็นฮอลิเดย์ของเรา มาเที่ยวงานของเราบนถนนฮอลลีวูด ที่คุยกันไว้คือเราจะเหมาโรงแรมเดย์อินน์ ซึ่งอยู่ในบริเวณที่เราปิดถนนจัดงานพอดี ส่วนหนึ่งเอาไว้เป็นออฟฟิศของเรา อีกส่วนหนึ่งก็ให้คนที่มาจากต่างรัฐเขาช่วยรับไป คนละ 5-6 ห้อง ซึ่งถ้าทำได้ งานของเราก็จะใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ” นายนภดล กล่าวในที่สุด.

 

นำเสนอข่าวโดย : ภาณุพล รักแต่งาม
ที่มา : ไทยทาวน์ ยูเอสเอนิวส์

โครงการเยาวชนไทย เยือนแผ่นดินแม่ 3 ผนวกงานสงกรานต์ไทยนิวเยียร์

เสรีชัยนิวส์ : ปีนี้คณะเยาวชนไทยในสหรัฐอเมริกาเยือนแผ่นดินแม่ จำนวนลดลงเพื่อความสะดวกในการเดินทาง ทั้งกรรมการ ผู้ปกครองและเยาวชนประมาณเกือบ 200 คน ใช้รถบัส 4 คันกำลังเหมาะ ไม่ใช่มากมายจนไปไหนมาไหนลำบากเหมือนครั้งก่อนๆ
อ่านข่าวเพิ่มเติม

เราย้ายโรงแรมจากที่เคยพักเพราะปิดซ่อมไปอยู่ “เจ้าพระยาปาร์ค” บนถนนรัชดา บรรยากาศในโรงแรมใหม่ ต้องสร้างความคุ้นเคยพอสมควร เพราะเราต่างไม่เคยใช้บริการกันมาก่อน แต่ไม่นานก็คุ้นเคย ทั้งบริกรที่บริการ

และในบาร์ซึ่งมีเพลงอยู่ชั้นล่างในห้องล้อบบี้ เพราะพวกเราหลายคน ไม่เคยละเลยที่ “ทิป” ให้กับพนักงานที่ให้ความช่วยเหลือ
บาร์ ในโรงแรมเป็นแบบสุภาพ มีเครื่องดื่ม และเพลงเบาๆ หลังภารกิจแต่ละวัน พวดเด็กๆ พักผ่อน ผู้ใหญ่ รวมทั้งกรรมการ ที่ไม่อยากนอนหัวค่ำ ก็ไม่อยากไปไหนไกล เพราะวันรุ่งขึ้นต้องตื่นเช้าตามระหัส เช่น 5-6-7 หมายถึง ปลุกตี 5 อาหารเช้า 6 โมง 7 โมงล้อหมุน
กรรมการ ใช้พื้นที่ในบาร์ ทั้งรับรองแขกและเป็นที่หารือ จิบเครื่องดื่มไป ก็คุยกันไป ดึกเข้าบางคนขึ้นไปนอนโดนไม่รู้ด้วยซ้ำว่าขึ้นไปได้อย่างไร ที่คอแข็งที่สุดเห็นจะเป็น คุณสมเกียรติ ถึกเจริญ จากแซนดิเอโก ที่ดื่มเท่าไรก็ไม่เมา เพราะพี่สั่ง “โค๊ก ออนเดอะร็อก” โดยไม่มีแอลกอฮอลล์เจือปน จนเพื่อนคนหนึ่งล้อว่า “ขนาดเขาเอามาผสมเหล้ายังเมา นี่เล่นดื่มเพียวๆ”
ไม่ดื่มนะดีแล้วละครับ โดยเฉพาะคุณสมเกียรติ ซึ่งถือเป็นหลักคนหนึ่ง นอกจากนี้ยังรณรงค์ทำโครงการ “ขาเทียม” ซึ่งก็ได้ผลอย่างมากในปีที่ผ่านมา ทำให้คนพิการขาขาด สามารถเดินได้ เป็นมหากุศลเลยทีเดียว
พูด ถึงนักร้องของเจ้าพระยาพาร์ค ล้วนร้องเพลงเพราะเพราะถูกคัดสรรมาอย่างดี แต่พอเชิญพวกเราขึ้นไปร้อง ทำเอานักร้องอาชีพเกือบตกงาน อย่าง “รังสิต คงจันทร์” “ชัย มอร์แกน” ไม่ธรรมดา ยิ่งเจอ “เจ้าพ่อเพลงร็อก” ศิษย์เก่าซานเกรเบรียล วาว !!! นักร้องอาชีพก็อาชีพเถอะ อาจตกงานโดยไม่รู้ตัว
ผม ชอบ วันแถลงข่าว มีใครต่อใครมากันมากมาย โดยเฉพาะกรรมการระดับไฮโซ บางคนรวยสุดๆ มากันเพียบ จนเราต้องหลบไปชิดซ้าย (ตามกฎจราจร) มีเพียงแต่ “คุณผิง” ที่พอจะคุย เมกะโปรเจ็กต์ ร้อยล้าน กับเขาได้ คุยกันเสร็จ คุณผิงบอกเราว่า “ถ้าฉันถูกล็อตโต้ ก็รวยเท่าเขาเหมือนกัน”
นัก ข่าวก็มากันเกือบทุกสำนัก ทั้งทีวี วิทยุ หนังสือพิมพ์ ส่วนเราเป็นหนังสือพิมพ์เล็กๆ จากบ้านนอก เราดูพวกคนหนุ่มสาว ทำงานกันแคล่วคล่อง นักข่าวรุ่นลุง ก็ได้แต่มอง เหมือนดูคลื่นกระทบฝั่ง ที่คลื่นลูกใหม่ ซัดคลื่นลูกเก่า ซึ่งเป็นปรากฎการณ์ธรรมชาติที่เป็นสัจธรรม
กงสุล ใหญ่ จักร บุญ-หลง เป็นตัวแทนรัฐบาลไทย ฝ่ายสหรัฐฯ ให้ความสำคัญกับเด็กๆ จนสามารถรับรู้ด้วยความรู้สึก คอยสนับสนุนตลอดรายการ ทั้งยังนำพาไปดูโครงการอันเนื่องจากพระราชดำรัส ที่อ่าวคุ้งกระเบน เพื่อให้เยาวชนได้รู้ว่า ในหลวงของแผ่นดิน พระองค์ท่านทำอะไรเพื่อประชาชน ซึ่งผมจะค่อยๆ เล่า เมื่อถึงช่วงนั้น
งานแถลงข่าว ส่วนใหญ่ ก็เป็นสิ่งที่เรารู้กันอยู่ แต่เนื่องจาก ประธานโครงการ ซึ่งปีนี้รับเป็นประธาน สงกรานต์ ไทยนิวเยียร์เฟสติ วัล บนถนนฮอลลีวูดด้วย ซึ่งได้นำเรื่องดังกล่าวไปเล่าในวันแถลงข่าวว่าชุมชนไทย ปิดถนนฮอลลีวูด เพื่อฉลองสงกรานต์ไทย เพราะฮอลลีวูด เป็นถนนที่คนทั่วโลกรู้จักงานนี้จึงน่าจะสามารถประชาสัมพันธ์ประเทศไทย ต่อสายตาชาวฮอลลีวูดได้ดีที่สุด
โดย เฉพาะ ตัวแทน ททท. ซึ่งร่วมแถลงข่าวด้วย ท่านมองเห็นทะลุปรุโปร่งเลยว่า ถ้า ททท.ที่ประเทศไทยร่วมมือ ก็น่าจะไปกันได้สวยสดงดงาม เมื่อเริ่มต้นได้ดี การสานต่อก็น่าจะไปได้ดีด้วย คุณสุรศักดิ์ ถูกผู้ใหญ่ของ ททท. ตั้งคำถามว่างานนี้ ททท. ได้ช่วยอะไรบ้าง ก็บอกว่าสนับสนุนมาประมาณ 1,500 ดอลลาร์ ท่านก็ตกใจ แค่นั้นเองเหรอ ทีหลังให้ขอที่ส่วนกลางโดยตรง
โอกาสเดียวกันผู้บริหารของบริษัท เสริมสุข จำกัด (มหาชน) ก็ รับปากว่าจะติดต่อกับเป็ปซี่ในอเมริกาให้ แล้วก็ได้คุยกับคัฟเวอร์มาร์ค ที่รับปากจะช่วยเรื่องการประกวดมิสสงกรานต์ กระทรวงวัฒนธรรมก็บอกว่าจะช่วยอีก เท่านั้นยังไม่พอ คุณสุรศักดิ์ เอาเทปงานของปีก่อน ให้กับกรรมการที่เมืองไทยเอาไว้แจกจ่ายให้องค์กรต่างๆ ที่น่าจะสนับสนุน ให้เขาเห็นว่าเราทำกันขนาดนี้
ส่วนการจัดประสบการณ์ให้กับเยาวชน ปีนี้ นอกจากไปสถานที่สำคัญ และพบบุคคลสำคัญในกรุงเทพฯ แล้ว เด็กๆ ได้เยือนอีสาน เมืองแห่งวัฒนธรรมทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ ซึ่งการเดินทางแต่ละจุด ค่อนข้างไกล เราจึงจะต้องใช้เวลาในรถค่อนข้างนาน แต่ก็คุ้มค่า เพราะอีสานปลายฤดูฝน เขียวชอุ่ม ธรรมชาติสองข้างทาง ทำให้เราเพลินตา รถบัส 4 คัน ข้างๆ ติดป้ายโครงการฯ ภายใต้การนำของ ร้อยตรีพนม ตำรวจแห่งกองปราบปราม พาเยาวชนไปสัมผัสบรรยากาศของแผ่นดินแม่ จากเมือง มุ่งสู่ชนบท ผ่านหมู่บ้าน วัดวาอาราม ท้องไร่ท้องนา สัมผัสบรรยากาศของชีวิตอีกรูปแบบหนึ่ง
ปีนี้ “หมวดพนม” จะทำหน้าที่นำคณะของคณะโครงการฯ เป็นครั้งสุดท้ายแล้ว เพราะใกล้ 60 เต็มทีถึงเวลาที่พ้นจากราชการตามวาระ “หมวดพนม” เป็นคนโผงผาง พูดจาตรงไปตรงมา มีน้ำใจ ต้องได้สัมผัส คบค้าจึงได้รู้ใจ และชอบพอ ซึ่งหลายคนในคณะก็รู้สึกเช่นนั้น ขนาดงานบวช ลูกชาย 2 คนของคุณสมชาย คุณกานดา สักงาม ครอบครัวในคณะที่ร่วมโครงการ หมวดยังไปร่วมงาน แถมยังพาคณะไปร่วมงานศพขุนพลเพลงลูกทุ่ง ยอดรัก สลักใจ ถึงวัดไร่ขิง นครปฐม นี่คือส่วนหนึ่งในน้ำใจของผู้หมวด
หลายคนในรถ ยังคิดกันว่า น่าจะเชิญ “หมวดพนม” มาเที่ยวฮอลลัวูดสักครั้ง โดยเฉพาะช่วงงานสงกรานต์ไทยนิวเยียร์ เพื่อเป็นของขวัญในช่วงเกษียณ และเป็นรางวัลในการดูแลคณะเยาวชนตลอดมา ถ้าทำได้ก็ดีไม่น้อย ปรึกษากันดูนะครับ เพราะเรื่องค่าใช้จ่ายไม่ต้องห่วง เห็นว่าคนในโครงการที่ได้คุยกันมาก่อนจะช่วยกันลงขัน ส่วนการเชิญ คงต้องพึ่งคณะของไทยนิวเยียร์ ซึ่งประธานโครงการฯ ทั้งสองโครงการ เป็นคนๆ เดียวกัน ถ้าท่านเห็นด้วยกับความคิดที่เพื่อนๆ ฝากมานี้
ลองหารือกันแล้วเห็นเป็นอย่างไรก็ขอให้บอกมาด้วยครับ พวกเรา “คนเดินทาง” ขอร่วมด้วยช่วยกันอีกแรง.

 

ที่มา : เสรีชัยนิวส์

โครงการเยาวชนไทย เยือนแผ่นดินแม่ 3 ผนวกงานสงกรานต์ไทยนิวเยียร์

เสรีชัยนิวส์ : ปีนี้คณะเยาวชนไทยในสหรัฐอเมริกาเยือนแผ่นดินแม่ จำนวนลดลงเพื่อความสะดวกในการเดินทาง ทั้งกรรมการ ผู้ปกครองและเยาวชนประมาณเกือบ 200 คน ใช้รถบัส 4 คันกำลังเหมาะ ไม่ใช่มากมายจนไปไหนมาไหนลำบากเหมือนครั้งก่อนๆ
อ่านข่าวเพิ่มเติม

เราย้ายโรงแรมจากที่เคยพักเพราะปิดซ่อมไปอยู่ “เจ้าพระยาปาร์ค” บนถนนรัชดา บรรยากาศในโรงแรมใหม่ ต้องสร้างความคุ้นเคยพอสมควร เพราะเราต่างไม่เคยใช้บริการกันมาก่อน แต่ไม่นานก็คุ้นเคย ทั้งบริกรที่บริการ

และในบาร์ซึ่งมีเพลงอยู่ชั้นล่างในห้องล้อบบี้ เพราะพวกเราหลายคน ไม่เคยละเลยที่ “ทิป” ให้กับพนักงานที่ให้ความช่วยเหลือ
บาร์ ในโรงแรมเป็นแบบสุภาพ มีเครื่องดื่ม และเพลงเบาๆ หลังภารกิจแต่ละวัน พวดเด็กๆ พักผ่อน ผู้ใหญ่ รวมทั้งกรรมการ ที่ไม่อยากนอนหัวค่ำ ก็ไม่อยากไปไหนไกล เพราะวันรุ่งขึ้นต้องตื่นเช้าตามระหัส เช่น 5-6-7 หมายถึง ปลุกตี 5 อาหารเช้า 6 โมง 7 โมงล้อหมุน
กรรมการ ใช้พื้นที่ในบาร์ ทั้งรับรองแขกและเป็นที่หารือ จิบเครื่องดื่มไป ก็คุยกันไป ดึกเข้าบางคนขึ้นไปนอนโดนไม่รู้ด้วยซ้ำว่าขึ้นไปได้อย่างไร ที่คอแข็งที่สุดเห็นจะเป็น คุณสมเกียรติ ถึกเจริญ จากแซนดิเอโก ที่ดื่มเท่าไรก็ไม่เมา เพราะพี่สั่ง “โค๊ก ออนเดอะร็อก” โดยไม่มีแอลกอฮอลล์เจือปน จนเพื่อนคนหนึ่งล้อว่า “ขนาดเขาเอามาผสมเหล้ายังเมา นี่เล่นดื่มเพียวๆ”
ไม่ดื่มนะดีแล้วละครับ โดยเฉพาะคุณสมเกียรติ ซึ่งถือเป็นหลักคนหนึ่ง นอกจากนี้ยังรณรงค์ทำโครงการ “ขาเทียม” ซึ่งก็ได้ผลอย่างมากในปีที่ผ่านมา ทำให้คนพิการขาขาด สามารถเดินได้ เป็นมหากุศลเลยทีเดียว
พูด ถึงนักร้องของเจ้าพระยาพาร์ค ล้วนร้องเพลงเพราะเพราะถูกคัดสรรมาอย่างดี แต่พอเชิญพวกเราขึ้นไปร้อง ทำเอานักร้องอาชีพเกือบตกงาน อย่าง “รังสิต คงจันทร์” “ชัย มอร์แกน” ไม่ธรรมดา ยิ่งเจอ “เจ้าพ่อเพลงร็อก” ศิษย์เก่าซานเกรเบรียล วาว !!! นักร้องอาชีพก็อาชีพเถอะ อาจตกงานโดยไม่รู้ตัว
ผม ชอบ วันแถลงข่าว มีใครต่อใครมากันมากมาย โดยเฉพาะกรรมการระดับไฮโซ บางคนรวยสุดๆ มากันเพียบ จนเราต้องหลบไปชิดซ้าย (ตามกฎจราจร) มีเพียงแต่ “คุณผิง” ที่พอจะคุย เมกะโปรเจ็กต์ ร้อยล้าน กับเขาได้ คุยกันเสร็จ คุณผิงบอกเราว่า “ถ้าฉันถูกล็อตโต้ ก็รวยเท่าเขาเหมือนกัน”
นัก ข่าวก็มากันเกือบทุกสำนัก ทั้งทีวี วิทยุ หนังสือพิมพ์ ส่วนเราเป็นหนังสือพิมพ์เล็กๆ จากบ้านนอก เราดูพวกคนหนุ่มสาว ทำงานกันแคล่วคล่อง นักข่าวรุ่นลุง ก็ได้แต่มอง เหมือนดูคลื่นกระทบฝั่ง ที่คลื่นลูกใหม่ ซัดคลื่นลูกเก่า ซึ่งเป็นปรากฎการณ์ธรรมชาติที่เป็นสัจธรรม
กงสุล ใหญ่ จักร บุญ-หลง เป็นตัวแทนรัฐบาลไทย ฝ่ายสหรัฐฯ ให้ความสำคัญกับเด็กๆ จนสามารถรับรู้ด้วยความรู้สึก คอยสนับสนุนตลอดรายการ ทั้งยังนำพาไปดูโครงการอันเนื่องจากพระราชดำรัส ที่อ่าวคุ้งกระเบน เพื่อให้เยาวชนได้รู้ว่า ในหลวงของแผ่นดิน พระองค์ท่านทำอะไรเพื่อประชาชน ซึ่งผมจะค่อยๆ เล่า เมื่อถึงช่วงนั้น
งานแถลงข่าว ส่วนใหญ่ ก็เป็นสิ่งที่เรารู้กันอยู่ แต่เนื่องจาก ประธานโครงการ ซึ่งปีนี้รับเป็นประธาน สงกรานต์ ไทยนิวเยียร์เฟสติ วัล บนถนนฮอลลีวูดด้วย ซึ่งได้นำเรื่องดังกล่าวไปเล่าในวันแถลงข่าวว่าชุมชนไทย ปิดถนนฮอลลีวูด เพื่อฉลองสงกรานต์ไทย เพราะฮอลลีวูด เป็นถนนที่คนทั่วโลกรู้จักงานนี้จึงน่าจะสามารถประชาสัมพันธ์ประเทศไทย ต่อสายตาชาวฮอลลีวูดได้ดีที่สุด
โดย เฉพาะ ตัวแทน ททท. ซึ่งร่วมแถลงข่าวด้วย ท่านมองเห็นทะลุปรุโปร่งเลยว่า ถ้า ททท.ที่ประเทศไทยร่วมมือ ก็น่าจะไปกันได้สวยสดงดงาม เมื่อเริ่มต้นได้ดี การสานต่อก็น่าจะไปได้ดีด้วย คุณสุรศักดิ์ ถูกผู้ใหญ่ของ ททท. ตั้งคำถามว่างานนี้ ททท. ได้ช่วยอะไรบ้าง ก็บอกว่าสนับสนุนมาประมาณ 1,500 ดอลลาร์ ท่านก็ตกใจ แค่นั้นเองเหรอ ทีหลังให้ขอที่ส่วนกลางโดยตรง
โอกาสเดียวกันผู้บริหารของบริษัท เสริมสุข จำกัด (มหาชน) ก็ รับปากว่าจะติดต่อกับเป็ปซี่ในอเมริกาให้ แล้วก็ได้คุยกับคัฟเวอร์มาร์ค ที่รับปากจะช่วยเรื่องการประกวดมิสสงกรานต์ กระทรวงวัฒนธรรมก็บอกว่าจะช่วยอีก เท่านั้นยังไม่พอ คุณสุรศักดิ์ เอาเทปงานของปีก่อน ให้กับกรรมการที่เมืองไทยเอาไว้แจกจ่ายให้องค์กรต่างๆ ที่น่าจะสนับสนุน ให้เขาเห็นว่าเราทำกันขนาดนี้
ส่วนการจัดประสบการณ์ให้กับเยาวชน ปีนี้ นอกจากไปสถานที่สำคัญ และพบบุคคลสำคัญในกรุงเทพฯ แล้ว เด็กๆ ได้เยือนอีสาน เมืองแห่งวัฒนธรรมทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ ซึ่งการเดินทางแต่ละจุด ค่อนข้างไกล เราจึงจะต้องใช้เวลาในรถค่อนข้างนาน แต่ก็คุ้มค่า เพราะอีสานปลายฤดูฝน เขียวชอุ่ม ธรรมชาติสองข้างทาง ทำให้เราเพลินตา รถบัส 4 คัน ข้างๆ ติดป้ายโครงการฯ ภายใต้การนำของ ร้อยตรีพนม ตำรวจแห่งกองปราบปราม พาเยาวชนไปสัมผัสบรรยากาศของแผ่นดินแม่ จากเมือง มุ่งสู่ชนบท ผ่านหมู่บ้าน วัดวาอาราม ท้องไร่ท้องนา สัมผัสบรรยากาศของชีวิตอีกรูปแบบหนึ่ง
ปีนี้ “หมวดพนม” จะทำหน้าที่นำคณะของคณะโครงการฯ เป็นครั้งสุดท้ายแล้ว เพราะใกล้ 60 เต็มทีถึงเวลาที่พ้นจากราชการตามวาระ “หมวดพนม” เป็นคนโผงผาง พูดจาตรงไปตรงมา มีน้ำใจ ต้องได้สัมผัส คบค้าจึงได้รู้ใจ และชอบพอ ซึ่งหลายคนในคณะก็รู้สึกเช่นนั้น ขนาดงานบวช ลูกชาย 2 คนของคุณสมชาย คุณกานดา สักงาม ครอบครัวในคณะที่ร่วมโครงการ หมวดยังไปร่วมงาน แถมยังพาคณะไปร่วมงานศพขุนพลเพลงลูกทุ่ง ยอดรัก สลักใจ ถึงวัดไร่ขิง นครปฐม นี่คือส่วนหนึ่งในน้ำใจของผู้หมวด
หลายคนในรถ ยังคิดกันว่า น่าจะเชิญ “หมวดพนม” มาเที่ยวฮอลลัวูดสักครั้ง โดยเฉพาะช่วงงานสงกรานต์ไทยนิวเยียร์ เพื่อเป็นของขวัญในช่วงเกษียณ และเป็นรางวัลในการดูแลคณะเยาวชนตลอดมา ถ้าทำได้ก็ดีไม่น้อย ปรึกษากันดูนะครับ เพราะเรื่องค่าใช้จ่ายไม่ต้องห่วง เห็นว่าคนในโครงการที่ได้คุยกันมาก่อนจะช่วยกันลงขัน ส่วนการเชิญ คงต้องพึ่งคณะของไทยนิวเยียร์ ซึ่งประธานโครงการฯ ทั้งสองโครงการ เป็นคนๆ เดียวกัน ถ้าท่านเห็นด้วยกับความคิดที่เพื่อนๆ ฝากมานี้
ลองหารือกันแล้วเห็นเป็นอย่างไรก็ขอให้บอกมาด้วยครับ พวกเรา “คนเดินทาง” ขอร่วมด้วยช่วยกันอีกแรง.

 

ที่มา : เสรีชัยนิวส์

รณรงค์ “ไทยนิวเยียร์เดย์” เป็นวันหยุดของชุมชนไทย

แอลเอ (ไทยทาวน์ยูเอสเอนิวส์) : บอร์ดไทยนิวเยียร์ฯ ประชุมสรุปผลงาน “ไทยนิวเยียร์เดย์ สงกรานต์เฟสติวัล 2008” เพื่อปรับปรุงให้ดีขึ้นในคราวหน้า พร้อมเปิดกลยุทธ์ดึง “คนไทย” ต่างรัฐ มาร่วมงานให้มากขึ้น รวมถึงสร้างจิตสำนึกให้คนไทยในอเมริกาคิดว่า วันจัดงานฯ ทุกวันอาทิตย์แรกของเดือนเมษายน คือ “วันหยุดของชุมชนไทย” ด้วย
อ่านข่าวเพิ่มเติม

เมื่อบ่ายวันอาทิตย์ที่ 4 พฤษภาคม ได้มีการประชุมคณะกรรมการบริหารขององค์กร ไทยนิวเยียร์เดย์ (สงกรานต์) เฟสติวัล คอร์ป ซึ่งเป็นองค์กรไม่หวังผลกำไรที่ตั้งขึ้นมาเพื่อจัดงานไทยนิวเยียร์เดย์สงกรานต์เฟสติวัล ขึ้นที่บ้านพักของคุณศรีวงศ์ อาญาสิทธิ์ ซึ่งเป็นประธานบอร์ด เพื่อสรุปถึงผลการจัดงานไทยนิวเยียร์เดย์ สงกรานต์เฟสติวัล 2008 ที่ผ่านพ้นไปเมื่อวันที่ 13 เมษายนที่ผ่านมา โดยการประชุมดังกล่าว นอกจากจะพูดถึงปัญหาและอุปสรรค รวมถึงข้อบกพร่องต่างๆ ที่เกิดขึ้นในงานแล้ว ยังมีการเสนอแผนการทำงาน เพื่อดึงนักท่องเที่ยวที่เป็นคนไทยจากต่างเมือง หรือต่างรัฐ ให้มาร่วมงานมากขึ้นด้วย

นายนภดล วงศ์ชัยวัฒน์ เลขานุการบอร์ด กล่าวต่อที่ประชุมว่า ตัวเลขผู้มาร่วมงานในปีนี้ มีการประเมินว่าไม่ต่ำกว่า 60,000 คน โดยส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ เพราะมีการประชาสัมพันธ์ในสื่อต่างประเทศอย่างได้ผล แต่ตัวเลขผู้ร่วมงานที่เป็นคนไทยยังไม่มากนัก ดังนั้นจึงอยากเสนอกลยุทธ์ในการดึงคนไทยจากต่างรัฐให้มาร่วมงานไทยนิวเยียร์เดย์ฯ ด้วย โดยตนเสนอให้ตั้งเป้าหมายที่เป็นคนไทยเอาไว้ 20 เปอร์เซ็นต์ของผู้ร่วมงานทั้งหมด ซึ่งตกประมาณหมื่นคนเศษ โดยตนขอเสนอกลยุทธ์ในการดึงคนไทยมาร่วมงานต่อบอร์ดสองข้อ คือรณรงค์ให้คนไทยในอเมริกาเกิดความรู้สึกว่า วันจัดงานไทยนิวเยียร์ฯ ซึ่งจะตรงกับวันอาทิตย์แรกของเดือนเมษายนนั้น เป็นวันหยุดของชุมชนไทยที่นี่ และประการที่สองคือพยายามดึงชุมชนไทยต่างรัฐเข้ามามีส่วนร่วมในฐานะผู้จัดงานด้วย
“จริงๆ วันอาทิตย์มันก็เป็นวันหยุดอยู่แล้ว แต่อยากให้คนไทยในอเมริกาเกิดความรู้สึกว่าคือวันสำคัญของพวกเราที่นี่ หนึ่งปีมีครั้งเดียว จะได้เกิดความตื่นตัว วางแผนเดินทางมาเที่ยวงานกัน มาร่วมโชว์พลังของคนไทยเรากันดีกว่าให้รู้ว่าคนไทยเรามีเยอะมาก อาจจะตั้งชื่อขึ้นมา เช่นเป็นวันครอบครัว ก็ได้” นายนภดลกล่าว และยกตัวอย่างชุมชนเขมรที่ลองบีช ซึ่งสามารถจัดงานปีใหม่ของเขมรได้อย่างยิ่งใหญ่ เพราะชาวเขมรทั่วอเมริกาถือว่าเป็นวันหยุดของพวกเขา จึงเดินทางมาร่วมงานกันอย่างพร้อมเพรียง
ส่วนการดึงชุมชนไทยในต่างรัฐเข้ามามีส่วนร่วมในฐานะคณะกรรมการจัดงานไทยนิวเยียร์เดย์ฯ นั้น นายนภดลกล่าวว่า ในช่วงที่ผ่านมา ตนเดินทางไปทำธุรกิจที่ต่างรัฐบ่อย และได้เห็นว่าคนไทยในต่างรัฐมีความสนใจงานไทยนิวเยียร์เดย์ฯ ค่อนข้างมาก
“ผมได้คุยกับผู้นำชุมชนหลายๆ คน ที่เขาได้ดูการถ่ายทอดสดงานไทยนิวเยียร์เดย์ฯ ปีนี้ทางสถานีไอพีทีวี เขาบอกว่าไม่คิดว่างานจะใหญ่ขนาดนี้ เขาไม่คิดว่าเราจะปิดถนนฮอลลีวูดทีเดียว 5-6 บล็อกแบบนี้ อยากจะมาเที่ยว ผมก็เลยได้คิดว่าเราไม่ควรตีกรอบกันอยู่แค่คนแอลเอ ควรให้ต่างรัฐมาร่วมด้วย เพื่อให้เป็นงานของคนไทยในอเมริกาจริงๆ” นายนภดลกล่าว และให้รายละเอียดว่าบอร์ดฯ ควรคัดเลือกผู้นำชุมชนในรัฐ หรือเมืองต่างๆ ที่มีคุณสมบัติเหมาะสม แล้วแต่งตั้งเป็นคณะกรรมการจัดงานของเมืองหรือรัฐนั้น มีหน้าที่ในการช่วยประชาสัมพันธ์งานไทยนิวเยียร์ฯ และเมื่อถึงเวลาให้พาคนมาร่วมงาน อย่างน้อย 20 คนขึ้นไป โดยคณะกรรมการจัดงานฯ จะให้สิทธิพิเศษต่างๆ กับคนไทยต่างรัฐ เช่นมีบริการรับส่งจากสนามบิน มีห้องพักราคาพิเศษ และในวันงาน จะได้รับสายรัดข้อมือระบุว่าเป็นแขกพิเศษ สามารถเข้าไปรับประทานอาหารที่จัดเตรียมเป็นพิเศษ หรือเข้าชมการแสดงต่างๆ รวมถึงการประกวดมิสไทยนิวเยียร์ยูเอสเอได้โดยไม่ต้องเสียค่าผ่านประตู เป็นต้น
ในส่วนของกลยุทธ์ในการดึงคนไทยมาร่วมงานไทยนิวเยียร์เดย์ฯ ให้มากขึ้นทั้งสองข้อดังกล่าว ที่ประชุมมีมติเป็นเอกฉันท์ และให้เลขานุการบอร์ด ไทยนิวเยียร์ (สงกรานต์) เฟสติวัล คอร์ป รับอาสาไปดำเนินการ
นอกจากนี้ เลขานุการบอร์ดยังได้เสนอต่อที่ประชุมอีกว่า การจัดชกมวยไทย ซึ่งสามารถเรียกผู้ชมชาวต่างชาติได้มากมายมหาศาลทุกปีนั้น หากสามารถติดต่อโปรโมเตอร์รายใหญ่ๆ ให้มาจัดแข่งขันชกมวยชิงเข็มขัดกันในงาน จะทำให้กิจกรรมมวยไทยมีความน่าสนใจมากขึ้น อีกทั้งสามารถลดค่าใช้จ่าย ทั้งเรื่องค่าตัวนักมวยและค่าจัดตั้งเวที ซึ่งเพิ่มสูงขึ้นทุกปี
“ผมคุยๆ กับบางค่ายไว้แล้ว เขาก็สนใจเหมือนกัน เพราะมาจัดในงานเรา เรารับประกันคนดูเป็นหมื่นๆ อยู่แล้ว เราก็ให้เขาหาสปอนเซอร์เอาเอง ขอไลเซนซ์ต่างๆ เอาเอง จะถ่ายทอดสดอะไรก็ได้ แต่ต้องบริจาคให้เราบ้างนิดหน่อย ถ้าทำได้อย่างนี้ เราไม่ต้องเสียเงินค่าจัดค่าตั้งเวที ไม่ต้องปวดหัวกับเรื่องไลเซนซ์ต่างๆ เพราะมีรายละเอียดเยอะมาก แถมคนจะได้ดูมวยระดับแชมป์จริงๆ จะกี่คู่ก็แล้วแต่ ถ้าหมดแล้วค่อยเอามวยท้องถิ่นขึ้นชก” นายนภดล วงศ์ชัยวัฒน์ กล่าว
ประเด็นสุดท้ายที่เลขานุการบอร์ดยกขึ้นเสนอต่อที่ประชุมก็คือ การจัดทำฟลอร์แพลน หรือแผนผังการจัดงานที่ได้มาตรฐาน โดยจ้างผู้เชี่ยวชาญมาทำรังวัดบริเวณจัดงานถนนฮอลลีวูดอย่างละเอียด และลงรายละเอียดเรื่องจุดตั้งบูธต่างๆ ให้ได้มาตรฐาน เพื่อไม่ให้เกิดปัญหามีบูธมากกว่าพื้นที่เหมือนเช่นปีที่ผ่านๆ มา
“ปีที่ผ่านๆ มา เรามีบูธบนฟลอร์แพลนมากกว่าพื้นที่ถนนจริงๆ ถึงเวลาก็เลยเบียดกันจนแน่นไปหมด หากเรามีฟลอร์แพลนที่เป็นจริง ลงบูธไปเลยว่ามีเท่าไหร่ถึงจะไม่อึดอัด แล้วก็ห้ามแก้เลย จากนั้นเราก็ขายบูธล่วงหน้าได้เลย” นายนภดลกล่าว ซึ่งที่ประชุมมีมติเห็นชอบ และเสนอว่าระบบการจองบูธในปีต่อๆ ไป ให้ใช้ระบบออนไลน์ ผ่านเว็บไซต์ของงาน (www.thainewyear.com) โดยจะเริ่มเปิดให้ผู้ประกอบการรายเดิมได้จองก่อนในราวเดือนสิงหาคม จากนั้นจะเปิดให้ผู้สนใจทั่วไปเข้าจองในราวเดือนตุลาคม จนถึงธันวาคม ซึ่งจะทำให้การเตรียมจัดงานในปี 2009 นั้น คณะกรรมการจัดงานฯ ชุดต่อไป สามารถเตรียมงานได้อย่างเต็มที่ ไม่ต้องพะวงเรื่องการจำหน่ายบูธอาหารและสินค้าในงานอีกต่อไป
ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารขององค์กรไทยนิวเยียร์เดย์ (สงกรานต์) เฟสติวัล คอร์ป ยังมีการพูดคุยกันอีกหลายประเด็น เช่นวิธีที่จะทำให้มีคนดูขบวนพาเหรดวัฒนธรรมให้มากขึ้น เช่นติดต่อวงโยธวาทิตที่มีชื่อเสียงจากประเทศไทย เพื่อเพิ่มความคึกคักให้กับขบวน มีการประชาสัมพันธ์เน้นเฉพาะที่พาเหรดวัฒนธรรมให้มากขึ้น หรือมีการตั้งกองประชาสัมพันธ์ระหว่างเส้นทาง คอยบรรยายถึงพาเหรดขบวนต่างๆ เพื่อดึงคนให้ไปรวมตัวกันมากขึ้น รวมถึงการหยุดการแสดงบนเวทีทั้งหมด และให้พิธีกรประกาศเชิญชวนคนให้เดินไปดูพาเหรด เป็นต้น
ส่วนเวทีประกวดมิสสงกรานต์ยูเอสเอนั้น ที่ประชุมเห็นว่าควรจัดการเรื่องที่นั่งของผู้ชมให้ดีขึ้น รวมถึงเพิ่มจำนวนที่นั่งให้มากขึ้น เพราะถือว่าเป็นกิจกรรมที่ประสบความสำเร็จ มีผู้ชมไม่น้อยกว่าเวทีมวย อีกทั้งเป็นแหล่งรายได้ที่สำคัญสำหรับนำมาเป็นต้นทุนการจัดงานด้วย
ประเด็นการเชิญศิลปินที่มีชื่อเสียงจากประเทศไทย ที่จะต้องมีการวางแผนล่วงหน้าให้นานกว่าเดิม อีกทั้งต้องสร้างความเข้าใจให้ศิลปินทราบว่า งานไทยนิวเยียร์เดย์ฯ เป็นงานที่จัดขึ้นเพื่อประโยชน์ของประเทศชาติ อาจไม่คิดค่าตัวมากนัก โดยทางคณะกรรมการจัดงาน ยินดีดูแลเรื่องค่าเดินทาง และช่วยประชาสัมพันธ์การแสดงในเมืองหรือรัฐต่างๆ ของศิลปินคนนั้นให้
และประเด็นสุดท้ายคือการพิจารณาเรื่องบูธขององค์กรไม่หวังผลกำไร ที่ขอเปิดบูธมากจนเกินความจำเป็น และบางองค์กรเพียงแต่มาแจกใบปลิว หรือโบรชัวร์ต่างๆ ที่ประชุมมีมติให้มีการคัดเลือกองค์กรต่างๆ ให้ละเอียดขึ้น ให้เหลือเฉพาะองค์กรที่จะมีการจัดกิจกรรมที่มีประโยชน์กับผู้มาร่วมงานจริงๆ เท่านั้น เพื่อจะได้จัดสรรค์พื้นที่เป็นเต็นท์สำหรับผู้มาร่วมงานได้หลบแดด หรือรับประทานอาหารแทน
ในช่วงท้ายของการประชุม ได้มีการพูดคุยกันถึงบัญชีรายรับ-รายจ่ายของการจัดงานปีนี้ ซึ่งขณะนี้สามารถสรุปรายรับว่ามีประมาณ 177,114 ดอลลาร์ ส่วนรายจ่ายเท่าที่สรุปได้ในเบื้องต้น มีประมาณ 154,422.96 ดอลลาร์ โดยในขณะนี้ กำลังมีการเร่งสรุปบัญชี เพื่อประกาศให้สาธารณชนได้ทราบต่อไป
อนึ่ง ในกรณีที่มีเจ้าของหนังสือพิมพ์ภาษาไทยฉบับหนึ่ง ประกาศคัดค้านการจัดงานไทยนิวเยียร์เดย์ฯ ต่อเนื่องกันเป็นระยะ โดยกล่าวหาว่างานไทยนิวเยียร์ฯ ไม่ใช่งานเผยแพร่วัฒนธรรมไทย แต่เป็นงาน “สิงห์เดย์” เพราะมีเบียร์สิงห์ เป็นสปอนเซอร์หลัก และข้อกล่าวหาอื่นๆ นั้น ที่ประชุมบอร์ด กล่าวว่าคงไม่มีมาตรการตอบโต้ เพราะการคัดค้านของบุคคลดังกล่าวคงไม่เป็นผล
“ถ้าเราดูผลประโยชน์ที่ได้จากงานนี้โดยภาพรวม จะเห็นว่ามีแต่เป็นบวก ทั้งในแง่ชื่อเสียงภาพพจน์ของประเทศ ของชุมชนไทย หรือในแง่เศรษฐกิจ ที่ทุกร้านในไทยทาวน์ขายดีกันทั่วหน้า เงินสะพัดอยู่ในพื้นที่มากมายมหาศาล คนที่ออกมาต่อต้าน เราก็รู้อยู่ว่ามันเป็นเรื่องส่วนตัวของเขา เพราะถ้ามองตัวงานจริงๆ แล้ว ไทยนิวเยียร์ฯ ไม่มีอะไรให้ต่อต้านหรอก เพราะมันมีประโยชน์ให้กับสังคม ให้กับชุมชนอย่างที่เห็นๆ กัน คือคนที่ออกมาต่อต้านเพราะเหตุผลส่วนตัวนั้น เราคงไม่ไปทำอะไร เพราะจะเป็นการให้ค่ากับคนคนนั้นเกินไป” นายนภดล วงศ์ชัยวัฒน์ เลขานุการบอร์ด กล่าวในที่สุด.

 

นำเสนอข่าวโดย : ภาณุพล รักแต่งาม
ที่มา : ไทยทาวน์ ยูเอสเอนิวส์

ศักดิ์ศรีของชุมชนไทยในอเมริกา

แอลเอ (ไทยทาวน์ยูเอสเอนิวส์) : ได้มีโอกาสอ่านบทความเรื่อง Thai Community in Los Angeles ของ ดร.สมบูรณ์ สุขสำราญ แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย บนเว็บไซต์แห่งหนึ่ง แม้ท่านจะวิเคราะห์เอาไว้นานมากแล้ว บรรดาตัวเลขประเมินต่างๆ อาจจะเปลี่ยนไป แต่ความเป็น “ปัจจุบัน” ของบทวิเคราะห์ดังกล่าว ยังมีอยู่อย่างครบถ้วน
อ่านข่าวเพิ่มเติม

ท่านบอกว่าคนไทยในแอลเอ แยกได้เป็นสี่กลุ่ม คือ 1 กลุ่มนักเรียน 2 กลุ่ม “กู๊ด โอล ไทม์เมอร์” ที่ใช้ชีวิตในลอส แอนเจลิส นานกว่าสิบปีขึ้นไป ส่วนใหญ่มาอเมริกาเพื่อเรียนหนังสือ ฝึกอบรม แต่หลงมนต์เสน่ห์ของอเมริกา หรือได้รับโอกาสเกี่ยวกับหน้าที่การงานที่ดี 3 กลุ่ม “รีเมนส์ ออฟ เดอะ โกลด์ รัช” ซึ่งเป็นกลุ่มคนไทยกลุ่มใหญ่ที่สุดของสหรัฐฯ อยู่มานาน 30 ปีขึ้นไป อาจมีการศึกษาไม่สูงนัก แต่มุ่งมั่นและดิ้นรนไขว่คว้าสร้างอนาคตให้กับตัวเองโดยไม่เกี่ยงงานหนัก และ 4 กลุ่มธุรกิจ ซึ่งปัจจุบันมีธุรกิจของคนไทยแทบครบถ้วนในดินแดนแห่งนี้ และธุรกิจไทยเหล่านี้เป็นแหล่งงานชั้นเยี่ยมของคนไทยด้วยกันเอง
อ.สมบูรณ์ สุขสำราญ วิเคราะห์สภาพชีวิตคนไทยในแอลเออย่างแม่นยำในอีกหลายเรื่อง เช่นเรื่อง “ความเป็นไทย” หรือ Thai-ness เรื่องสภาพทางเศรษฐกิจ เรื่องความยึดมั่นศรัทธาในพระพุทธศาสนา ฯลฯ รวมถึงเรื่องความ “สามัคคี” ในรูปแบบแปลกๆ ที่ดูเหมือนจะเป็นเอกลักษณ์ของคนไทยในแอลเอโดยเฉพาะ
ท่านว่า “ความสัมพันธ์ในเชิงอุปถัมภ์ ที่เป็นรูปแบบเฉพาะของสังคมของไทยยังมีอยู่ การเอื้อเฟื้อเกื้อกูล และการทะเลาะเบาะแว้งสามารถพบเห็นกันได้ทั่วไป แต่ความสามัคคีในกลุ่มคนไทยด้วยกัน หากเทียบกับเกาหลี ญี่ปุ่นหรือฟิลิปปินส์แล้ว ถือว่าอ่อนแอมาก ฐานะหรือลำดับชั้นทางสังคม รวมถึงระบบอาวุโสยังมีอยู่ แต่ค่อนข้างเจือจางหากเทียบกับในประเทศไทย อย่างไรก็ดี ความสามัคคีของคนไทยสามารถถูกปลุกเร้าขึ้นมาได้ทันทีหากเกิดเหตุการณ์วิกฤตที่บ้านเกิด คนไทยพร้อมจะจับมือแสดงพลังต่อต้านรัฐบาลที่ไม่ถูกต้อง”
ท่านว่า “ขณะที่คนไทยที่นี่ รวมพลังกันทำเคมเปญต่อต้านบางประเด็น บางเรื่องราวในนามของคนไทยในอเมริกา แต่ความรู้สึกผูกพันระหว่างคนไทยในอเมริกาด้วยกันเองกลับไม่เข้มแข็งมากนัก เพราะความเป็น ‘ชาติ (ไทย) นิยม’ ไม่ค่อยมี… แต่ไม่ได้หมายความว่าคนไทยจะมีความรู้ว่าตัวเองเป็นอเมริกัน แม้จะมีความสุขกับสวัสดิการสังคม และโอกาสที่เปิดกว้าง แต่คนไทยส่วนหนึ่งยังรู้สึกว่าตัวเองเป็น “พลเมืองชั้นสอง” และเป้าหมายชีวิตประเภท “จะกลับไปรีไทร์ที่เมืองไทย” คือเป้าหมายอันดับหนึ่งของคนไทยในลอส แอนเจลิส
ท่านว่า “เด็กไทยที่ถือกำเนิดในอเมริกา เรียกว่า “ไทย-อเมริกัน” ได้รับการอบรมศึกษาในอเมริกา เติบโตอยู่ในวัฒนธรรมอเมริกัน จะมีความคิดแตกต่างจากพ่อแม่ซึ่งอพยพมาจากเมืองไทย เด็กไทยรุ่นหลังต้องการใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ แนวคิดในการกลับไป “แผ่นดินแม่” เป็นการถาวรเกิดขึ้นได้ยาก ผลที่เกิดตามมาคือ พ่อแม่ผู้ปกครองต้องยอมเสียสละ ละทิ้งความฝันของตัวเองและอยู่ในอเมริกากับลูกๆ ต่อไป”
บทวิเคราะห์ของอาจารย์จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยท่านนี้ ถือเป็นภาพสะท้อนที่ชัดเจนของชุมชนไทยในลอส แอนเจลิส ที่เติบโตขึ้นเรื่อยๆ และทำให้เราเห็นภาพได้ค่อนข้างชัดเจนว่า หากชุมชนไทยยังคงอยู่ไปวันๆ ไม่มีการสร้างความยอมรับให้เกิดขึ้นในสายตาต่างชาติ ความเป็นไทย หรือ Thai-ness ก็จะเจือจางลงไปเรื่อยๆ เด็กรุ่นใหม่ที่กำลังเติบโตขึ้น และต้องรับผิดชอบสังคมไทยในอเมริกาสืบต่อจากผู้ใหญ่รุ่นปัจจุบัน ก็จะอยู่ในสภาพไร้ราก ไร้จุดเด่น ไร้จุดยืน และไร้ซึ่งความเคารพนับถือ
การส่งเสริมวัฒนธรรมไทยให้ต่างชาติได้รับรู้ในอเมริกา จึงเป็นความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะความมีอารยธรรมอันยาวนานของเราคือสิ่งหนึ่งที่น่าภาคภูมิใจ และเป็นสิ่งที่นานาชาติชื่นชม
เราขอชื่นชมผู้อยู่เบื้องหลังงานไทยนิวเยียร์เดย์สงกรานต์เฟสติวัล ที่จะเกิดขึ้นบนถนนฮอลลีวูดในวันสงกรานต์ 13 เมษายนนี้ เพราะงานนี้คือ “โชว์เคส” ความเป็นไทยที่สมบูรณ์แบบ และยิ่งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยเกิดขึ้นบนผืนแผ่นดินอเมริกา
หากเราเชื่อตามแนวคิดที่ว่า หากจะอยู่ในอเมริกา เราต้องอยู่อย่างมีศักดิ์ศรี งานนี้คือการแสดงศักดิ์ศรีของชุมชนไทยในลอส แอนเจลิส อย่างแท้จริง.

นำเสนอข่าวโดย : ภาณุพล รักแต่งาม
ที่มา : ไทยทาวน์ ยูเอสเอนิวส์